เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่ BLACKPINK เริ่มต้นเส้นทางดนตรีในวงการ K-Pop จากเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่เดบิวต์ในปี 2016 ของค่าย YG Entertaiment เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นศิลปินระดับโลกในวันนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นพวกเธอสร้างโมเมนต์สุดยิ่งใหญ่และน่าจดจำมากมาย ในโอกาสนี้ THE STANDARD POP เลยอยากจะชวน BLINK มาย้อนรอยชมเส้นทางความสำเร็จของพวกเธอผ่าน 8 โมเมนต์สำคัญ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าพวกเธอคือเกิร์ลกรุ๊ปที่เป็น ‘ที่สุด’ แห่งยุคนี้จริงๆ
1. EVERY MEMBER SHINES
BLACKPINK เดบิวต์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 2016 ด้วยสมาชิก 4 คน อย่าง JISOO, JENNIE, ROSÉ และ LISA โดยทั้ง 4 คนมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง BLACKPINK ไม่มีใครเป็นลีดเดอร์ของวง ทุกคนเท่ากันและมีสไตล์เป็นของตัวเอง เพราะ YG อยากให้พวกเธอตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของแฟนคลับเพื่อให้วงไปได้ไกลในระดับโลก
ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแรง มีความเกิร์ลครัชเท่ๆ ตามสไตล์ศิลปิน YG รวมทั้งการเต้นและการร้องของเมมเบอร์แต่ละคนที่โดดเด่น เพลงมีท่อนฮุกติดหู ไปจนถึงการลงทุนกับมิวสิกวิดีโอต่างๆ ทำให้พวกเธอครองใจแฟนคลับทุกเพศทุกวัยทุกพื้นที่ในโลกแบบอยู่หมัด ตามคำว่า BLACKPINK in Your Area ไปเลยทีเดียว
และจนถึงเวลานี้ ชื่อของ BLACKPINK ก็ถูกจดจำในฐานะเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก และพวกเธอก็กลายเป็นไอคอนคนสำคัญแห่งยุคไปแล้วเช่นกัน
2. PINKCHELLA-COACHELLA
เหตุการณ์ที่ตอกย้ำความสำเร็จของ BLACKPINK คือการที่พวกเธอได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ในปี 2019 ซึ่ง ณ ขณะนั้น พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop วงแรกที่เป็นหนึ่งในศิลปินหลักที่แสดงในเทศกาลนี้
ก่อนที่ในปี 2023 พวกเธอได้กลับมางานเทศกาลดนตรี Coachella อีกครั้งแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิมในฐานะศิลปินเฮดไลเนอร์ของงาน ทำให้พวกเธอสร้างอีกหนึ่งตำนานด้วยการเป็นศิลปินเอเชียกลุ่มแรกที่เป็นเฮดไลเนอร์ พร้อมกันนั้นยังมีผู้ชมโชว์ครั้งนี้กว่า 1.25 แสนคน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ TechRadar ยังคาดการณ์ว่ามีผู้เข้าชมไลฟ์สตรีมโชว์ของพวกเธอที่งาน Coachella มากกว่า 250 ล้านคนด้วยเช่นกัน
พวกเธอไม่ได้แค่นำพาดนตรีและโลกของ K-Pop ไปเฉิดฉายบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลกเท่านั้น แต่พวกเธอยังหยิบยกวัฒนธรรมเกาหลีไปเป็นส่วนหนึ่งของงาน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตดีไซน์คล้ายชุดฮันบก ฉากเซ็ตติ้งของเวทีที่คล้ายกับหลังคาบ้านดั้งเดิมของเกาหลี รวมทั้งเนื้อเพลงภาษาเกาหลีที่บ่งบอกได้ชัดเจนที่สุดว่าโลกดนตรีไม่เคยมีกำแพงภาษา เพราะไม่ว่าจะเป็นภาษาไหน ผู้คนนับแสนก็สามารถสนุกไปกับพวกเธอได้
3. THE BUCKINGHAM PALACE MOMENT
BLACKPINK ไม่เคยหยุดอยู่แค่การสร้างสถิติเรื่องเพลงหรือโชว์สุดยิ่งใหญ่ แต่โมเมนต์สำคัญแห่งชาติก็มีมาให้แฟนคลับได้ทึ่งกันตลอด โดยในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 พวกเธอปรากฏตัว ณ พระราชวังบักกิงแฮม เพื่อร่วมงานเลี้ยงของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับการมาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล และสตรีหมายเลขหนึ่ง คิมกอนฮี
ในตอนนั้นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิบริติช (MBE) ให้กับสมาชิกทั้ง 4 คน เพื่อยกย่องบทบาทของพวกเธอในฐานะผู้สนับสนุน COP26 สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพวกเธอที่เป็นกระบอกเสียงให้กับเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้เสียงของตัวเองในการรณรงค์ประเด็นต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่าโมเมนต์แบบนี้คงเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในวงการ K-Pop แต่พวกเธอก็ตอกย้ำความเป็น History Maker ในทุกแง่มุมอย่างแท้จริง
4. 1 BILLION VIEWS YOUTUBE RECORD
“Hit you with that ddu-du, ddu-du, du” เชื่อว่าหากย้อนไปเมื่อปี 2018 ใครๆ ก็น่าจะร้องท่อนนี้กันได้ เพราะเพลง DDU-DU DDU-DU ของ BLACKPINK กลายเป็นเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง และยังเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญของพวกเธอด้วย เพราะมิวสิกวิดีโอนี้มียอดวิวสูงถึง 1 พันล้านครั้งบน YouTube ในระยะเวลาราวหนึ่งปีเท่านั้น พวกเธอจึงกลายเป็นศิลปิน K-Pop กลุ่มแรกที่สามารถทำสถิตินี้ได้ โดยก่อนหน้านั้นมีเพียงศิลปินชายเดี่ยวอย่าง PSY ที่เคยทำสถิติพันล้านวิวได้จากเพลง Gangnam Style
ส่วนในปี 2024 มิวสิกวิดีโอ DDU-DU DDU-DU ก็มียอดวิวสูงถึง 2.2 พันล้านครั้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าเพลงนี้จะเปิดที่ไหนหรือตอนไหน คนฟังก็อดไม่ได้ที่จะร้องและเต้นตามพวกเธอทั้ง 4 คนแน่นอน
5. COLLABORATIONS WITH GLOBAL ARTISTS
หลังจากที่พวกเธอประสบความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีในประเทศเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ชื่อเสียงของ BLACKPINK ก็เติบโตไปในระดับโกลบอล โดยพวกเธอมีโอกาสคอลลาบอเรชันกับศิลปินระดับโลกมากมาย อาทิ เพลง Kiss and Make Up กับ Dua Lipa เมื่อปี 2018 ส่วนปี 2020 พวกเธอก็ทำเพลง Sour Candy กับตัวแม่แห่งวงการอย่าง Lady Gaga สำหรับอัลบั้ม Chromatica รวมถึงเพลง Ice Cream กับ Selena Gomez และเพลง Bet You Wanna กับ Cardi B ซึ่งต่างก็เป็นการร่วมงานกับศิลปินหญิงที่ทรงอิทธิพลระดับโลกแทบทั้งสิ้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างตัวแม่จากฝั่ง K-Pop และฝั่งตะวันตกเลยทีเดียว พร้อมทำให้เห็นถึงการยอมรับในตัว BLACKPINK เพราะศิลปินแต่ละคนก็พิถีพิถันในการเลือกศิลปินที่จะมาร่วมงานด้วย และการที่ศิลปิน K-Pop มาถึงขั้นนี้ได้นั้นถือว่าไม่ธรรมดา
6. WORLD TOUR RECORD
คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ค่อยๆ ไต่ระดับจากสเกลอารีนาไปสู่สเกลสเตเดียมภายในระยะเวลาแค่เพียง 3 ปีเท่านั้น จากคอนเสิร์ต In Your Area World Tour มาสู่ Born Pink World Tour ซึ่ง Touring Data เปิดเผยว่าพวกเธอสร้างอีกหนึ่งประวัติศาสตร์สำคัญในวงการเพลงด้วยการเป็นศิลปินเอเชียและเกิร์ลกรุ๊ปหญิงที่ทำรายได้จากคอนเสิร์ตสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกจาก Born Pink World Tour ด้วยจำนวนเงินกว่า 331.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขายตั๋ว 1,815,183 ใบ จากคอนเสิร์ตทั้งหมด 66 รอบ สิ่งนี้นับเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าพวกเธอมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลกและพวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนพวกเธออย่างเต็มที่
7. THE SOLO PROJECTS
แม้ในขณะนี้สมาชิกทุกคนจะมีต้นสังกัดเป็นของตัวเองสำหรับงานเดี่ยวแล้ว แต่ยังคงเซ็นสัญญาสำหรับกิจกรรมกลุ่มครบทั้ง 4 คนกับ YG Entertainment โดยงานเดี่ยวที่ผ่านมาของแต่ละคนก็ประสบความสำเร็จและรักษาความนิยมให้กับ BLACKPINK ได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อมองย้อนกลับไปเราจะพบว่าสมาชิกทั้ง 4 คน มีผลงานเพลงเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จเป็นของตัวเอง อย่างเช่น JENNIE กับซิงเกิล SOLO, You & Me และเพลงประกอบซีรีส์ The Idol อย่าง One Of The Girls ที่เธอร้องกับ The Weeknd และ Lily-Rose Depp ก็มียอดสตรีมมิงเกินหนึ่งพันล้านครั้งบน Spotify แล้ว ในขณะที่ ROSÉ กับอัลบั้ม R ที่เน้นสไตล์ความเป็นนักดนตรีของเธอกับเพลง On The Ground และ Gone ก็ได้สร้างสถิติการเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกในรอบ 19 ปีที่ขายอัลบั้มได้เกินครึ่งล้านก๊อปปี้ในเกาหลีใต้
พี่ใหญ่ของวงอย่าง JISOO ก็มาพร้อมกับอีพีอัลบั้ม ME ที่มีเพลง All Eyes On Me และ FLOWER ซึ่งเคยติดอันดับ 2 ของชาร์ต Billboard 200 มาแล้ว และ LISA กับเพลง LALISA และเพลง MONEY ที่มียอดวิวบน YouTube ถึง 1 พันล้านครั้ง โดยในเวลาต่อมาเธอก็ชนะรางวัล MTV Video Music Awards 2022 ในสาขา Best K-Pop และเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกที่ทำได้
ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมงานด้านแฟชั่นหรือภาพยนตร์ในต่างประเทศของแต่ละคนที่ทรงอิทธิพลไม่แพ้กัน แต่ก็ต้องบอกว่าผลงานเพลงเดี่ยวนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเธอได้ลองทำเพลงในแบบที่ตัวเองชอบ รวมทั้งเป็นการทำให้ผู้คนกลับมาทำความรู้จักกับชื่อของ BLACKPINK เช่นเดียวกัน
หากใครสงสัยว่าพวกเธอจะมีกิจกรรมวงให้ติดตามกันอีกหรือไม่ ล่าสุด Yang Hyun Suk ผู้ก่อตั้งค่าย YG Entertainment ก็ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่าในปี 2025 BLACKPINK จะคัมแบ็ก พร้อมกับมีแพลนที่จะทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อพบปะแฟนๆ ทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้นต้องมารอติดตามกันว่าการคัมแบ็กครั้งนี้จะมาในรูปแบบอัลบั้มจัดเต็มหรือมินิอัลบั้ม และสมาชิกทั้ง 4 คนจะมาพบกันอีกครั้งในช่วงเวลาไหนจากการจัดสรรตารางงานที่อาจจะแน่นสุดๆในเวลานี้
8 โมเมนต์กับ 8 ปีที่ BLACKPINK ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี
เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่ BLACKPINK เริ่มต้นเส้นทางดนตรีในวงการ K-Pop จากเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่เดบิวต์ในปี 2016 ของค่าย YG Entertaiment เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นศิลปินระดับโลกในวันนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นพวกเธอสร้างโมเมนต์สุดยิ่งใหญ่และน่าจดจำมากมาย ในโอกาสนี้ THE STANDARD POP เลยอยากจะชวน BLINK มาย้อนรอยชมเส้นทางความสำเร็จของพวกเธอผ่าน 8 โมเมนต์สำคัญ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าพวกเธอคือเกิร์ลกรุ๊ปที่เป็น ‘ที่สุด’ แห่งยุคนี้จริงๆ
1. EVERY MEMBER SHINES
BLACKPINK เดบิวต์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 2016 ด้วยสมาชิก 4 คน อย่าง JISOO, JENNIE, ROSÉ และ LISA โดยทั้ง 4 คนมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง BLACKPINK ไม่มีใครเป็นลีดเดอร์ของวง ทุกคนเท่ากันและมีสไตล์เป็นของตัวเอง เพราะ YG อยากให้พวกเธอตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของแฟนคลับเพื่อให้วงไปได้ไกลในระดับโลก
ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแรง มีความเกิร์ลครัชเท่ๆ ตามสไตล์ศิลปิน YG รวมทั้งการเต้นและการร้องของเมมเบอร์แต่ละคนที่โดดเด่น เพลงมีท่อนฮุกติดหู ไปจนถึงการลงทุนกับมิวสิกวิดีโอต่างๆ ทำให้พวกเธอครองใจแฟนคลับทุกเพศทุกวัยทุกพื้นที่ในโลกแบบอยู่หมัด ตามคำว่า BLACKPINK in Your Area ไปเลยทีเดียว
และจนถึงเวลานี้ ชื่อของ BLACKPINK ก็ถูกจดจำในฐานะเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก และพวกเธอก็กลายเป็นไอคอนคนสำคัญแห่งยุคไปแล้วเช่นกัน
2. PINKCHELLA-COACHELLA
เหตุการณ์ที่ตอกย้ำความสำเร็จของ BLACKPINK คือการที่พวกเธอได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ในปี 2019 ซึ่ง ณ ขณะนั้น พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop วงแรกที่เป็นหนึ่งในศิลปินหลักที่แสดงในเทศกาลนี้
ก่อนที่ในปี 2023 พวกเธอได้กลับมางานเทศกาลดนตรี Coachella อีกครั้งแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิมในฐานะศิลปินเฮดไลเนอร์ของงาน ทำให้พวกเธอสร้างอีกหนึ่งตำนานด้วยการเป็นศิลปินเอเชียกลุ่มแรกที่เป็นเฮดไลเนอร์ พร้อมกันนั้นยังมีผู้ชมโชว์ครั้งนี้กว่า 1.25 แสนคน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ TechRadar ยังคาดการณ์ว่ามีผู้เข้าชมไลฟ์สตรีมโชว์ของพวกเธอที่งาน Coachella มากกว่า 250 ล้านคนด้วยเช่นกัน
พวกเธอไม่ได้แค่นำพาดนตรีและโลกของ K-Pop ไปเฉิดฉายบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลกเท่านั้น แต่พวกเธอยังหยิบยกวัฒนธรรมเกาหลีไปเป็นส่วนหนึ่งของงาน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตดีไซน์คล้ายชุดฮันบก ฉากเซ็ตติ้งของเวทีที่คล้ายกับหลังคาบ้านดั้งเดิมของเกาหลี รวมทั้งเนื้อเพลงภาษาเกาหลีที่บ่งบอกได้ชัดเจนที่สุดว่าโลกดนตรีไม่เคยมีกำแพงภาษา เพราะไม่ว่าจะเป็นภาษาไหน ผู้คนนับแสนก็สามารถสนุกไปกับพวกเธอได้
3. THE BUCKINGHAM PALACE MOMENT
BLACKPINK ไม่เคยหยุดอยู่แค่การสร้างสถิติเรื่องเพลงหรือโชว์สุดยิ่งใหญ่ แต่โมเมนต์สำคัญแห่งชาติก็มีมาให้แฟนคลับได้ทึ่งกันตลอด โดยในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 พวกเธอปรากฏตัว ณ พระราชวังบักกิงแฮม เพื่อร่วมงานเลี้ยงของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับการมาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล และสตรีหมายเลขหนึ่ง คิมกอนฮี
ในตอนนั้นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิบริติช (MBE) ให้กับสมาชิกทั้ง 4 คน เพื่อยกย่องบทบาทของพวกเธอในฐานะผู้สนับสนุน COP26 สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพวกเธอที่เป็นกระบอกเสียงให้กับเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้เสียงของตัวเองในการรณรงค์ประเด็นต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่าโมเมนต์แบบนี้คงเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในวงการ K-Pop แต่พวกเธอก็ตอกย้ำความเป็น History Maker ในทุกแง่มุมอย่างแท้จริง
4. 1 BILLION VIEWS YOUTUBE RECORD
“Hit you with that ddu-du, ddu-du, du” เชื่อว่าหากย้อนไปเมื่อปี 2018 ใครๆ ก็น่าจะร้องท่อนนี้กันได้ เพราะเพลง DDU-DU DDU-DU ของ BLACKPINK กลายเป็นเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง และยังเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญของพวกเธอด้วย เพราะมิวสิกวิดีโอนี้มียอดวิวสูงถึง 1 พันล้านครั้งบน YouTube ในระยะเวลาราวหนึ่งปีเท่านั้น พวกเธอจึงกลายเป็นศิลปิน K-Pop กลุ่มแรกที่สามารถทำสถิตินี้ได้ โดยก่อนหน้านั้นมีเพียงศิลปินชายเดี่ยวอย่าง PSY ที่เคยทำสถิติพันล้านวิวได้จากเพลง Gangnam Style
ส่วนในปี 2024 มิวสิกวิดีโอ DDU-DU DDU-DU ก็มียอดวิวสูงถึง 2.2 พันล้านครั้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าเพลงนี้จะเปิดที่ไหนหรือตอนไหน คนฟังก็อดไม่ได้ที่จะร้องและเต้นตามพวกเธอทั้ง 4 คนแน่นอน
5. COLLABORATIONS WITH GLOBAL ARTISTS
หลังจากที่พวกเธอประสบความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีในประเทศเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ชื่อเสียงของ BLACKPINK ก็เติบโตไปในระดับโกลบอล โดยพวกเธอมีโอกาสคอลลาบอเรชันกับศิลปินระดับโลกมากมาย อาทิ เพลง Kiss and Make Up กับ Dua Lipa เมื่อปี 2018 ส่วนปี 2020 พวกเธอก็ทำเพลง Sour Candy กับตัวแม่แห่งวงการอย่าง Lady Gaga สำหรับอัลบั้ม Chromatica รวมถึงเพลง Ice Cream กับ Selena Gomez และเพลง Bet You Wanna กับ Cardi B ซึ่งต่างก็เป็นการร่วมงานกับศิลปินหญิงที่ทรงอิทธิพลระดับโลกแทบทั้งสิ้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างตัวแม่จากฝั่ง K-Pop และฝั่งตะวันตกเลยทีเดียว พร้อมทำให้เห็นถึงการยอมรับในตัว BLACKPINK เพราะศิลปินแต่ละคนก็พิถีพิถันในการเลือกศิลปินที่จะมาร่วมงานด้วย และการที่ศิลปิน K-Pop มาถึงขั้นนี้ได้นั้นถือว่าไม่ธรรมดา
6. WORLD TOUR RECORD
คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ค่อยๆ ไต่ระดับจากสเกลอารีนาไปสู่สเกลสเตเดียมภายในระยะเวลาแค่เพียง 3 ปีเท่านั้น จากคอนเสิร์ต In Your Area World Tour มาสู่ Born Pink World Tour ซึ่ง Touring Data เปิดเผยว่าพวกเธอสร้างอีกหนึ่งประวัติศาสตร์สำคัญในวงการเพลงด้วยการเป็นศิลปินเอเชียและเกิร์ลกรุ๊ปหญิงที่ทำรายได้จากคอนเสิร์ตสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกจาก Born Pink World Tour ด้วยจำนวนเงินกว่า 331.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขายตั๋ว 1,815,183 ใบ จากคอนเสิร์ตทั้งหมด 66 รอบ สิ่งนี้นับเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าพวกเธอมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลกและพวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนพวกเธออย่างเต็มที่
7. THE SOLO PROJECTS
แม้ในขณะนี้สมาชิกทุกคนจะมีต้นสังกัดเป็นของตัวเองสำหรับงานเดี่ยวแล้ว แต่ยังคงเซ็นสัญญาสำหรับกิจกรรมกลุ่มครบทั้ง 4 คนกับ YG Entertainment โดยงานเดี่ยวที่ผ่านมาของแต่ละคนก็ประสบความสำเร็จและรักษาความนิยมให้กับ BLACKPINK ได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อมองย้อนกลับไปเราจะพบว่าสมาชิกทั้ง 4 คน มีผลงานเพลงเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จเป็นของตัวเอง อย่างเช่น JENNIE กับซิงเกิล SOLO, You & Me และเพลงประกอบซีรีส์ The Idol อย่าง One Of The Girls ที่เธอร้องกับ The Weeknd และ Lily-Rose Depp ก็มียอดสตรีมมิงเกินหนึ่งพันล้านครั้งบน Spotify แล้ว ในขณะที่ ROSÉ กับอัลบั้ม R ที่เน้นสไตล์ความเป็นนักดนตรีของเธอกับเพลง On The Ground และ Gone ก็ได้สร้างสถิติการเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกในรอบ 19 ปีที่ขายอัลบั้มได้เกินครึ่งล้านก๊อปปี้ในเกาหลีใต้
พี่ใหญ่ของวงอย่าง JISOO ก็มาพร้อมกับอีพีอัลบั้ม ME ที่มีเพลง All Eyes On Me และ FLOWER ซึ่งเคยติดอันดับ 2 ของชาร์ต Billboard 200 มาแล้ว และ LISA กับเพลง LALISA และเพลง MONEY ที่มียอดวิวบน YouTube ถึง 1 พันล้านครั้ง โดยในเวลาต่อมาเธอก็ชนะรางวัล MTV Video Music Awards 2022 ในสาขา Best K-Pop และเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกที่ทำได้
ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมงานด้านแฟชั่นหรือภาพยนตร์ในต่างประเทศของแต่ละคนที่ทรงอิทธิพลไม่แพ้กัน แต่ก็ต้องบอกว่าผลงานเพลงเดี่ยวนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเธอได้ลองทำเพลงในแบบที่ตัวเองชอบ รวมทั้งเป็นการทำให้ผู้คนกลับมาทำความรู้จักกับชื่อของ BLACKPINK เช่นเดียวกัน
หากใครสงสัยว่าพวกเธอจะมีกิจกรรมวงให้ติดตามกันอีกหรือไม่ ล่าสุด Yang Hyun Suk ผู้ก่อตั้งค่าย YG Entertainment ก็ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่าในปี 2025 BLACKPINK จะคัมแบ็ก พร้อมกับมีแพลนที่จะทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อพบปะแฟนๆ ทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้นต้องมารอติดตามกันว่าการคัมแบ็กครั้งนี้จะมาในรูปแบบอัลบั้มจัดเต็มหรือมินิอัลบั้ม และสมาชิกทั้ง 4 คนจะมาพบกันอีกครั้งในช่วงเวลาไหนจากการจัดสรรตารางงานที่อาจจะแน่นสุดๆในเวลานี้