รีวิวนี้ก้จะขอเล่าประสบการณ์เปลี่ยนโช๊คอัพของรถผมกันครับ คือเรื่องมันมีอยู่ว่าวันก่อนเอารถไปเข้าศูนย์มาแล้วศูนย์แจ้งโช๊คอัพรั่ว ตายละ! ไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว ขับมานานสงสัยต้องถึงเวลาอัพเกรดรถคู่ใจกันสักหน่อย เปลี่ยนทั้งทีผมก็อยากจะเปลี่ยนใหม่แบบดีๆ ไปเลย จัดไปแบบเอาให้นุ่มกว่าเดิมเลย สเปคที่ผมต้องการ รถที่ผมขับตอนนี้เปนรถครอบครัวแล้วก็มีลูกน้อยนั่งด้วย เรียกได้ว่าเป็น “ปะป๊าสายรักครอบครัว” นอกจากนั้นก้มีขับไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง แต่ส่วนมากก็จะวิ่งในเมืองเปนหลักครับ
ต้องขอเท้าความก่อนเลยว่า รถผมที่โช๊คอัพรั่วเนี่ยเปนของรถฟอร์จูนเนอร์ คันนี้ก้เป็นรถคันที่ 2 ของผมครับ เมื่อก่อนเคยใช้คันแรกรุ่นหน้ายักษ์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยวัยรุ่นๆก็เคยใส่โช๊คโมโนที่ฮิตๆกันในคลับเมื่อก่อน และเปลี่ยนมาเป็นโช๊คนอกมีซัพแทงค์ทีหลัง ตอนแรกๆเห่อของใหม่เวลาจะวิ่งทางไกลทีก็ปรับความหนืดที แต่ปกติวิ่งในเมืองก็ไม่ได้ปรับ เรียกได้ว่าปรับอยู่ 2-3 ครั้งแล้วก็ทิ้งไว้อย่างนั้นเลย พาแม่ขึ้นทีก็จะบ่นว่ากระด้าง 555+ แต่พ.ศ.นี้ ยุคสมัยเปลี่ยน ความต้องการก้เปลี่ยนไปครับ ตัวผมเองก็กลายมาเป็นพ่อคนแล้วก็ต้องมีรถที่ขับแล้วลูกๆ และครอบครัวผมนั่งสบายที่สุด! ตัวผมเองก็เริ่มจากหาข้อมูลร้านโช๊คก่อนเป็นอันดับแรก ก็โทรไปถามอยู่ประมาณ 3 ที่ได้ สรุปได้ไปที่พรานนกโช๊คอัพ ตรงถนนพรานนกตัดใหม่ เปนสาขาที่ย้ายมาจากสาขาตรงแยกไฟฉาย ที่เปิดมาค่อนข้างนานมากแล้วครับ เหมือนจะเปิดมาประมาณ 50 กว่าปีได้ รุ่นพ่อผมเลยเนี่ย…เห้นตั้งแต่เด้กๆ ตอนผมโทรไปมีพี่ผู้ชายเปนคนรับสาย ให้คำแนะนำดีมาก ต้องบอกตรงนี้เลยว่าคือมันจะไม่มีโช๊คที่ดีแบบทุกด้านครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแบบไหนมากกว่ากัน จะเป็นแบบที่จะดีทั้งวิ่งใช้ความเร็วสูงก้จะต้องเป็นโช๊คที่แน่นเฟิร์ม หรือวิ่งช้าๆนั่งนุ่มๆสบายๆในเมืองก้จะอีกตัวนึงไป บอกเลยว่าตอนแรกผมก็ตัดสินใจหนักอยู่ครับ คิดอยู่นานทางผมก็ได้ข้อสรุปว่าผมต้องการแบบนุ่มๆ หน่อย นั่งสบายๆ เพราะมีเด็กเล็กด้วย เอาแบบตัวที่ตอบโจทย์ปะป๊ารักสายรักครอบครัว แบบเหยียบ 120-130 ได้อยู่ แต่อาจมียวบๆบ้าง ไม่เปนไร ไม่อยากได้แบบโช๊คปรับระดับ หรือ โมโนแล้วครับ รอบนี้ จัดไปแบบทนๆดีก่า จะได้ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันมาก
เอาละ พูดถึงสิ่งที่ต้องการกันไปแล้ว ตอนนี้เราก้มาถึง พรานนกโช๊คอัพกันเปนที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะไปขั้นต่อไป เดี๋ยวผมพาไปดูรอบๆ สถานที่กันก่อนดีกว่า เริ่มจากหน้าศูนย์ไปจนถึงทางเข้าศูนย์กันครับ (ด้านนอกจะมีโซนให้สูบบุหรี่ได้ด้วย)
เมื่อเข้ามาแล้วก็จะมีที่นั่งรอ ค่อนข้างกว้างและบริการแบบเข้าถึงอยู่นะ รวมถึงโซนเครื่องดื่มฟรี! สามารถทานมาม่า น้ำเปล่า และกาแฟ ระหว่างรอได้ตรงนี้เลยครับ แน่นอนเลยว่าระว่างรอเปลี่ยนโช๊ค ว่าจะมาจัดซะหน่อยเอาให้คุ้ม มีหรือจะพลาด 555+
พาชมรอบๆศูนย์แล้ว ตอนนี้ก็กลับมาเข้าเรื่อง ที่ร้านก็มีโช๊คตามความต้องการผมอยู่ 4 แบรนด์ด้วยกันครับ ลังเลหลายตัวมาก บอกเลยหนักใจตอนเลือกสุดๆ ก้จะมี
1. Tein Endura pro ราคา 35,400 โช๊คพร้อมสปริงครบชุด (เฉพาะโช๊ค 19,400) เป็นโช๊คสีเขียว แบรนด์ญี่ปุ่น
2. YSS Dtg plus ราคา 28,400 ได้โช๊คพร้อมสปริงครบชุด (เฉพาะโช๊ค 14,900 ปรับได้ 7 ระดับ)
3. PNK Super sport ราคา 19,900 ได้โช๊คพร้อมสปริงครบชุด (เฉพาะโช๊ค 8,900)
4. Tokico ราคา 5,290 ได้โช๊คอัพ 4 ตัว ใช้สปริงเดิม ราคารวมค่าแรงหมดแล้ว (ตัวนี้จะเหมือนของเดิมๆติดรถ)
ตัดสินใจยากมาก คิดไปคิดมารวมถึงปรึกษากับทางพรานนกโช๊คอัพ สุดท้ายจบที่โช๊คอัพ PNK 4 ตัว พร้อมสปริงหลังแบบโปรเกรสซีฟ (มันมีค่า k สองจังหวะ เวลาตกหลุม สปริงจะตอบสนองได้ไวกว่าแบบสปริงธรรมดา) อีกเหตุผลที่เลือกยี่ห้อนี้ เพราะเป็นโช๊คน้ำมัน ในความรู้สึกผม ผมว่ามันนุ่มกว่าและน่าจะใช้งานได้นานกว่าโช๊คแก๊ส และร้านรับประกันปรับความหนืดได้ที่ร้านเลยด้วย ช่างแนะนำว่าถ้าต้องการแบบนั่งสบายให้เปลี่ยนเฉพาะโช๊คกับสปริงหลังก็จะรู้สึกต่างจากเดิมมากแล้ว แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ครบ ก็จัดเลย! เปลี่ยนทั้งเซ็ท โช๊ค 4 ต้น สปริง 4 เส้น ไปเล!!! จัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว ที่นี้ก้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างพรานนกโช๊คอัพในการเปลี่ยนโช๊คให้รถสุดเท่ของผมครับ เดวเราไปดูภาพตัวโช๊คอัพ PNK ที่เลือกมาติดในครั้งนี้กันก่อน
อะ..ก็ระหว่างนั่งรอช่างที่ร้านเปลี่ยนโช๊คให้รถสุดเท่ของผม ตัวผมก้ไม่รอช้าที่จะแวะไปทานกาแฟที่โซนเครื่องดื่มบริการตัวเองฮะ จัดไปหลายอย่างทั้งมาม่าและกาแฟ 555+ และไม่นานเกินรอ ช่างคนเก่งของเราก้มาแจ้งว่าเช็คช่วงล่างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาไปเกือบชั่วโมง และก็ดูเหมือนว่าที่รถมียางตรงปีกนกเริ่มขาด (เอาละไง….)
แต่ว่าส่วนอื่นยังแน่นอยู่คับ หลังจากที่เปลี่ยนโช๊คเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก้ถึงเวลาเทสความนุ่มของโช๊คใหม่แกะกล่องกันสักหน่อย! ผมได้ลองออกรถไปวิ่งกับช่าง ความรู้สึกของผมมันบอกได้เลยว่าทั้งคนที่นั่งหน้า หรือนั่งหลัง มันนุ่มขึ้นจริง นั่งสบาย เข้าโค้งก็ทำได้ดี ไม่ย้วยไม่เอียง เวลาผ่านรอยต่อถนนก็รู้สึกสะดุดน้อยลงกว่าก่อนเปลี่ยนมากๆ
นี่แหละโช๊คที่ตามหามาแสนนาน ละก้ขอสรุปค่าเสียหายโดนไป 19,900 บาท จุกๆคับ แต่กับผลลัพธ์ที่ได้ ส่วนตัวค่อนข้างพอใจนะ คุ้มเงินอยู่คับ เรียกได้ว่างานนี้ไม่เสียดายตัง อะ และก่อนที่จากกันไปในวันนี้ ผมจะขอปิดท้ายด้วยรูปรถผมระหว่างติดโช๊คอัพและสปริงเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยมาให้เพื่อนๆได้ดูกัน บอกเลยว่าใหม่จัดๆ ถูกใจมากๆ ใครที่สนใจหรือมีแพลนจะเปลี่ยนโช๊คใหม่ ก็สามารถแวะไปใช้บริการที่ศูนย์ พรานนกโช๊คอัพได้นะครับ
[CR] รีวิวประสบการณ์เปลี่ยนโช๊ครถฟอร์จูนเนอร์ของคุณให้เป็นสไตล์คนรักครอบครัว
ต้องขอเท้าความก่อนเลยว่า รถผมที่โช๊คอัพรั่วเนี่ยเปนของรถฟอร์จูนเนอร์ คันนี้ก้เป็นรถคันที่ 2 ของผมครับ เมื่อก่อนเคยใช้คันแรกรุ่นหน้ายักษ์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยวัยรุ่นๆก็เคยใส่โช๊คโมโนที่ฮิตๆกันในคลับเมื่อก่อน และเปลี่ยนมาเป็นโช๊คนอกมีซัพแทงค์ทีหลัง ตอนแรกๆเห่อของใหม่เวลาจะวิ่งทางไกลทีก็ปรับความหนืดที แต่ปกติวิ่งในเมืองก็ไม่ได้ปรับ เรียกได้ว่าปรับอยู่ 2-3 ครั้งแล้วก็ทิ้งไว้อย่างนั้นเลย พาแม่ขึ้นทีก็จะบ่นว่ากระด้าง 555+ แต่พ.ศ.นี้ ยุคสมัยเปลี่ยน ความต้องการก้เปลี่ยนไปครับ ตัวผมเองก็กลายมาเป็นพ่อคนแล้วก็ต้องมีรถที่ขับแล้วลูกๆ และครอบครัวผมนั่งสบายที่สุด! ตัวผมเองก็เริ่มจากหาข้อมูลร้านโช๊คก่อนเป็นอันดับแรก ก็โทรไปถามอยู่ประมาณ 3 ที่ได้ สรุปได้ไปที่พรานนกโช๊คอัพ ตรงถนนพรานนกตัดใหม่ เปนสาขาที่ย้ายมาจากสาขาตรงแยกไฟฉาย ที่เปิดมาค่อนข้างนานมากแล้วครับ เหมือนจะเปิดมาประมาณ 50 กว่าปีได้ รุ่นพ่อผมเลยเนี่ย…เห้นตั้งแต่เด้กๆ ตอนผมโทรไปมีพี่ผู้ชายเปนคนรับสาย ให้คำแนะนำดีมาก ต้องบอกตรงนี้เลยว่าคือมันจะไม่มีโช๊คที่ดีแบบทุกด้านครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแบบไหนมากกว่ากัน จะเป็นแบบที่จะดีทั้งวิ่งใช้ความเร็วสูงก้จะต้องเป็นโช๊คที่แน่นเฟิร์ม หรือวิ่งช้าๆนั่งนุ่มๆสบายๆในเมืองก้จะอีกตัวนึงไป บอกเลยว่าตอนแรกผมก็ตัดสินใจหนักอยู่ครับ คิดอยู่นานทางผมก็ได้ข้อสรุปว่าผมต้องการแบบนุ่มๆ หน่อย นั่งสบายๆ เพราะมีเด็กเล็กด้วย เอาแบบตัวที่ตอบโจทย์ปะป๊ารักสายรักครอบครัว แบบเหยียบ 120-130 ได้อยู่ แต่อาจมียวบๆบ้าง ไม่เปนไร ไม่อยากได้แบบโช๊คปรับระดับ หรือ โมโนแล้วครับ รอบนี้ จัดไปแบบทนๆดีก่า จะได้ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันมาก
เอาละ พูดถึงสิ่งที่ต้องการกันไปแล้ว ตอนนี้เราก้มาถึง พรานนกโช๊คอัพกันเปนที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะไปขั้นต่อไป เดี๋ยวผมพาไปดูรอบๆ สถานที่กันก่อนดีกว่า เริ่มจากหน้าศูนย์ไปจนถึงทางเข้าศูนย์กันครับ (ด้านนอกจะมีโซนให้สูบบุหรี่ได้ด้วย)
เมื่อเข้ามาแล้วก็จะมีที่นั่งรอ ค่อนข้างกว้างและบริการแบบเข้าถึงอยู่นะ รวมถึงโซนเครื่องดื่มฟรี! สามารถทานมาม่า น้ำเปล่า และกาแฟ ระหว่างรอได้ตรงนี้เลยครับ แน่นอนเลยว่าระว่างรอเปลี่ยนโช๊ค ว่าจะมาจัดซะหน่อยเอาให้คุ้ม มีหรือจะพลาด 555+
พาชมรอบๆศูนย์แล้ว ตอนนี้ก็กลับมาเข้าเรื่อง ที่ร้านก็มีโช๊คตามความต้องการผมอยู่ 4 แบรนด์ด้วยกันครับ ลังเลหลายตัวมาก บอกเลยหนักใจตอนเลือกสุดๆ ก้จะมี
1. Tein Endura pro ราคา 35,400 โช๊คพร้อมสปริงครบชุด (เฉพาะโช๊ค 19,400) เป็นโช๊คสีเขียว แบรนด์ญี่ปุ่น
2. YSS Dtg plus ราคา 28,400 ได้โช๊คพร้อมสปริงครบชุด (เฉพาะโช๊ค 14,900 ปรับได้ 7 ระดับ)
3. PNK Super sport ราคา 19,900 ได้โช๊คพร้อมสปริงครบชุด (เฉพาะโช๊ค 8,900)
4. Tokico ราคา 5,290 ได้โช๊คอัพ 4 ตัว ใช้สปริงเดิม ราคารวมค่าแรงหมดแล้ว (ตัวนี้จะเหมือนของเดิมๆติดรถ)
ตัดสินใจยากมาก คิดไปคิดมารวมถึงปรึกษากับทางพรานนกโช๊คอัพ สุดท้ายจบที่โช๊คอัพ PNK 4 ตัว พร้อมสปริงหลังแบบโปรเกรสซีฟ (มันมีค่า k สองจังหวะ เวลาตกหลุม สปริงจะตอบสนองได้ไวกว่าแบบสปริงธรรมดา) อีกเหตุผลที่เลือกยี่ห้อนี้ เพราะเป็นโช๊คน้ำมัน ในความรู้สึกผม ผมว่ามันนุ่มกว่าและน่าจะใช้งานได้นานกว่าโช๊คแก๊ส และร้านรับประกันปรับความหนืดได้ที่ร้านเลยด้วย ช่างแนะนำว่าถ้าต้องการแบบนั่งสบายให้เปลี่ยนเฉพาะโช๊คกับสปริงหลังก็จะรู้สึกต่างจากเดิมมากแล้ว แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ครบ ก็จัดเลย! เปลี่ยนทั้งเซ็ท โช๊ค 4 ต้น สปริง 4 เส้น ไปเล!!! จัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว ที่นี้ก้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างพรานนกโช๊คอัพในการเปลี่ยนโช๊คให้รถสุดเท่ของผมครับ เดวเราไปดูภาพตัวโช๊คอัพ PNK ที่เลือกมาติดในครั้งนี้กันก่อน
อะ..ก็ระหว่างนั่งรอช่างที่ร้านเปลี่ยนโช๊คให้รถสุดเท่ของผม ตัวผมก้ไม่รอช้าที่จะแวะไปทานกาแฟที่โซนเครื่องดื่มบริการตัวเองฮะ จัดไปหลายอย่างทั้งมาม่าและกาแฟ 555+ และไม่นานเกินรอ ช่างคนเก่งของเราก้มาแจ้งว่าเช็คช่วงล่างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาไปเกือบชั่วโมง และก็ดูเหมือนว่าที่รถมียางตรงปีกนกเริ่มขาด (เอาละไง….)
แต่ว่าส่วนอื่นยังแน่นอยู่คับ หลังจากที่เปลี่ยนโช๊คเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก้ถึงเวลาเทสความนุ่มของโช๊คใหม่แกะกล่องกันสักหน่อย! ผมได้ลองออกรถไปวิ่งกับช่าง ความรู้สึกของผมมันบอกได้เลยว่าทั้งคนที่นั่งหน้า หรือนั่งหลัง มันนุ่มขึ้นจริง นั่งสบาย เข้าโค้งก็ทำได้ดี ไม่ย้วยไม่เอียง เวลาผ่านรอยต่อถนนก็รู้สึกสะดุดน้อยลงกว่าก่อนเปลี่ยนมากๆ
นี่แหละโช๊คที่ตามหามาแสนนาน ละก้ขอสรุปค่าเสียหายโดนไป 19,900 บาท จุกๆคับ แต่กับผลลัพธ์ที่ได้ ส่วนตัวค่อนข้างพอใจนะ คุ้มเงินอยู่คับ เรียกได้ว่างานนี้ไม่เสียดายตัง อะ และก่อนที่จากกันไปในวันนี้ ผมจะขอปิดท้ายด้วยรูปรถผมระหว่างติดโช๊คอัพและสปริงเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยมาให้เพื่อนๆได้ดูกัน บอกเลยว่าใหม่จัดๆ ถูกใจมากๆ ใครที่สนใจหรือมีแพลนจะเปลี่ยนโช๊คใหม่ ก็สามารถแวะไปใช้บริการที่ศูนย์ พรานนกโช๊คอัพได้นะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้