สวัสดีค่ะ เราเจ้าของกระทู้ตอนนี้ได้ทำการขอลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่~2ปี 4เดือน(ออกสินเดือนนี้) การที่เราลาออกจากงานประจำเป็นสิ่งที่เราคิดมาสักพักใหญ่ๆเลยค่ะประมาณ2เดือนเต็มที่เครียดมาก นอนไม่หลับ ไม่ปรึกษาใครคิดเองคนเดียวจนเครียดสะสม สภาพร่างกาย จิตใจ ตอนนั้นแย่มาก จนระบายให้เพื่ิอนสนิทฟังก็รู้สึกดีขึ้นความเครียดลดลง ระหว่างนั้นก็หางานกับคิดตลอดว่าจะเอายังไงถ้าออกแล้วจะไปต่อที่ไหน กังวลกับสิ่งที่เราเลือก ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดอีกรอบ สาเหตุที่เราลาออกเพราะระบบภายในที่บริษัทเขาทำกันแบบนี้มานานแล้วเราพยายามอยากจะเปลี่ยนแต่ก็ทำไม่ได้ ระบบการจัดการต่างๆ ความไม่ชัดเจนคลุมเครือของหัวหน้า(ในส่วนนี้ไม่ขอลงรายละเอียด) การแบ่งงานที่ไม่ค่อยแฟร์ และงานก็มาหนักที่เราสะส่วนใหญ่จนเริ่มแบกไม่ไหว ส่วนตัวเราก็อยากลองเปลี่ยนลักษณะงานที่ต่างจากเดิม (ขอยกตัวอย่าง ex.เช่นเราเป็นนักวิ่งที่วิ่งแต่Fun run เลยอยากเปลี่ยนไปวิ่ง Half maratonที่ตัวเรายังคงชอบวิ่งและก็เป็นนักวิ่งอยู่) และตอนนี้เราก็มีงานใหม่มารองรับเรียบร้อยซึ่งจะเริ่มในอีกไม่กี่เดือนเป็นไปตามสิ่งที่เราตัดสินใจเองและรับได้กับงานนี้
******แล้วเรื่องมันเริ่มที่หัวหน้างานค่ะ หลังจากที่เราบอกขอลาออกหัวหน้าก็พูดประมาณ”ก็ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้อยู่“ “ไปที่ใหม่บริษัทเล็กๆก็เพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปีมันจะมั่นคงมั้ย ทุกที่ก็เหมือนกันจะย้ายทำไม” “ถ้าคิดมาดีแล้วว่าจะไปทำที่ใหม่แล้วก้าวหน้าก็ไปได้ไม่ติดอะไรแต่คิดดีๆ” เหมือนหัวหน้าพยายามพูดให้เรารู้สึกเสียกำลังใจแล้วเอาเรื่องที่เราลาออกไปเล่าให้คนอื่น ให้ลูกค้าหลายคนฟังซึ่งเราได้ยินเต็มๆประมาณว่า“ที่อยู่ประจำก็ดีอยู่แล้วเงินเดือนก็ว่าจะขึ้นให้ที่นี้ก็ใหญ่กว่าย้ายไปที่ใหม่เล็กๆไม่รู้จะย้ายทำไม” เหมือนมาตอกย้ำให้เราได้ยินว่าเราคิดผิดกับสิ่งที่เราเลือก ลูกค้าหลายคนก็มากดดันพูดกับเราอีกว่า อย่าไปเลย~ (ส่วนตัวเราไม่ได้มีปัญหากับลูกค้าคนไหนเลยค่ะเขาออกแนวเสียดายมากกว่าที่เราไป แต่เราไม่ไหวแล้วจริงๆ แบกต่อไม่ไหว เบื่องหลังเราเกือบเป็นคนประสานหมด รายละเอียดต่างๆดูให้หมด)
ตอนนี้กลายเป็นรู้สึกอึดอัดกับหัวหน้าที่ต้องเจอหน้ากันทุกวัน พยานามไม่อยากคถยด้วยถ้าไม่ใช่เรื่องงาน เหมือนเรากลายเป็นคนผิดที่เลือกจะลาออกเอง ตอนนี้มีบางครั้งที่เราเครียดกับสิ่งที่เขาพูด เริ่มเกิดความรู้สึกกังวล รู้สึกไม่มั่นใจกลับมาอีกครั้งกับสิ่งที่เราเลือกจะออกจากตรงนี้ “เรารู้ค่ะว่าสิ่งที่เราเลือกมันอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวัง ก็เผื่อใจยอมรับในส่วนนั้นและต้องปรับตัวใหม่ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆส่วนเรื่องจะก้าวหน้าหรือไม่ก้าวหน้ามันก็อยู่ที่ตัวเราแต่อย่างน้อยเราก็คิดที่จะเปลี่ยน กล้าที่จะเปลี่ยนมัน ไปเจออะไรใหม่ๆเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆตำแหน่ง safe zone หรือสิ่งที่อยู่เป็นประจำจนชิน การก้าวออกมามันเป็นเรื่องยาก ทุกครั้งที่กล้าก็จะเริ่มกลัวปะปนไปด้วย เราก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราเลือกมันไม่แย่สำหรับเรา เราทำได้“ ทุกครั้งที่หัวหน้าพูดถึงเราก็จะคิดประมาณนี้บางครั้งก็แพ้กับความรู้สึกที่ต้องเข้มแข็ง ก็ร้องไห้ออกมาได้ ไม่เป็นไร ถ้าเราผ่านไปได้ก็เก่งมากในวัย 25ปี
***** ที่ตั้งกระทู้นี้ เพื่อเราจะได้กลับมาอ่านอีกรอบ มีระบายนิดหน่อย พิมพ์เสร็จก็เครียดลดลง มีกำลังใจต่อเหมือนปลอบใจตัวเอง😂 อาจจะยาวเยอะเลยถ้าใครได้อ่านจนจบก็สามารถแสดงความคิดเห็น หรือเจอมาแบบเดียวกัน อยากระบาย อยากแนะนำ หรือใครจะเห็นต่างในมุมมองของหัวหน้าในเรื่องที่เล่าได้นะคะ
การลาออกมันผิดด้วยหรอ
******แล้วเรื่องมันเริ่มที่หัวหน้างานค่ะ หลังจากที่เราบอกขอลาออกหัวหน้าก็พูดประมาณ”ก็ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้อยู่“ “ไปที่ใหม่บริษัทเล็กๆก็เพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปีมันจะมั่นคงมั้ย ทุกที่ก็เหมือนกันจะย้ายทำไม” “ถ้าคิดมาดีแล้วว่าจะไปทำที่ใหม่แล้วก้าวหน้าก็ไปได้ไม่ติดอะไรแต่คิดดีๆ” เหมือนหัวหน้าพยายามพูดให้เรารู้สึกเสียกำลังใจแล้วเอาเรื่องที่เราลาออกไปเล่าให้คนอื่น ให้ลูกค้าหลายคนฟังซึ่งเราได้ยินเต็มๆประมาณว่า“ที่อยู่ประจำก็ดีอยู่แล้วเงินเดือนก็ว่าจะขึ้นให้ที่นี้ก็ใหญ่กว่าย้ายไปที่ใหม่เล็กๆไม่รู้จะย้ายทำไม” เหมือนมาตอกย้ำให้เราได้ยินว่าเราคิดผิดกับสิ่งที่เราเลือก ลูกค้าหลายคนก็มากดดันพูดกับเราอีกว่า อย่าไปเลย~ (ส่วนตัวเราไม่ได้มีปัญหากับลูกค้าคนไหนเลยค่ะเขาออกแนวเสียดายมากกว่าที่เราไป แต่เราไม่ไหวแล้วจริงๆ แบกต่อไม่ไหว เบื่องหลังเราเกือบเป็นคนประสานหมด รายละเอียดต่างๆดูให้หมด)
ตอนนี้กลายเป็นรู้สึกอึดอัดกับหัวหน้าที่ต้องเจอหน้ากันทุกวัน พยานามไม่อยากคถยด้วยถ้าไม่ใช่เรื่องงาน เหมือนเรากลายเป็นคนผิดที่เลือกจะลาออกเอง ตอนนี้มีบางครั้งที่เราเครียดกับสิ่งที่เขาพูด เริ่มเกิดความรู้สึกกังวล รู้สึกไม่มั่นใจกลับมาอีกครั้งกับสิ่งที่เราเลือกจะออกจากตรงนี้ “เรารู้ค่ะว่าสิ่งที่เราเลือกมันอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวัง ก็เผื่อใจยอมรับในส่วนนั้นและต้องปรับตัวใหม่ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆส่วนเรื่องจะก้าวหน้าหรือไม่ก้าวหน้ามันก็อยู่ที่ตัวเราแต่อย่างน้อยเราก็คิดที่จะเปลี่ยน กล้าที่จะเปลี่ยนมัน ไปเจออะไรใหม่ๆเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆตำแหน่ง safe zone หรือสิ่งที่อยู่เป็นประจำจนชิน การก้าวออกมามันเป็นเรื่องยาก ทุกครั้งที่กล้าก็จะเริ่มกลัวปะปนไปด้วย เราก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราเลือกมันไม่แย่สำหรับเรา เราทำได้“ ทุกครั้งที่หัวหน้าพูดถึงเราก็จะคิดประมาณนี้บางครั้งก็แพ้กับความรู้สึกที่ต้องเข้มแข็ง ก็ร้องไห้ออกมาได้ ไม่เป็นไร ถ้าเราผ่านไปได้ก็เก่งมากในวัย 25ปี
***** ที่ตั้งกระทู้นี้ เพื่อเราจะได้กลับมาอ่านอีกรอบ มีระบายนิดหน่อย พิมพ์เสร็จก็เครียดลดลง มีกำลังใจต่อเหมือนปลอบใจตัวเอง😂 อาจจะยาวเยอะเลยถ้าใครได้อ่านจนจบก็สามารถแสดงความคิดเห็น หรือเจอมาแบบเดียวกัน อยากระบาย อยากแนะนำ หรือใครจะเห็นต่างในมุมมองของหัวหน้าในเรื่องที่เล่าได้นะคะ