กระทู้นี้เป็น Spoil นะคะ
ตัวเต็มออกวันอาทิตย์ 22:00 ทาง Manga Plus
JUJUTSU KAISEN : 265 "ในวันนั้น"
Editor's note : อิตาโดริ กางอาณาเขตแล้ว!!
แต่ว่าที่แห่งนี้มันคืออะไรกันนะ ?
- ต่อจากตอนที่แล้ว ยูจิ กางอาณาเขต...
สุคุนะกล่าวว่าเขาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
สุคุนะ : ข้าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากยิ่งของการเชื่อมต่อกันระหว่าง
นักคุณไสยกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดข้าคิดว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากพลังงานคำสาปที่เกิดมาจากร่างกายของมนุษย์
แต่นี่มันแตกต่างออกไป ... มันคืออะไร? อาณาเขตของแกรึ?
ยูจิ : พูดพล่ามพอแล้วหรือยังเอาจริง
ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักฉันแค่อยากคุยกับนายแปปเดียวเท่านั้น
- แล้วยูจิก็ชี้ไปที่รูปปั้นรูปหนึ่ง และตะโกนชื่อของรูปปั้น
ซึ่งสุคุนะบอกว่าไม่รู้จัก
สุคุนะ : ไม่รู้จักโว้ย
ยูจิ : ก็ปกติแหละนะ ถ้าไม่ใช่คนท้องที่ก็ไม่มีใครรู้จักหรอก
- ยูจิและสุคุนะ เดินผ่านสถานที่ต่าง ๆ และยูจิเริ่มเล่าเรื่องตัวเองให้สุคุนะฟัง
ยูจิ : "ฉันอาศัยอยู่ที่นี่จนประมาณ 6 หรือ 7 ขวบนี่แหละ แล้วถึงย้ายไปเซนได
ความจริงฉันเกิดที่เซนได แต่ย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่องานของคุณปู่
ฉันกลับมาที่นี่ในรอบ 10 ปี เพื่อมาร่วมงานศพของเพื่อนปู่ฉันน่ะ
ไม่ได้จะบอกว่าเมืองนี้เหมือนเมืองผีสิงอะไรหรอกนะ แต่แค่ค่อนข้างตกใจที่มันว่างเปล่าได้ขนาดนี้
หรือว่าความจริงก็ไม่ได้น่าแปลกใจเท่าไหร่กันแน่นะ ถ้าให้พูดตามตรงก็คิดไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้
เพราะแบบนั้นมันไม่ได้ทำให้ฉันสั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย แค่สงสัยว่าเพื่อนของปู่ฉันจะมางานศพของปู่ฉันไหม
ถ้าเกิดว่าปู่ฉันตายก่อนเขา"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ยูจิและสุคุนะ เดินมาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
ยูจิ : "นี่คือสวนสาธารณะที่ฉันมาบ่อยมาก
ของเล่นที่นี่เกือบจะหายไปหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันเกือบจะตายแล้วที่สะดุดเท้าตัวเองขณะเล่นชิงช้า
แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายหรอกครั้งนึงฉันเคยทำสไลม์ตกลงไปในบ่อทราย แล้วพยายามเอามันมาล้างในน้ำพุนี่
แต่สไลม์ดันไหลไปกับน้ำพุหมด ฉันก็เลยร้องไห้ ... นั่นมันดอกผักบุ้งนี่ !!!"
สุคุนะ : นั่นมันดอกไฮเดรนเยีย
นี่แกปัญญาอ่อนหรือเปล่าเนี่ย
ยูจิ : เออ ฉันรู้หรอกน่า แค่ปากไวไปหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ยูจิกล่าวต่อว่า ที่เมืองนี้ดอกไฮเดรนเยียจะบานสะพรั่งมากเลยหรอ?
ยูจิสังเกตเห็นดอกไม้พวกนี้หลังจากที่จะย้ายไปเซนได และสงสัยว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกดอกไม้อะไรให้แต่ละเมือง
แล้วยูจิก็ถามสุคุนะว่า สุคุนะรู้จักดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ไหม
สุคุนะ : ก็มีรู้บ้าง .. จากความทรงจำของเมงุมิ
ยูจิ : อ๋อหรอ แล้วไม่ได้แปลว่านายก็รู้จักสถานที่พวกนี้จากความทรงจำฉันหรอ ตอนอยู่ในร่างฉันน่ะ
สุคุนะ : ข้าไม่ได้มีเวลามาท่องความทรงจำอะไรแบบนี้หรอกนะ เสียเวลา
ยูจิ : อ๋อ.. เข้าใจละ
สวนนี้ค่อนข้างไกลจากบ้านฉัน แต่นายสามารถมาตก กั้ง,กุ้ง ได้ที่นี่นะ ลองดูไหม?
หรือว่าแม้แต่นักคุณไสยที่เก่งกาจที่สุดก็จับแม้กระทั่งกั้งไม่ได้
สุคุนะ : เงียบนะ!
- แล้วสุคุนะ ก็รับไม้ตกกั้งจากมือยูจิไป
- สุคุนะ และยูจิ ตกกุ้งได้คนละตัว และทั้งคู่ก็ทะเลาะกันว่าใครตกกุ้ง, กั้ง ได้ดีกว่ากัน
สุคุนะบูลลี่ว่ายูจิตกได้กุ้งตัวเล็กกว่าเขา ในขณะที่ ยูจิ ข่มกลับว่ากุ้งที่สุคุนะตกได้นั้นหาง่าย แต่ของยูจิค่อนข้างแรร์
- ทั้งคู่เดินมาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งนึงในนั้น
ยูจิ : ห้างสรรพสินค้านี้ เปิดขึ้นตอนฉันอายุ 5 ขวบ น่าเสียดายที่ร้านค้าเล็ก ๆ ต้องปิดตัวลงไปหมดเพราะห้างนี้น่ะ แต่ฉันไม่โกรธหรอกเพราะเขาสร้างโรงหนังไว้ชั้นบน โดยรวมแล้วก็เป็นเมืองสีเทา ๆ ทั่วไป ถ้าออกนอกเมืองสักหน่อยจะพบว่ามีสีเขียวมากมายเลย ไม่ต้องกังวลไป
สุคุนะ : ข้าไม่ได้กังวลอะไรตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ
- ยูจิพาสุคุนะไปที่ฟาร์มแห่งนึง และบอกสุคุนะว่า ดูสิ มันเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาเลย
ตอนเด็ก ๆ ยูจิเคยมาจับตั๊กแจนที่นี่เพื่อแข่งว่าจะจับได้มากเท่าไหร่ แต่พอผ่านไป ตั๊กแตนมันหายไปหมดเลย
ยูจิสงสัยว่าเพราะยาฆ่าแมลงหรือเปล่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยูจิ : ม้ามันยอดเยี่ยมมากเลยนะ ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งก็ยังรู้สึกว่า หัวของพวกมันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว
ปู่ฉันพามาที่ฟาร์มนี้เป็นครั้งคราว เมื่อคิดถึงตอนนั้น เขาทำทุกอย่างให้ฉันยังกับเป็นพ่อแม่จริง ๆ แหนะ
ซอฟท์เสิร์ฟที่นี่สุดยอดมาก ฉันเสียเงินไปกับการซื้อมันมากินเยอะมาก กินเยอะซะจนอ้วกแตก
สุคุนะ : นั่นเป็นตอนที่นายเริ่มปัญญาอ่อนถูกไหม ?
ยูจิ : มายิงธนูกันเถอะ!!
- สุคุนะและยูจิ มายิงธนู และสุคุนะก็ยิงธนูได้แต้มเต็มสิบตลอด
ยูจิ : น่าหมันไส้เป็นบ้า
สุคุนะ : ข้ามีประสบการณ์มากกว่าเเกโขเลย
ยูจิ : ก็ปกติแหละ (สุคุนะเกิดมาในยุคที่ยิงธนูเป็นเรื่องปกติ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ยูจิบอกสุคุนะว่า สุคุนะจะเห็นตุ๊กตาหิมะ เรียงรายถ้าที่นี่อยู่ในฤดูหนาว ยูจิสงสัยว่าจะยังมีคนปั้นมันอยู่ไหมในตอนนี้ เพราะยูจิไม่เห็นมันสักพักแล้ว ที่เซนไดหิมะไม่ตกมานานแล้ว ยูจิรู้สึกว่ามันไม่เหมือนฤดูหนาวถ้าไม่เห็นหิมะกองทับกันเยอะ ๆ ยูจิชอบกินนมอุ่นรสหวานตอนเช้าหลังจากที่ออกไปเล่นหิมะแล้วมือชา (ปู่ของยูจิชื่อ วาสุเกะ)
ยูจิ : เมื่อใกล้คริสมาสต์ จะได้ยินเสียงระฆังในตอนกลางคืนเสมอ..
สิ่งนั้นทำให้ฉันคิดเสมอว่าซานต้าครอสมีอยู่จริง แต่อันที่จริงมันแค่เสียงโซ่กระทบกับรถยนต์
สุคุนะ : พอได้แล้วมั้ง
ยูจิ : โอเค ฉันว่าน่าจะแสดงทุกอย่างที่อยากให้นายเห็นครบแล้วล่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุคุนะ : ที่แกพูดพล่ามไปเรื่อย มันน่าขยะแขยงนะ รู้ตัวไหม พูดในสิ่งที่อยากพูดสิ
ยูจิ : แกรู้ไหม... จนกระทั่งไม่นานมานี้ฉันก็ยังคิดอยู่ว่า ฉันควรมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อทำตามหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ และการตายแบบนั้นอย่างน้อยฉันก็คิดว่ามันเป็นการตายที่เหมาะสมนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องทั้งหมดเลย
เดินเล่นกับหมา เลี้ยงครอบครัว มีบทบาทแบบนั้นก็ไม่เห็นเป็นไรตราบใดที่นายยังกิน และนอนได้ แม้ว่านายจะนอนป่วยใกล้ตายอยู่บนเตียง แม้ว่าจะใช้ชีวิตโดยไม่มีอะไรเชื่อมต่อ หรือเหลือทิ้งเอาไว้ เศษเสี้ยวของความทรงจำที่ล่องลอยเหล่านี้ประกอบขึ้นมาเป็นมนุษย์และมันมีคุณค่า ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยูจิ : "มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะตายแบบไหน แต่ฉันไม่ให้อภัยคนที่ทำเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่มีอยู่จริง
นี่สุคุนะ .... ฉันเกลียดแกมากเลย
เราไม่ใช่เครื่องมือ มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำตามบทบาทอะไรที่กำหนดไว้ พื้นฐานแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าคนไหนดีคนไหนชั่ว"
บางทีฉันอาจจะผิดเองก็ได้ แค่อย่างน้อยอยากให้แกได้เห็น ความเป็นมนุษย์ของคนอื่นเขาบ้าง มองคนอื่นที่ไม่ใช่แค่มองแต่ตัวเอง
สุคุนะ : ข้าไม่รู้สึกอะไรสักอย่างเลย
ข้าเข้าใจที่แกจะสื่อนะ แต่ข้าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่ดี เหมือนที่แกเองก็รู้อยู่แก่ใจ
เหมือนที่แกเองก็รู้สึกว่าเมืองนี้มันเงียบขนาดไหนเมื่อเวลาผ่านไป แต่แล้วยังไง?
มันก็คือสิ่งที่แกคิดไว้อยู่แล้วใช่หรือเปล่า ? แล้วมันทำไมหรอ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยูจิ : แปลว่าล้มเหลวสินะ .... ก็อย่างที่คิดไว้
สุคุนะ : ถ้าให้บอกก็คือ ความขี้ขลาดของแกมันน่าทึ่งสุดยอดเลยว่ะ ความเกลียดชังข้า ที่แกมีนั้นมันจิ๊บจ้อยขนาดนั้นเลยหรอ... เห้ย! ไอ้เด็กเวร อย่าบอกนะว่าแก 'สงสาร' ข้ารึ ? แกพยายามแสดงความเห็นอกเห็นใจข้าอยู่รึ?
ยูจิ :: ... ถูกเผงเลยล่ะ...
สุคุนะ ฉันฆ่าแกได้นะ
ปล่อย ฟุชิงุโระ เมงุมิ คืนมา แล้วกลับมาอยู่ในร่างฉัน
แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก
สุคุนะ :
แกกำลังเข้าใจอะไรผิดที่ร้ายแรงมากอยู่นะโว้ย
ข้าจะไม่หยุดแค่สับร่างแกให้แหลกเป็นชิ้น ๆ
ข้าจะฆ่า ทุกชีวิตที่แกอ้างว่ามีค่ามากมายนักหนาต่อหน้าแกทุกคน
[Spoil] JUJUTSU KAISEN : 265 ในวันนั้น....
- ยูจิและสุคุนะ เดินมาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
ยูจิ : "นี่คือสวนสาธารณะที่ฉันมาบ่อยมาก
ของเล่นที่นี่เกือบจะหายไปหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันเกือบจะตายแล้วที่สะดุดเท้าตัวเองขณะเล่นชิงช้า
แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายหรอกครั้งนึงฉันเคยทำสไลม์ตกลงไปในบ่อทราย แล้วพยายามเอามันมาล้างในน้ำพุนี่
แต่สไลม์ดันไหลไปกับน้ำพุหมด ฉันก็เลยร้องไห้ ... นั่นมันดอกผักบุ้งนี่ !!!"
สุคุนะ : นั่นมันดอกไฮเดรนเยีย
นี่แกปัญญาอ่อนหรือเปล่าเนี่ย
ยูจิ : เออ ฉันรู้หรอกน่า แค่ปากไวไปหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ยูจิกล่าวต่อว่า ที่เมืองนี้ดอกไฮเดรนเยียจะบานสะพรั่งมากเลยหรอ?
ยูจิสังเกตเห็นดอกไม้พวกนี้หลังจากที่จะย้ายไปเซนได และสงสัยว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกดอกไม้อะไรให้แต่ละเมือง
แล้วยูจิก็ถามสุคุนะว่า สุคุนะรู้จักดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ไหม
สุคุนะ : ก็มีรู้บ้าง .. จากความทรงจำของเมงุมิ
ยูจิ : อ๋อหรอ แล้วไม่ได้แปลว่านายก็รู้จักสถานที่พวกนี้จากความทรงจำฉันหรอ ตอนอยู่ในร่างฉันน่ะ
สุคุนะ : ข้าไม่ได้มีเวลามาท่องความทรงจำอะไรแบบนี้หรอกนะ เสียเวลา
ยูจิ : อ๋อ.. เข้าใจละ
สวนนี้ค่อนข้างไกลจากบ้านฉัน แต่นายสามารถมาตก กั้ง,กุ้ง ได้ที่นี่นะ ลองดูไหม?
หรือว่าแม้แต่นักคุณไสยที่เก่งกาจที่สุดก็จับแม้กระทั่งกั้งไม่ได้
สุคุนะ : เงียบนะ!
- แล้วสุคุนะ ก็รับไม้ตกกั้งจากมือยูจิไป
- สุคุนะ และยูจิ ตกกุ้งได้คนละตัว และทั้งคู่ก็ทะเลาะกันว่าใครตกกุ้ง, กั้ง ได้ดีกว่ากัน
สุคุนะบูลลี่ว่ายูจิตกได้กุ้งตัวเล็กกว่าเขา ในขณะที่ ยูจิ ข่มกลับว่ากุ้งที่สุคุนะตกได้นั้นหาง่าย แต่ของยูจิค่อนข้างแรร์
- ทั้งคู่เดินมาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งนึงในนั้น
ยูจิ : ห้างสรรพสินค้านี้ เปิดขึ้นตอนฉันอายุ 5 ขวบ น่าเสียดายที่ร้านค้าเล็ก ๆ ต้องปิดตัวลงไปหมดเพราะห้างนี้น่ะ แต่ฉันไม่โกรธหรอกเพราะเขาสร้างโรงหนังไว้ชั้นบน โดยรวมแล้วก็เป็นเมืองสีเทา ๆ ทั่วไป ถ้าออกนอกเมืองสักหน่อยจะพบว่ามีสีเขียวมากมายเลย ไม่ต้องกังวลไป
สุคุนะ : ข้าไม่ได้กังวลอะไรตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ
- ยูจิพาสุคุนะไปที่ฟาร์มแห่งนึง และบอกสุคุนะว่า ดูสิ มันเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาเลย
ตอนเด็ก ๆ ยูจิเคยมาจับตั๊กแจนที่นี่เพื่อแข่งว่าจะจับได้มากเท่าไหร่ แต่พอผ่านไป ตั๊กแตนมันหายไปหมดเลย
ยูจิสงสัยว่าเพราะยาฆ่าแมลงหรือเปล่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยูจิ : ม้ามันยอดเยี่ยมมากเลยนะ ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งก็ยังรู้สึกว่า หัวของพวกมันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว
ปู่ฉันพามาที่ฟาร์มนี้เป็นครั้งคราว เมื่อคิดถึงตอนนั้น เขาทำทุกอย่างให้ฉันยังกับเป็นพ่อแม่จริง ๆ แหนะ
ซอฟท์เสิร์ฟที่นี่สุดยอดมาก ฉันเสียเงินไปกับการซื้อมันมากินเยอะมาก กินเยอะซะจนอ้วกแตก
สุคุนะ : นั่นเป็นตอนที่นายเริ่มปัญญาอ่อนถูกไหม ?
ยูจิ : มายิงธนูกันเถอะ!!
- สุคุนะและยูจิ มายิงธนู และสุคุนะก็ยิงธนูได้แต้มเต็มสิบตลอด
ยูจิ : น่าหมันไส้เป็นบ้า
สุคุนะ : ข้ามีประสบการณ์มากกว่าเเกโขเลย
ยูจิ : ก็ปกติแหละ (สุคุนะเกิดมาในยุคที่ยิงธนูเป็นเรื่องปกติ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ยูจิบอกสุคุนะว่า สุคุนะจะเห็นตุ๊กตาหิมะ เรียงรายถ้าที่นี่อยู่ในฤดูหนาว ยูจิสงสัยว่าจะยังมีคนปั้นมันอยู่ไหมในตอนนี้ เพราะยูจิไม่เห็นมันสักพักแล้ว ที่เซนไดหิมะไม่ตกมานานแล้ว ยูจิรู้สึกว่ามันไม่เหมือนฤดูหนาวถ้าไม่เห็นหิมะกองทับกันเยอะ ๆ ยูจิชอบกินนมอุ่นรสหวานตอนเช้าหลังจากที่ออกไปเล่นหิมะแล้วมือชา (ปู่ของยูจิชื่อ วาสุเกะ)
ยูจิ : เมื่อใกล้คริสมาสต์ จะได้ยินเสียงระฆังในตอนกลางคืนเสมอ..
สิ่งนั้นทำให้ฉันคิดเสมอว่าซานต้าครอสมีอยู่จริง แต่อันที่จริงมันแค่เสียงโซ่กระทบกับรถยนต์
สุคุนะ : พอได้แล้วมั้ง
ยูจิ : โอเค ฉันว่าน่าจะแสดงทุกอย่างที่อยากให้นายเห็นครบแล้วล่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุคุนะ : ที่แกพูดพล่ามไปเรื่อย มันน่าขยะแขยงนะ รู้ตัวไหม พูดในสิ่งที่อยากพูดสิ
ยูจิ : แกรู้ไหม... จนกระทั่งไม่นานมานี้ฉันก็ยังคิดอยู่ว่า ฉันควรมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อทำตามหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ และการตายแบบนั้นอย่างน้อยฉันก็คิดว่ามันเป็นการตายที่เหมาะสมนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องทั้งหมดเลย
เดินเล่นกับหมา เลี้ยงครอบครัว มีบทบาทแบบนั้นก็ไม่เห็นเป็นไรตราบใดที่นายยังกิน และนอนได้ แม้ว่านายจะนอนป่วยใกล้ตายอยู่บนเตียง แม้ว่าจะใช้ชีวิตโดยไม่มีอะไรเชื่อมต่อ หรือเหลือทิ้งเอาไว้ เศษเสี้ยวของความทรงจำที่ล่องลอยเหล่านี้ประกอบขึ้นมาเป็นมนุษย์และมันมีคุณค่า ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยูจิ : "มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะตายแบบไหน แต่ฉันไม่ให้อภัยคนที่ทำเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่มีอยู่จริง นี่สุคุนะ .... ฉันเกลียดแกมากเลย
เราไม่ใช่เครื่องมือ มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำตามบทบาทอะไรที่กำหนดไว้ พื้นฐานแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าคนไหนดีคนไหนชั่ว"
บางทีฉันอาจจะผิดเองก็ได้ แค่อย่างน้อยอยากให้แกได้เห็น ความเป็นมนุษย์ของคนอื่นเขาบ้าง มองคนอื่นที่ไม่ใช่แค่มองแต่ตัวเอง
สุคุนะ : ข้าไม่รู้สึกอะไรสักอย่างเลย
ข้าเข้าใจที่แกจะสื่อนะ แต่ข้าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่ดี เหมือนที่แกเองก็รู้อยู่แก่ใจ
เหมือนที่แกเองก็รู้สึกว่าเมืองนี้มันเงียบขนาดไหนเมื่อเวลาผ่านไป แต่แล้วยังไง?
มันก็คือสิ่งที่แกคิดไว้อยู่แล้วใช่หรือเปล่า ? แล้วมันทำไมหรอ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยูจิ : แปลว่าล้มเหลวสินะ .... ก็อย่างที่คิดไว้
สุคุนะ : ถ้าให้บอกก็คือ ความขี้ขลาดของแกมันน่าทึ่งสุดยอดเลยว่ะ ความเกลียดชังข้า ที่แกมีนั้นมันจิ๊บจ้อยขนาดนั้นเลยหรอ... เห้ย! ไอ้เด็กเวร อย่าบอกนะว่าแก 'สงสาร' ข้ารึ ? แกพยายามแสดงความเห็นอกเห็นใจข้าอยู่รึ?