‘ศิริกัญญา’หายเหนื่อย เชื่อวันนี้ยอดบริจาค‘ประชาชน’แตะ 20 ล้าน
https://www.dailynews.co.th/news/3742367/
‘ศิริกัญญา’ หายเหนื่อย มั่นใจวันนี้ยอดบริจาคแตะ 20 ล้าน ส่วนยอดสมัครสมาชิก 3 หมื่นแล้ว เชื่อสมาชิกถึงแสนคนเท่า ‘ก้าวไกล’ ในเร็ววัน
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่สเตเดียมวัน ในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกและรับบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองแบบออนไซต์ของพรรคประชาชน ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี สส. สลับสับเปลี่ยนกันมาร่วมในกิจกรรม ทั้งนี้ น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ความรู้สึกที่เห็นยอดบริจาคจากประชาชนคือหายเหนื่อย หมดห่วง เพราะว่าตั้งพรรคได้เพิ่งครบ 24 ชม. แต่ว่ามีผู้คนมาสมัครสมาชิกให้กำลังใจ รวมถึงการบริจาคที่ล้นหลาม เราก็มั่นใจแล้วว่าแรงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล ยังคงติดตามต่อเนื่องมาสนับสนุนเราที่พรรคประชาชน
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวต่ออีกว่า เราขอขอบคุณทุกท่านมากๆ ที่วันนี้ได้มามีส่วนร่วม แล้วก็ได้มาสบตาจับมือส่งกำลังใจกัน มันมีความหมายมากๆ สำหรับทั้งตน และพรรคประชาชน ซึ่งมั่นใจว่าวันนี้ยอดเงินบริจาคจะแตะ 20 ล้านบาทแน่นอน และต้องลุ้นต่อว่ายอดบริจาคจะจบที่เท่าไร ขณะที่ยอดการสมัครสมาชิกตอนนี้อยู่ที่ 3 หมื่นกว่ารายชื่อ เหลืออีก 7 หมื่น ก็จะครบตามเราเคยมีสมาชิกพรรคสมัยเป็นพรรคก้าวไกล วันนี้มีหลายคนที่บอกกับเราว่าไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคไหนมาก่อนเลย ตอนก้าวไกลก็ไม่สมัคร แต่วันนี้เดินทางมาสมัครด้วยตัวเอง จึงรู้สึกว่าเป็นไปได้ที่จะถึง 1 แสนคนในเร็ววัน ก็ด้วยแรงผลักดันจากคนที่เป็นผู้สนับสนุนทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเวลา 18.40 น. มียอดผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาชน ผ่านเว็บไซต์
https://www.peoplespartythailand.org/
จำนวน 36,110 คน และยอดบริจาคจำนวน 19,154,307 บาท.
พลิกผัน! “ห้วยขวาง” จากคึกคัก สู่เมืองร้างหลังนทท.จีนหาย
https://www.innnews.co.th/news/criminal/news_759375/
พลิกผัน! “ห้วยขวาง” จากคึกคัก สู่เมืองร้างหลังนักท่องเที่ยวจีนหาย
วันนี้ (10 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง โดยบรรยากาศตลอดถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญซบเซาลงอย่างชัดเจน ร้านอาหารจีนจำนวนหนึ่งปิดกิจการลง สืบเนื่องจากช่วงที่เศรษฐกิจดีก่อนการระบาดของโควิด-19 ชาวจีนจำนวนมากเข้ามาในเขตห้วยขวาง และมีการเปิดร้านอาหารจีนเป็นจำนวนมาก จนถูกสังคมขนานนามว่าเป็น “
ไชน่าทาวน์แห่งใหม่”
จากการสังเกตุมีร้านที่ปิดกิจการไปมีประมาณ 30% หรือราว 10 จาก 40 ร้าน บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ส่วนมากเป็นร้านหมาล่าและชาบูหม้อไฟที่ลงทุนประมาณ 2-3 ล้านบาท เป็นตึกแถวขนาด 1-2 คูหา และเป็นร้านของคนจีนหรือนอมินีจีน สำหรับร้านที่ถูกปิด ชาวจีนจะให้ร้านอื่นมาดำเนินการต่อ ยกเว้นตึกนั้นไม่สามารถทำเป็นร้านอาหารได้เลย ก็ปล่อยร้าง นอกจากนี้ พื้นที่อื่นของเขตห้วยขวางนอกถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ก็มีการปิดร้านเช่นกัน แต่อาจเป็นที่เอกชน ไม่ใช่ถนนใจกลางเขต และเป็นที่สาธารณะแบบถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ
จากการสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าว เผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงมีผลกับบรรยากาศในพื้นที่ เนื่องจากชาวจีนเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยว ไปภูเก็ต สมุย พัทยา เกาะล้านมากกว่า กรุงเทพฯ กลายเป็นทางผ่านแทน ไม่ใช่จุดแวะเหมือนเมื่อก่อน และชาวจีนเที่ยวในย่านนี้รวมทั้งในกรุงเทพฯ น้อยลง เมื่อมาไทยก็ตรงไปที่อื่นเลย เมื่อก่อนเที่ยงคืนคนยังเยอะ ยังแน่น แต่ตอนนี้ 2-3 ทุ่มก็เงียบหมดแล้ว
ธุรกิจร้านอาหาร รถทัวร์ไทย ผวา ‘ทุนจีน’ กินรวบ จี้รัฐตั้งรับด่วน ก่อนเจ๊งระนาว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4729971
ธุรกิจร้านอาหาร รถทัวร์ไทย ผวา’ทุนจีน’กินรวบ จี้รัฐตั้งรับด่วน ก่อนเจ๊งระนาว
แหล่งข่าวจาก วงการธุรกิจรถโดยสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีบริษัทจากประเทศจีน ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตและเดินรถ เริ่มเข้ามาเจรจากับผู้ประกอบการไทย โดยสนใจจะขอซื้อกิจการ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจและขยายตลาดมายังประเทศไทย หลังจากผู้ประกอบการไทยหลายรายมีปัญหาธุรกิจที่ไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน รวมถึงมีภาระต้นทุนสูงขึ้น จึงทำให้ไม่มีเงินทุนสำหรับปรับปรุงตัวรถหรือเดินหน้าธุรกิจ หากจะขอกู้เงินจากธนาคารต้องมีกำไร 2 ปีเป็นอย่างน้อย ทางธนาคารถึงจะปล่อยกู้ให้
“
ทางจีนเขาสนใจจะนำรถโดยสารที่เป็นรถอีวีมาขยายธุรกิจที่ประเทศไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันสถานการณ์ธุรกิจรถโดยสารในไทย ไม่ค่อยดีมานานแล้ว และผู้ประกอบการของไทยเอง มีจำนวนมากที่ประสบปัญหา และต้องการจะขายกิจการ ขณะนี้มีรถโดยสารหายไปจากระบบ 50%” แหล่งข่าวกล่าว
น.ส.
ประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด เปิดเผยว่า การเข้ามาของกลุ่มทุนจีน ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนของภาคการท่องเที่ยวทั้งหมด รวมถึงธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย เนื่องจากทุนจีนที่เข้ามา จะมาทำเองเบ็ดเสร็จ เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ มาเที่ยวและมากินอาหารในร้านของคนจีนด้วยกัน ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาให้เห็นบ้างแล้ว หลังจากการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักหลังโควิดคลี่คลาย
“
อยากให้ภาครัฐลงมาดูพื้นที่จริงอย่างจริงจังว่าภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งจริงๆธุรกิจร้านอาหาร ต้องสงวนไว้สำหรับคนไทย และจากปัจจุบันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและกำลังซื้อที่หายไป 50% ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีการปิดกิจการไปถึง 50% อย่างไรก็ตามแม้จะมีปิดตัวไป แต่ก็มีรายใหม่เข้ามา เพราะธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่เปิดง่าย และเจ๊งง่ายเช่นกัน ถ้าสายป่านไม่ยาวพอก็ยากที่จะไปต่อ” น.ส.
ประภัสสรกล่าว
น.ส.
ประภัสสรกล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้ยังมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วง คือ แนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจ ยังไม่รู้จะดีขึ้นหรือแย่ลงขนาดไหน เพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่จะออกมาก็ยังไม่ค่อยชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับขึ้น 400 บาท ค่าพลังงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนธุตกิจ และไม่เอื้อต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังคงซบเซา ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าถึงสิ้นปี 2567 นี้สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารน่าจะสาหัสมากกว่านี้ ซึ่งเมื่อเราอ่อนแอ จะทำให้มีกลุ่มทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนเข้ามาช้อนซื้อทรัพย์สิน เพื่อทำธุรกิจของเขา
นาย
อิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงกรณีสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดประเทศไทยว่า ภาครัฐต้องหาวิธีการป้องกันและปกป้อง เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย โดยวิธีการ
1. มีการตั้งกำแพงภาษีบางรายการได้ที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงเอฟทีเอได้หรือไม่
2. ตั้งซอฟต์โลนสำหรับผู้ประกอบการภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าประเภทเดียวกัน
3. ผู้ประกอบการเองต้องมีการปรับตัว เช่น นำเข้าเครื่องจักรจากจีนเข้ามา เพื่อลดต้นทุนการผลิต และทำให้ราคาสินค้าถูกลง เนื่องจากหากสู้ด้วยสินค้าสำเร็จรูปแล้ว คงไม่สามารถสู้ได้ เพราะสินค้านำเข้าจากจีนจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาครัฐจะใช้กลไกไหนในการแก้ปัญหา เพื่อลดผลกระทบได้
นาย
อิสระกล่าวต่อว่า ในส่วนของของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น ไม่ค่อยกังวลมากเท่ากับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยมากกว่า เนื่องจากต่างชาติไม่สามารถซื้อที่ดินได้ นอกจากการเช่าระยะยาว และต้องดำเนินการตามกฎหมายไทย ร่วมทุนกับคนไทย ถึงจะดำเนินธุรกิจได้ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ มาในรูปแบบนอมินี ซึ่งภาครัฐก็ต้องมีการตรวจสอบตรงนี้อย่างเข้มข้น
ฟิลิปปินส์ประณามจีนกระทำการยั่วยุในทะเลจีนใต้
https://tna.mcot.net/world-1404318
มะนิลา 10 ส.ค. – กองทัพฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่เป็นอันตรายและยั่วยุของกองทัพอากาศจีน ที่บริเวณน่านฟ้าเหนือพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
กองทัพอากาศฟิลิปปินส์กล่าวในแถลงการณ์ว่า เครื่องบิน 2 ลำ ของกองทัพอากาศจีนได้ฝึกซ้อมในลักษณะอันตราย และปล่อยพลุในเส้นทางการบินของเครื่องบินกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ลำหนึ่งที่กำลังลาดตระเวนทางทะเลตามปกติเหนือแนวสันดอนสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โรมิโอ บรอว์เนอร์ ผู้บัญชาการทหารของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของเครื่องบินจีนเป็นอันตรายต่อชีวิตของกำลังพลฟิลิปปินส์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติภายในเขตพื้นที่ทางทะเลของฟิลิปปินส์ พร้อมกับระบุว่า เครื่องบินจีนรบกวนปฎิบัติการบินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยทางอากาศ.-813.- สำนักข่าวไทย
JJNY : 5in1 ‘ศิริกัญญา’หายเหนื่อย│“ห้วยขวาง”สู่เมืองร้าง│ร้านอาหาร รถทัวร์ผวา‘ทุนจีน’│ฟิลิปปินส์ประณามจีน│ฝนตกน้ำท่วมจีน
https://www.dailynews.co.th/news/3742367/
‘ศิริกัญญา’ หายเหนื่อย มั่นใจวันนี้ยอดบริจาคแตะ 20 ล้าน ส่วนยอดสมัครสมาชิก 3 หมื่นแล้ว เชื่อสมาชิกถึงแสนคนเท่า ‘ก้าวไกล’ ในเร็ววัน
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่สเตเดียมวัน ในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกและรับบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองแบบออนไซต์ของพรรคประชาชน ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี สส. สลับสับเปลี่ยนกันมาร่วมในกิจกรรม ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ความรู้สึกที่เห็นยอดบริจาคจากประชาชนคือหายเหนื่อย หมดห่วง เพราะว่าตั้งพรรคได้เพิ่งครบ 24 ชม. แต่ว่ามีผู้คนมาสมัครสมาชิกให้กำลังใจ รวมถึงการบริจาคที่ล้นหลาม เราก็มั่นใจแล้วว่าแรงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล ยังคงติดตามต่อเนื่องมาสนับสนุนเราที่พรรคประชาชน
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่ออีกว่า เราขอขอบคุณทุกท่านมากๆ ที่วันนี้ได้มามีส่วนร่วม แล้วก็ได้มาสบตาจับมือส่งกำลังใจกัน มันมีความหมายมากๆ สำหรับทั้งตน และพรรคประชาชน ซึ่งมั่นใจว่าวันนี้ยอดเงินบริจาคจะแตะ 20 ล้านบาทแน่นอน และต้องลุ้นต่อว่ายอดบริจาคจะจบที่เท่าไร ขณะที่ยอดการสมัครสมาชิกตอนนี้อยู่ที่ 3 หมื่นกว่ารายชื่อ เหลืออีก 7 หมื่น ก็จะครบตามเราเคยมีสมาชิกพรรคสมัยเป็นพรรคก้าวไกล วันนี้มีหลายคนที่บอกกับเราว่าไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคไหนมาก่อนเลย ตอนก้าวไกลก็ไม่สมัคร แต่วันนี้เดินทางมาสมัครด้วยตัวเอง จึงรู้สึกว่าเป็นไปได้ที่จะถึง 1 แสนคนในเร็ววัน ก็ด้วยแรงผลักดันจากคนที่เป็นผู้สนับสนุนทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเวลา 18.40 น. มียอดผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาชน ผ่านเว็บไซต์ https://www.peoplespartythailand.org/
จำนวน 36,110 คน และยอดบริจาคจำนวน 19,154,307 บาท.
พลิกผัน! “ห้วยขวาง” จากคึกคัก สู่เมืองร้างหลังนทท.จีนหาย
https://www.innnews.co.th/news/criminal/news_759375/
พลิกผัน! “ห้วยขวาง” จากคึกคัก สู่เมืองร้างหลังนักท่องเที่ยวจีนหาย
วันนี้ (10 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง โดยบรรยากาศตลอดถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญซบเซาลงอย่างชัดเจน ร้านอาหารจีนจำนวนหนึ่งปิดกิจการลง สืบเนื่องจากช่วงที่เศรษฐกิจดีก่อนการระบาดของโควิด-19 ชาวจีนจำนวนมากเข้ามาในเขตห้วยขวาง และมีการเปิดร้านอาหารจีนเป็นจำนวนมาก จนถูกสังคมขนานนามว่าเป็น “ไชน่าทาวน์แห่งใหม่”
จากการสังเกตุมีร้านที่ปิดกิจการไปมีประมาณ 30% หรือราว 10 จาก 40 ร้าน บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ส่วนมากเป็นร้านหมาล่าและชาบูหม้อไฟที่ลงทุนประมาณ 2-3 ล้านบาท เป็นตึกแถวขนาด 1-2 คูหา และเป็นร้านของคนจีนหรือนอมินีจีน สำหรับร้านที่ถูกปิด ชาวจีนจะให้ร้านอื่นมาดำเนินการต่อ ยกเว้นตึกนั้นไม่สามารถทำเป็นร้านอาหารได้เลย ก็ปล่อยร้าง นอกจากนี้ พื้นที่อื่นของเขตห้วยขวางนอกถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ก็มีการปิดร้านเช่นกัน แต่อาจเป็นที่เอกชน ไม่ใช่ถนนใจกลางเขต และเป็นที่สาธารณะแบบถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ
จากการสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าว เผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงมีผลกับบรรยากาศในพื้นที่ เนื่องจากชาวจีนเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยว ไปภูเก็ต สมุย พัทยา เกาะล้านมากกว่า กรุงเทพฯ กลายเป็นทางผ่านแทน ไม่ใช่จุดแวะเหมือนเมื่อก่อน และชาวจีนเที่ยวในย่านนี้รวมทั้งในกรุงเทพฯ น้อยลง เมื่อมาไทยก็ตรงไปที่อื่นเลย เมื่อก่อนเที่ยงคืนคนยังเยอะ ยังแน่น แต่ตอนนี้ 2-3 ทุ่มก็เงียบหมดแล้ว
ธุรกิจร้านอาหาร รถทัวร์ไทย ผวา ‘ทุนจีน’ กินรวบ จี้รัฐตั้งรับด่วน ก่อนเจ๊งระนาว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4729971
ธุรกิจร้านอาหาร รถทัวร์ไทย ผวา’ทุนจีน’กินรวบ จี้รัฐตั้งรับด่วน ก่อนเจ๊งระนาว
แหล่งข่าวจาก วงการธุรกิจรถโดยสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีบริษัทจากประเทศจีน ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตและเดินรถ เริ่มเข้ามาเจรจากับผู้ประกอบการไทย โดยสนใจจะขอซื้อกิจการ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจและขยายตลาดมายังประเทศไทย หลังจากผู้ประกอบการไทยหลายรายมีปัญหาธุรกิจที่ไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน รวมถึงมีภาระต้นทุนสูงขึ้น จึงทำให้ไม่มีเงินทุนสำหรับปรับปรุงตัวรถหรือเดินหน้าธุรกิจ หากจะขอกู้เงินจากธนาคารต้องมีกำไร 2 ปีเป็นอย่างน้อย ทางธนาคารถึงจะปล่อยกู้ให้
“ทางจีนเขาสนใจจะนำรถโดยสารที่เป็นรถอีวีมาขยายธุรกิจที่ประเทศไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันสถานการณ์ธุรกิจรถโดยสารในไทย ไม่ค่อยดีมานานแล้ว และผู้ประกอบการของไทยเอง มีจำนวนมากที่ประสบปัญหา และต้องการจะขายกิจการ ขณะนี้มีรถโดยสารหายไปจากระบบ 50%” แหล่งข่าวกล่าว
น.ส.ประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด เปิดเผยว่า การเข้ามาของกลุ่มทุนจีน ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนของภาคการท่องเที่ยวทั้งหมด รวมถึงธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย เนื่องจากทุนจีนที่เข้ามา จะมาทำเองเบ็ดเสร็จ เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ มาเที่ยวและมากินอาหารในร้านของคนจีนด้วยกัน ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาให้เห็นบ้างแล้ว หลังจากการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักหลังโควิดคลี่คลาย
“อยากให้ภาครัฐลงมาดูพื้นที่จริงอย่างจริงจังว่าภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งจริงๆธุรกิจร้านอาหาร ต้องสงวนไว้สำหรับคนไทย และจากปัจจุบันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและกำลังซื้อที่หายไป 50% ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีการปิดกิจการไปถึง 50% อย่างไรก็ตามแม้จะมีปิดตัวไป แต่ก็มีรายใหม่เข้ามา เพราะธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่เปิดง่าย และเจ๊งง่ายเช่นกัน ถ้าสายป่านไม่ยาวพอก็ยากที่จะไปต่อ” น.ส.ประภัสสรกล่าว
น.ส.ประภัสสรกล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้ยังมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วง คือ แนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจ ยังไม่รู้จะดีขึ้นหรือแย่ลงขนาดไหน เพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่จะออกมาก็ยังไม่ค่อยชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับขึ้น 400 บาท ค่าพลังงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนธุตกิจ และไม่เอื้อต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังคงซบเซา ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าถึงสิ้นปี 2567 นี้สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารน่าจะสาหัสมากกว่านี้ ซึ่งเมื่อเราอ่อนแอ จะทำให้มีกลุ่มทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนเข้ามาช้อนซื้อทรัพย์สิน เพื่อทำธุรกิจของเขา
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงกรณีสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดประเทศไทยว่า ภาครัฐต้องหาวิธีการป้องกันและปกป้อง เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย โดยวิธีการ
1. มีการตั้งกำแพงภาษีบางรายการได้ที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงเอฟทีเอได้หรือไม่
2. ตั้งซอฟต์โลนสำหรับผู้ประกอบการภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าประเภทเดียวกัน
3. ผู้ประกอบการเองต้องมีการปรับตัว เช่น นำเข้าเครื่องจักรจากจีนเข้ามา เพื่อลดต้นทุนการผลิต และทำให้ราคาสินค้าถูกลง เนื่องจากหากสู้ด้วยสินค้าสำเร็จรูปแล้ว คงไม่สามารถสู้ได้ เพราะสินค้านำเข้าจากจีนจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาครัฐจะใช้กลไกไหนในการแก้ปัญหา เพื่อลดผลกระทบได้
นายอิสระกล่าวต่อว่า ในส่วนของของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น ไม่ค่อยกังวลมากเท่ากับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยมากกว่า เนื่องจากต่างชาติไม่สามารถซื้อที่ดินได้ นอกจากการเช่าระยะยาว และต้องดำเนินการตามกฎหมายไทย ร่วมทุนกับคนไทย ถึงจะดำเนินธุรกิจได้ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ มาในรูปแบบนอมินี ซึ่งภาครัฐก็ต้องมีการตรวจสอบตรงนี้อย่างเข้มข้น
ฟิลิปปินส์ประณามจีนกระทำการยั่วยุในทะเลจีนใต้
https://tna.mcot.net/world-1404318
มะนิลา 10 ส.ค. – กองทัพฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่เป็นอันตรายและยั่วยุของกองทัพอากาศจีน ที่บริเวณน่านฟ้าเหนือพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
กองทัพอากาศฟิลิปปินส์กล่าวในแถลงการณ์ว่า เครื่องบิน 2 ลำ ของกองทัพอากาศจีนได้ฝึกซ้อมในลักษณะอันตราย และปล่อยพลุในเส้นทางการบินของเครื่องบินกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ลำหนึ่งที่กำลังลาดตระเวนทางทะเลตามปกติเหนือแนวสันดอนสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โรมิโอ บรอว์เนอร์ ผู้บัญชาการทหารของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของเครื่องบินจีนเป็นอันตรายต่อชีวิตของกำลังพลฟิลิปปินส์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติภายในเขตพื้นที่ทางทะเลของฟิลิปปินส์ พร้อมกับระบุว่า เครื่องบินจีนรบกวนปฎิบัติการบินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยทางอากาศ.-813.- สำนักข่าวไทย