อายุ 30+ เราตัดสินใจไปเรียนภาษาต่อ แต่มีเพื่อนพูดกับเราแบบนี้ แล้วเรารู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดเพื่อน เราคิดมากไปไหม

กระทู้สนทนา
เราอายุ 30+ และตัดสินใจไปเรียนภาษาด้วยเหตุผลส่วนตัว เลยลาออกจากงานประจำเพื่อไปเรียนต่อ ทำเอกสารและทุกอย่างจบครบหมดแล้วเหลือเวลาอีก ไม่กี่วันต้องเดินทางแล้ว จึงตัดสินใจเริ่มบอกเพื่อนๆว่า เออไปเรียนต่อนะ ไปแปบเดียวนัดกินข้าวกันดีไหมไม่เจอนานแล้ว ซึ่งทางบ้านเราก็โอเคเพราะเราเลือกเอง จ่ายเองคนเดียว ทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ค่าใช้จ่ายมีดำเนินการไปหมดแล้ว เหลือแค่บอกคนรอบข้างที่เราสนิทไม่กี่คน แต่มีเพื่อนคนนึงที่เราพึ่งบอก และสิ่งที่ได้กลับไม่ใช่คำพูดเชิงยินดีหรือเห็นด้วย หรือซัพพอร์ตความรู้สึก
แต่เป็นคำพูดประมานว่า

"กุจะย้ายไปเรียนสักพัก เรานัดกินข้าวกันไหมไม่เจอกันนานแล้ว"

เพื่อนตอบว่า

"ลาออก?"

เราตอบ

"ใช่ ต้องไปกลับไปเป็นนักเรียนอีกแล้ว"

เพื่อนตอบมา

"แล้วจะเอาอะไรกิน"

ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดรอบที่ 1 ว่า นี้คือคำพูดแรกหรอเพราะเราก็กังวลอยู่แล้วกับการตัดสินใจครั้งนี้แต่เราเลือกแล้วและทำทุกอย่างด้วยตัวเองเสร็จสิ้นหมดแล้ว คาดหวังว่าเพื่อนจะซัพพอร์ตความรู้สึกว่า เออ โชคดีนะ แค่คำพูดสั้นๆก็ได้ แต่เพื่อนกลับพูดแบบนี้ขึ้นมาซึ่งงานของเรา เราจัดการทุกอย่างหมดแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่รู้สึกมีปัญหาคือใจของเราเอง ที่เอ๊ะอะ จะไปดีไม่ไปดี หรือจะทำงานต่อหรือจะไปเรียนดูก่อน คือเราก็อึดอัดกับตัวเองอยู่แล้ว แต่เราอาจจะคาดหวังกับคำพูดเพื่อนมากเกินไปทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจอีกครั้ง เพราะไปเรียนก็ต้องใช้เงินส่วนตัวเพื่อไปใช้ชีวิตในต่างประเทศเราก็กลัวเหมือนกันแต่ก็ไม่เคยไปอยู่นานๆ เราก็อยากลองสักครั้ง เพื่อนบางคนยินดีที่เรากล้าตัดสินใจไปในช่วงอายุเท่านี้ แต่มีคนคนนึงที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่มีความยินดีหรือเห็นด้วยใดๆ ต่อ.....

เราก็ตอบไปคุยเรื่องจะนัดกินข้าว แต่เพื่อนก็พิมพ์กลับมาอีก

"เสียดายเงินเก็บ"

หงุดหงิดรอบที่ 2 ละ เราก็รู้สึกไม่มั่นใจอีกครั้ง เราจะบินอยู่แล้ว ตัดสินใจมาแล้ว กล้าๆกลัวๆอยู่เป็นปี คืออยากลองไปใช้ชีวิตนานๆสักครั้งมันก็อายุ 30 กว่าแล้วมีภาระส่วนตัวนิดหน่อยแต่คิดมาแล้วมามันพอสำหรับระยะเวลาที่เราจะไป

เราตอบกลับไปว่า

"โอเคไว้เจอแล้วค่อยคุยกันนะ ถ้าว่างมาถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร"

เริ่มไม่อยากเจอเพื่อนคนนี้ละ ถามว่าสนิทไหมก็ระดับนึงเราเป็นผู้หญิง ส่วนเพื่อนเราคนนี้เป็นผู้ชาย ซึ่งปกติมันจะเฉยๆกับทุกอย่างนะ แต่พอเป็นเราพูดอะไรไป มันก็จะตอบกลับมาเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆบ่อยครั้งแต่เราพึ่งจะมาสังเกตรอบนี้ จนมาถึงคำถามท้ายๆที่คุยกันที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดมากและคิดว่ามาลองถามคนอื่นดูดีกว่า ว่าเราคิดมากไปไหมกับคำพูดเหล่านี้คือ

เพื่อนพิมพ์ถามต่อ

"ไปเรียนอะไร"

เราตอบไปว่า

"เรียนภาษา" สั้นๆ

เพื่อนตอบกลับมา

"คิดค่าใช้จ่ายหรือยัง"

???? เอ่อออ!! เราจะบินอยู่แล้วนะ ทำไมคำถามเหล่านี้ไม่ได้มาจากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวแต่มาจากเพื่อน เรารู้สึกหงุดหงิดกับคำถามเหล่านี้มากๆ เรานั่งคิดวนเฉยเลยว่าเฮ้ย! อันนี้ที่ถามต้องการคำตอบแบบไหน หรือจริงๆเราไม่ควรบอกใคร นี้บอกเพื่อนที่เราคิดว่าสนิท แต่ว่าคำถามหรือคำพูดแบบนี้ควรจะถามคนที่ตัดสินใจไปแล้วหรอ หรือมันไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ถึงถามแบบนี้ออกมาบ่อยๆ 

เราไม่ได้คุยเรื่องเงินๆทองๆกับเพื่อนเท่าไรนะ ส่วนมากจะเรื่องงาน ธุรกิจต่างๆเพราะทำงานคนละที่คนละสายงาน นี้เพื่อนมหาลัย เราก็ชอบคุยกับเพื่อนคนอื่นก็ปกติ แต่มีคนนี้ที่พอเราสังเกตก็มีหลายครั้งละ อย่างเช่นคำพูดที่ว่า

"ไหน มีธุรกิจไหนยังไม่เจ๊งอีกบ้าง"

" จะรอดหรอ"

"ไม่เก็บเงินว่ะ"

ซึ่งบางที ไม่ใช่คำพูดตรงๆนะ แต่เป็นคำพูดอ้อมๆเกี่ยวกับเรื่องเงิน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล เราใช้เงินตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเพื่อนไม่เคยทำธุรกิจหรือทำอะไรร่วมกัน เวลาเจอกันก็จะพูดคุยเรื่อยเปื่อย แต่เรามักคุยเรื่องอื่นมากกว่า เรารู้สึกว่าเงินและเรื่องที่บ้านคือเรื่องส่วนตัว จะคุยเรื่องท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ เนื้องาน เพื่อนร่วมงาน บลาๆ เจอกันปีละ 2-3 ครั้ง บางปีไม่ได้เจอกันเลยเพราะเราก็ติดงานติดแฟน ส่วนเพื่อนก็มีแฟนมีงาน เพื่อนมีหน้าที่การงานที่ดีนะ แต่ชอบถามเราเรื่องเงินบ่อยมาก ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด เราคิดมากไปเองไหม แต่ก็ไม่ควรถามใครที่เค้ากำลังไม่มั่นใจกับการตัดสินใจอยู่ในตอนนี้หรือป่าว จนเราอยากจะตอบกลับไปว่า เออพอดีถูกหวย 10 ใบ จะได้เลิกถามต่อสักที

รบกวนขอความคิดเห็นสำหรับการคิดมากในครั้งนี้และขอกำลังใจบ้าง สำหรับคนที่ตัดสินใจไปเรียนและใช้ชีวิตในต่างประเทศในอายุช่วง 30 มันอาจจะไม่เหมาะกับทุกคนที่อายุเท่านี้ต้องสร้างเนื้อสร้างตัวแต่สำหรับเรา เราอยากทำอะไรที่เราไม่เคยทำ ไปในที่ที่ไม่มีใครอยากไป อยากใช้ชีวิตแบบที่เราตัดสินใจเอง จะดีหรือร้าย เราก็ไม่รู้อนาคตเหมือนกัน แต่เราตัดสินใจแล้ว ขอบคุณล่วงหน้า รอฟังความคิดเห็นนะคะ 🥲🥲🥲
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่