เชื่อไหม ถ้าผมจะบอกคุณว่า
วิชาในระบบการศึกษาไทย (ประถม-มัธยม) ส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์
และควรจะใส่วิชาเทรดเดอร์ [สาย VI + เทคนิก (โดยเฉพาะเทคนิก)] + โหราศาสตร์ เข้าไปในหลักสูตรมากกว่า โดยให้เป็นวิชาบังคับด้วย
************************************************************************************************************************************************************
เพราะอะไรไปดูกัน
1. วิชา เทรดเดอร์ [สาย VI + เทคนิก (โดยเฉพาะเทคนิก)]
เป็นวิชาหาเงินได้มหาศาล จากตลาด หุ้น / คริปโต / Forex / Option
ที่คนส่วนใหญ่ในโลก และโดยเฉพาะคนรวย ยังไงก็ต้องมาหาเงินจากการตลาดพวกนี้อยุ่ดี
ไม่ว่า คุณจะหาเงินได้มากน้อยแค่ไหนก็ตาม
เพราะเมื่อเงินเก็บคุณมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง คุณจำเป็นต้องลงทุน/เทรด ในตลาดพวกนี้ เพื่อเลื่อนชนชั้นทางการเงินขึ้นไปอยู่ดี
ตามทฤษฏี การเงิน 4 ด้าน ของ โรเบิร์ต ฮิโรซากิ (พ่อรวยสอนลูก)
ที่คนไทยส่วนใหญให้การยอมรับ
โดยเน้นว่า วิชาอ่านกราฟเทคนิก สำคัญที่สุด ในบรรดา วิชาของเทรดเดอร์ ที่ต้องเน้นสอนเป็นวิชาบังคับในระบบการศึกษาไทย (ประถม-มัธยม)
ให้ได้มากที่สุด
รองลงมาก็ วิชา VI + วิชาวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจในโลกการเงิน
เพราะมัน คือ "วิชาที่หาเงินได้มากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะ ยุคสมัยใดก็ตาม"
เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่สมควรจะเป็นวิชาบังคับ เพราะมันช่วยให้ทุกคนมีโอกาสจะเลื่อนชั้นเป็นคนรวยขึ้นได้ง่ายกว่า
จบไปทำงานเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนตามที่ระบบการศึกษาไทยสอนกันมาตลอดแน่นอน
แม้วิชานี้มันจะไม่ได้ช่วยให้คนไปเพิ่ม Productivity แก่ระบบเศรษฐกิจตรงๆก็ตาม
2. วิชา โหราศาสตร์
ที่ถูกคนไทยส่วนใหญ่ มองว่า งมงายในยุคก่อนๆ และยุคนี้ก็มีอยู่เยอะ
แต่คุณรู้ไหมว่า มันเป็นวิชาที่ทำให้ ทุกคน รู้จักตนเอง ทั้งแง่ ความสามารถ / นิสัย / ความคิด / ความถนัด / เส้นทางอาชีพที่เหมาะสม /
สังคม-เพื่อน-แฟน-ครอบครัว ความสัมพันธ์ที่เหมาะสม / การเงินที่เหมาะสม / ... กับตัวคุณ
ได้มากกว่า วิชา จิตวิทยา + วิชา แนะนำ ที่ครูแนะนำ ใช้ในการเลือกอาชีพให้เด็กนักเรียนก่อนจบมัธยมซะอีก
แถมยังสามารถทาย เหตุการณ์ในชีวิตทั้ง อดีต-ปัจจุบัน-อดีต ได้อย่างแม่นยำด้วย หากผู้ใช้วิชาโหราศาสตร์ คนนั้นเก่งมากพอ (ดาวจร)
จึงสามารถทำให้ทุกคนสามารถหาทางรับมือกับช่วงดวงร้ายเป็นขาลงของชีวิต
และเสริมแกร่งให้ทรงพลังกับช่วงดวงดีเป็นขาขึ้นของชีวิต
เพราะมัน คือ "วิชาชีวิต ไม่ว่าจะ ยุคสมัยใดก็ตาม"
เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่สมควรจะเป็นวิชาบังคับ
เพราะมันช่วยให้ทุกคนไม่ตัดสินใจเลือกทางเดิน และพฤติกรรม ในชีวิตที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงก่อนที่จะสายเกินแก้ (อายุเยอะเกินไป) ได้
และแน่นอน 2 วิชา ต่างต้องใช้วิชาในการ ศึกษาเรียนรู้ / ฝึกฝน / เก็บสถิติทดสอบวิชาเพิ่ม อย่างยาวนาน
เวลา 12 ปี ตั้งแต่สมัย ประถม-มัธยม ถึงเหมาะมากที่จะมีวิชาพวกนี้เข้าไปเป็นวิชาบังคับในหลักสูตร
************************************************************************************************************************************************************
ส่วนบางวิชาบังคับ ที่มีประโยชน์ คนส่วนน้อย หรือ น้อยอาชีพ / น้อยตำแหน่งงาน ในสังคมไทย จะได้ใช้งานจริง / ใช้ประโยชน์ จากมัน
ควรกลายเป็น วิชาเลือก ไปซะ
เช่น
- คณิตศาสตร์ขั้นสูง ม.ปลาย บางวิชา คือ แคลคูลัส ที่ได้ใช้แค่ บางอาชีพ / บางตำแหน่งงาน เท่านั้น
เช่น โปรแกรมเมอร์ เฉพาะทางบางตำแหน่ง / วิศวกรรม เฉพาะทางบางตำแหน่ง / อาจารย์วิทย์และคณิตศาสตร์ ระดับมหาลัย-มัธยม
(หรือจะเถียงว่า ไม่ใช่ บางอาชีพ / บางตำแหน่งงาน ก็ได้นะ เพราะความจริงก็เป็นคนส่วนน้อยของสังคมไทยอยู่ดี ไม่ใช่ส่วนใหญ่)
วิชาในระบบการศึกษาไทย (ประถม-มัธยม) ส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์ และควรจะใส่วิชาเทรดเดอร์+โหราศาสตร์ เข้าไปในหลักสูตรมากกว่า
วิชาในระบบการศึกษาไทย (ประถม-มัธยม) ส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์
และควรจะใส่วิชาเทรดเดอร์ [สาย VI + เทคนิก (โดยเฉพาะเทคนิก)] + โหราศาสตร์ เข้าไปในหลักสูตรมากกว่า โดยให้เป็นวิชาบังคับด้วย
************************************************************************************************************************************************************
เพราะอะไรไปดูกัน
1. วิชา เทรดเดอร์ [สาย VI + เทคนิก (โดยเฉพาะเทคนิก)]
เป็นวิชาหาเงินได้มหาศาล จากตลาด หุ้น / คริปโต / Forex / Option
ที่คนส่วนใหญ่ในโลก และโดยเฉพาะคนรวย ยังไงก็ต้องมาหาเงินจากการตลาดพวกนี้อยุ่ดี
ไม่ว่า คุณจะหาเงินได้มากน้อยแค่ไหนก็ตาม
เพราะเมื่อเงินเก็บคุณมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง คุณจำเป็นต้องลงทุน/เทรด ในตลาดพวกนี้ เพื่อเลื่อนชนชั้นทางการเงินขึ้นไปอยู่ดี
ตามทฤษฏี การเงิน 4 ด้าน ของ โรเบิร์ต ฮิโรซากิ (พ่อรวยสอนลูก)
ที่คนไทยส่วนใหญให้การยอมรับ
โดยเน้นว่า วิชาอ่านกราฟเทคนิก สำคัญที่สุด ในบรรดา วิชาของเทรดเดอร์ ที่ต้องเน้นสอนเป็นวิชาบังคับในระบบการศึกษาไทย (ประถม-มัธยม)
ให้ได้มากที่สุด
รองลงมาก็ วิชา VI + วิชาวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจในโลกการเงิน
เพราะมัน คือ "วิชาที่หาเงินได้มากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะ ยุคสมัยใดก็ตาม"
เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่สมควรจะเป็นวิชาบังคับ เพราะมันช่วยให้ทุกคนมีโอกาสจะเลื่อนชั้นเป็นคนรวยขึ้นได้ง่ายกว่า
จบไปทำงานเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนตามที่ระบบการศึกษาไทยสอนกันมาตลอดแน่นอน
แม้วิชานี้มันจะไม่ได้ช่วยให้คนไปเพิ่ม Productivity แก่ระบบเศรษฐกิจตรงๆก็ตาม
2. วิชา โหราศาสตร์
ที่ถูกคนไทยส่วนใหญ่ มองว่า งมงายในยุคก่อนๆ และยุคนี้ก็มีอยู่เยอะ
แต่คุณรู้ไหมว่า มันเป็นวิชาที่ทำให้ ทุกคน รู้จักตนเอง ทั้งแง่ ความสามารถ / นิสัย / ความคิด / ความถนัด / เส้นทางอาชีพที่เหมาะสม /
สังคม-เพื่อน-แฟน-ครอบครัว ความสัมพันธ์ที่เหมาะสม / การเงินที่เหมาะสม / ... กับตัวคุณ
ได้มากกว่า วิชา จิตวิทยา + วิชา แนะนำ ที่ครูแนะนำ ใช้ในการเลือกอาชีพให้เด็กนักเรียนก่อนจบมัธยมซะอีก
แถมยังสามารถทาย เหตุการณ์ในชีวิตทั้ง อดีต-ปัจจุบัน-อดีต ได้อย่างแม่นยำด้วย หากผู้ใช้วิชาโหราศาสตร์ คนนั้นเก่งมากพอ (ดาวจร)
จึงสามารถทำให้ทุกคนสามารถหาทางรับมือกับช่วงดวงร้ายเป็นขาลงของชีวิต
และเสริมแกร่งให้ทรงพลังกับช่วงดวงดีเป็นขาขึ้นของชีวิต
เพราะมัน คือ "วิชาชีวิต ไม่ว่าจะ ยุคสมัยใดก็ตาม"
เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่สมควรจะเป็นวิชาบังคับ
เพราะมันช่วยให้ทุกคนไม่ตัดสินใจเลือกทางเดิน และพฤติกรรม ในชีวิตที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงก่อนที่จะสายเกินแก้ (อายุเยอะเกินไป) ได้
และแน่นอน 2 วิชา ต่างต้องใช้วิชาในการ ศึกษาเรียนรู้ / ฝึกฝน / เก็บสถิติทดสอบวิชาเพิ่ม อย่างยาวนาน
เวลา 12 ปี ตั้งแต่สมัย ประถม-มัธยม ถึงเหมาะมากที่จะมีวิชาพวกนี้เข้าไปเป็นวิชาบังคับในหลักสูตร
************************************************************************************************************************************************************
ส่วนบางวิชาบังคับ ที่มีประโยชน์ คนส่วนน้อย หรือ น้อยอาชีพ / น้อยตำแหน่งงาน ในสังคมไทย จะได้ใช้งานจริง / ใช้ประโยชน์ จากมัน
ควรกลายเป็น วิชาเลือก ไปซะ
เช่น
- คณิตศาสตร์ขั้นสูง ม.ปลาย บางวิชา คือ แคลคูลัส ที่ได้ใช้แค่ บางอาชีพ / บางตำแหน่งงาน เท่านั้น
เช่น โปรแกรมเมอร์ เฉพาะทางบางตำแหน่ง / วิศวกรรม เฉพาะทางบางตำแหน่ง / อาจารย์วิทย์และคณิตศาสตร์ ระดับมหาลัย-มัธยม
(หรือจะเถียงว่า ไม่ใช่ บางอาชีพ / บางตำแหน่งงาน ก็ได้นะ เพราะความจริงก็เป็นคนส่วนน้อยของสังคมไทยอยู่ดี ไม่ใช่ส่วนใหญ่)