รายได้จากโฆษณาส่วนใหญ่
มาจากแอป ขายของออนไลน์
ตอนนี้มีแอปใหม่เข้ามาชื่อ temu
ก็มาดูการเปลี่ยนแปลงกันครับ ว่าการเข้ามาของแอป temuจะเป็นยังไง
สำหรับการหาเงินผ่านGoogle AdSense
Google AdSense มีการปรับเปลี่ยนในการแบ่งรายได้หลายครั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นี่คือภาพรวมที่น่าสนใจ:ครับ
ช่วงแรก (ก่อนปี 2003) 🕰️
เริ่มต้นในปี 2003 โดยใช้โมเดล CPC (Cost Per Click) 💸
ซึ่งหมายความว่าผู้เผยแพร่(ชาวpantip)ได้รับเงินตามจำนวนคลิกที่โฆษณา
ปี 2004-2007 🚀
เพิ่มฟีเจอร์ CPM (Cost Per Thousand Impressions) 📈
ซึ่งผู้เผยแพร่เริ่มได้รับเงินจากการแสดงโฆษณามากกว่าจำนวนคลิก
การแบ่งรายได้: Google รับ 32% 💵 และผู้เผยแพร่รับ 68% 💰(ชาวpantip)
ปี 2008-2010 🌐
การปรับปรุงอัลกอริธึมและการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ 📊
การแบ่งรายได้ยังคงที่ 32% สำหรับ Google และ 68% สำหรับผู้เผยแพร่(ชาวpantip)
ปี 2011-2015 📱
เพิ่มการสนับสนุนสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ 📲
การแบ่งรายได้ยังคงเหมือนเดิม พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำเงิน
(หลังปี 2016) 🔧
การปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงาน 📉
การแบ่งรายได้ยังคงประมาณ 68% สำหรับผู้เผยแพร่ 💵(ชาวpantip)
2017
AdSense จะแยกการคิดค่าธรรมเนียมระหว่างฝ่ายซื้อ (เช่น Google Ads)
และฝ่ายขาย ผู้เผยแพร่โฆษณา(ชาวpantip)จะได้รับ 80% ของรายได้หลังจากที่แพลตฟอร์มฝ่ายซื้อหักค่าธรรมเนียมแล้ว 📊
ส่งผลให้การคำนวณ ROI ของผู้ลงโฆษณาชัดเจนขึ้น 📈
ผลกระทบต่อรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณา
ชาวpantip)
รายได้ของผู้เผยแพร่เพิ่มขึ้น(ชาวpantip): ผู้เผยแพร่จะได้รับส่วนแบ่งที่มากขึ้นจากรายได้ทั้งหมด
เนื่องจากส่วนแบ่ง 80% นี้เป็นส่วนที่เหลือหลังจากหักค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มฝ่ายซื้อแล้ว 📈
ผลกระทบต่อรายได้ของ Google:
Google ได้รับรายได้ลดลง: เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่ Google
หักจะเป็นค่าธรรมเนียมที่ลดลงและจะต้องหักออกก่อนที่รายได้ที่เหลือจะถูกแบ่งให้กับผู้เผยแพร่ (ชาวpantip)
ดังนั้น Google จะได้รับส่วนแบ่งที่น้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลการแบ่งรายได้แบบเก่าที่มีการแบ่ง 68%/32%
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้เผยแพร่โฆษณา(ชาวpantip)
และทำให้พวกเขามีความพึงพอใจมากขึ้น
แต่ก็ทำให้ Google ต้องปรับกลยุทธ์การสร้างรายได้ของตนเอง
เช่น
📌 การจ่ายเงินต่อการแสดงผล: จากที่เคยจ่ายเงินตามการคลิก
Google จะเปลี่ยนเป็นการจ่ายเงินตามการแสดงผลแทน
เพื่อให้การเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ง่ายขึ้น 📈
ทำให้รายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณา(ชาวpantip)เหมือนจะลดลง
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์นะครับ! 😊
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Google
ยังคงพัฒนาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาได้ดียิ่งขึ้น 🚀✨
📊 การเปลี่ยนแปลงในการแบ่งรายได้ของ Google AdSense 💰และนโยบายyoutube
มาจากแอป ขายของออนไลน์
ตอนนี้มีแอปใหม่เข้ามาชื่อ temu
ก็มาดูการเปลี่ยนแปลงกันครับ ว่าการเข้ามาของแอป temuจะเป็นยังไง
สำหรับการหาเงินผ่านGoogle AdSense
Google AdSense มีการปรับเปลี่ยนในการแบ่งรายได้หลายครั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นี่คือภาพรวมที่น่าสนใจ:ครับ
ช่วงแรก (ก่อนปี 2003) 🕰️
เริ่มต้นในปี 2003 โดยใช้โมเดล CPC (Cost Per Click) 💸
ซึ่งหมายความว่าผู้เผยแพร่(ชาวpantip)ได้รับเงินตามจำนวนคลิกที่โฆษณา
ปี 2004-2007 🚀
เพิ่มฟีเจอร์ CPM (Cost Per Thousand Impressions) 📈
ซึ่งผู้เผยแพร่เริ่มได้รับเงินจากการแสดงโฆษณามากกว่าจำนวนคลิก
การแบ่งรายได้: Google รับ 32% 💵 และผู้เผยแพร่รับ 68% 💰(ชาวpantip)
ปี 2008-2010 🌐
การปรับปรุงอัลกอริธึมและการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ 📊
การแบ่งรายได้ยังคงที่ 32% สำหรับ Google และ 68% สำหรับผู้เผยแพร่(ชาวpantip)
ปี 2011-2015 📱
เพิ่มการสนับสนุนสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ 📲
การแบ่งรายได้ยังคงเหมือนเดิม พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำเงิน
(หลังปี 2016) 🔧
การปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงาน 📉
การแบ่งรายได้ยังคงประมาณ 68% สำหรับผู้เผยแพร่ 💵(ชาวpantip)
2017
AdSense จะแยกการคิดค่าธรรมเนียมระหว่างฝ่ายซื้อ (เช่น Google Ads)
และฝ่ายขาย ผู้เผยแพร่โฆษณา(ชาวpantip)จะได้รับ 80% ของรายได้หลังจากที่แพลตฟอร์มฝ่ายซื้อหักค่าธรรมเนียมแล้ว 📊
ส่งผลให้การคำนวณ ROI ของผู้ลงโฆษณาชัดเจนขึ้น 📈
ผลกระทบต่อรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาชาวpantip)
รายได้ของผู้เผยแพร่เพิ่มขึ้น(ชาวpantip): ผู้เผยแพร่จะได้รับส่วนแบ่งที่มากขึ้นจากรายได้ทั้งหมด
เนื่องจากส่วนแบ่ง 80% นี้เป็นส่วนที่เหลือหลังจากหักค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มฝ่ายซื้อแล้ว 📈
ผลกระทบต่อรายได้ของ Google:
Google ได้รับรายได้ลดลง: เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่ Google
หักจะเป็นค่าธรรมเนียมที่ลดลงและจะต้องหักออกก่อนที่รายได้ที่เหลือจะถูกแบ่งให้กับผู้เผยแพร่ (ชาวpantip)
ดังนั้น Google จะได้รับส่วนแบ่งที่น้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลการแบ่งรายได้แบบเก่าที่มีการแบ่ง 68%/32%
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้เผยแพร่โฆษณา(ชาวpantip)
และทำให้พวกเขามีความพึงพอใจมากขึ้น
แต่ก็ทำให้ Google ต้องปรับกลยุทธ์การสร้างรายได้ของตนเอง
เช่น
📌 การจ่ายเงินต่อการแสดงผล: จากที่เคยจ่ายเงินตามการคลิก
Google จะเปลี่ยนเป็นการจ่ายเงินตามการแสดงผลแทน
เพื่อให้การเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ง่ายขึ้น 📈
ทำให้รายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณา(ชาวpantip)เหมือนจะลดลง
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์นะครับ! 😊
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Google
ยังคงพัฒนาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาได้ดียิ่งขึ้น 🚀✨