ในที่สุดก็ประกาศงบไตรมาส 2 ของทั้ง 2 ธุรกิจ Media ในตลาดหุ้น
BEC
https://weblink.set.or.th/dat/news/202408/0592NWS090820241756180242T.pdf
ONEE
https://weblink.set.or.th/dat/news/202408/1670NWS080820242133270616T.pdf
ธุรกิจ BEC คือ ช่อง 3 (33)
ธุรกิจ ONEE คือ ช่องวัน (31) / ช่อง 25 / GMM Media ( GMMTV / CHANGE2561 / ATimemedia) / GMM studio
ก็เป็นเหมือนเดิมที่กลุ่ม ONEE มีรายได้มากกว่า BEC
แต่ที่น่าสนใจคือทั้งสององค์กรสามารถรักษากำไรให้อยู่ในระดับเกือบเท่าเดิมจากไตรมาส 2/66
แต่ก็ลดลงกันทั้งคู่
BEC รายได้ทั้งหมดยังอยู่ที่โฆษณาของช่อง 3 (ประมาณ 84%)
ONEE รายได้ในส่วนของโฆษณาอยู่ที่ระดับ 45 % ของกลุ่มธุรกิจทั้งหมด
BEC เรียกว่าดวงใจเทวพรหมเข้ามาเป็นเดอะแบกในธุรกิจลิขสิทธิ์และบริการอื่น ๆ
เพราะทำรายรับดีกว่ากว่าไตรมาส 1/67 และ ไตรมาส 2/66
BEC ตั้งแต่ไตรมาสนี้เริ่มธุรกิจ Fan Meeting อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น
คงจะมีรายรับส่วนนี้ในอนาคตเหมือนกลุ่ม ONEE
BEC มองธี่หยด 2 เป็นตัวสร้างกำไรในไตรมาสสุดท้าย
และยังได้รายได้จากธี่หยด นอกจากไตรมาสที่หนังออกอากาศ
รวมไตรมาสครึ่งปีแรก 3.9 + 6.0 รวมรายได้ 9.9 ล้านบาท
ONEE ธุรกิจทุกตัวในกลุ่มโตขึ้นหมด แต่ก็ต้องพ่วงรายจ่ายที่มากขึ้น
ทำให้กำไรของกลุ่มอยู่ในระดับเท่าเดิมจากปีที่แล้ว
ONEE ปรับรูปแบบบริหารการการลิขสิทธิ์ให้กับ OTT และคู่ค้าอื่นมากขึ้น
เริ่มคล้ายกับ BEC single content multiple platform
ONEE ลดรายได้จากการรับจ้างผลิตไปสู่ Original Content
อาจหมายถึงตัวช่อง ONE และ change2561 จึงเกิด OneD Original / CHANGE ORIGINAL
ทำให้ Change เริ่มลดผลิตละครลงช่องต่าง ๆ และเพิ่ม Original content ตัวเองมากขึ้น
ONEE มีส่วนค่าใช้จ่ายบริหารมากขึ้น
เนื่องจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน จากการปรับอัตราเงินเดือนและโบนัสประจำปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ขึ้นอยู่กับ Performance
BEC มีต้นทุนการขายที่แปรตามละครออกอากาศ
โดยไตรมาสนี้มีต้นทุนการขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก
แต่ลดลงจากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว
เนื่องจาก ไตรมาสมีละคร First - Run มากขึ้นจากไตรมาสแรก
แต่มีละคร Re-Run มากขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
แสดงให้เห็นว่าละคร First Run มีมูลค่าแม้จะผลิตมาตั้งแต่ไหน
ถ้ายังไม่เคยออกอากาศ ก็ยังนับเป็นรายจ่ายของสถานีแต่ละไตรมาส
* ถ้าครึ่งหลังที่สถานีลดการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ จะทำให้รายจ่ายส่วนนี้ลดลงแค่ไหน
แล้วมาดูการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในไตรมาส 3 ที่น่าจะประกาศผลออกมาเดือน พ.ย.
ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งสององค์กร
ปล. ทั้งสององค์กรเปลี่ยน CFO (ฝ่ายบัญชีและการเงิน) ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ส่องรายรับและรายจ่ายผ่านผลประกอบการ BEC / ONEE กับทิศทางละคร
BEC
https://weblink.set.or.th/dat/news/202408/0592NWS090820241756180242T.pdf
ONEE
https://weblink.set.or.th/dat/news/202408/1670NWS080820242133270616T.pdf
ธุรกิจ BEC คือ ช่อง 3 (33)
ธุรกิจ ONEE คือ ช่องวัน (31) / ช่อง 25 / GMM Media ( GMMTV / CHANGE2561 / ATimemedia) / GMM studio
ก็เป็นเหมือนเดิมที่กลุ่ม ONEE มีรายได้มากกว่า BEC
แต่ที่น่าสนใจคือทั้งสององค์กรสามารถรักษากำไรให้อยู่ในระดับเกือบเท่าเดิมจากไตรมาส 2/66
แต่ก็ลดลงกันทั้งคู่
BEC รายได้ทั้งหมดยังอยู่ที่โฆษณาของช่อง 3 (ประมาณ 84%)
ONEE รายได้ในส่วนของโฆษณาอยู่ที่ระดับ 45 % ของกลุ่มธุรกิจทั้งหมด
BEC เรียกว่าดวงใจเทวพรหมเข้ามาเป็นเดอะแบกในธุรกิจลิขสิทธิ์และบริการอื่น ๆ
เพราะทำรายรับดีกว่ากว่าไตรมาส 1/67 และ ไตรมาส 2/66
BEC ตั้งแต่ไตรมาสนี้เริ่มธุรกิจ Fan Meeting อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น
คงจะมีรายรับส่วนนี้ในอนาคตเหมือนกลุ่ม ONEE
BEC มองธี่หยด 2 เป็นตัวสร้างกำไรในไตรมาสสุดท้าย
และยังได้รายได้จากธี่หยด นอกจากไตรมาสที่หนังออกอากาศ
รวมไตรมาสครึ่งปีแรก 3.9 + 6.0 รวมรายได้ 9.9 ล้านบาท
ONEE ธุรกิจทุกตัวในกลุ่มโตขึ้นหมด แต่ก็ต้องพ่วงรายจ่ายที่มากขึ้น
ทำให้กำไรของกลุ่มอยู่ในระดับเท่าเดิมจากปีที่แล้ว
ONEE ปรับรูปแบบบริหารการการลิขสิทธิ์ให้กับ OTT และคู่ค้าอื่นมากขึ้น
เริ่มคล้ายกับ BEC single content multiple platform
ONEE ลดรายได้จากการรับจ้างผลิตไปสู่ Original Content
อาจหมายถึงตัวช่อง ONE และ change2561 จึงเกิด OneD Original / CHANGE ORIGINAL
ทำให้ Change เริ่มลดผลิตละครลงช่องต่าง ๆ และเพิ่ม Original content ตัวเองมากขึ้น
ONEE มีส่วนค่าใช้จ่ายบริหารมากขึ้น
เนื่องจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน จากการปรับอัตราเงินเดือนและโบนัสประจำปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ขึ้นอยู่กับ Performance
BEC มีต้นทุนการขายที่แปรตามละครออกอากาศ
โดยไตรมาสนี้มีต้นทุนการขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก
แต่ลดลงจากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว
เนื่องจาก ไตรมาสมีละคร First - Run มากขึ้นจากไตรมาสแรก
แต่มีละคร Re-Run มากขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
แสดงให้เห็นว่าละคร First Run มีมูลค่าแม้จะผลิตมาตั้งแต่ไหน
ถ้ายังไม่เคยออกอากาศ ก็ยังนับเป็นรายจ่ายของสถานีแต่ละไตรมาส
* ถ้าครึ่งหลังที่สถานีลดการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ จะทำให้รายจ่ายส่วนนี้ลดลงแค่ไหน
แล้วมาดูการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในไตรมาส 3 ที่น่าจะประกาศผลออกมาเดือน พ.ย.
ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งสององค์กร
ปล. ทั้งสององค์กรเปลี่ยน CFO (ฝ่ายบัญชีและการเงิน) ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน