ผมเข้าเรียนปวช.-ปวส.ด้วยความชอบล้วนๆครับ ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าวันหนึ่งจบมา เราก็ทำงานเหมือนคนทั่วๆไป มีเงินมาให้ตากับยายอยู่สบายพร้อมหน้าพร้อมตากัน
แต่ปัญหาเกิดตรงที่ผมมาเรียนต่อป.ตรี วิศวกรครับ และด้วยความที่ผมเรียนคำนวนไม่ค่อยเก่ง ภาษาไม่ค่อยได้ ได้แค่อ่านเขียน พอรู้ว่าคำไหนถูกผิด
ผมค่อนข้างจะเก่งไปในด้านเทคนิคหรืองานฝีมือมากกว่าครับ ถ้าเทียบกับเพื่อนๆรุ่นเดียวกันสายงานเดียวกัน ผมคิดว่าผมก็เป็นคนมีฝีมือคนหนึ่งเลย ซึ่งก็ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อนๆหรือคนที่เคยทำงานด้วยกัน ตอนปวส.ก็เคยได้โอกาสแข่งทักษะวิชาชีพระดับชาติด้วยครับ
และปัจจุบันผมก็ทำงานมาได้เกือบๆ 2 ปีครับ แต่ก็ต้องออก เนื่องจากหลายๆอย่าง ทั้งปัญหาของที่ทำงาน(ซึ่งเป็นความตั้งใจว่าจะเปลี่ยนงานอยู่แล้วครับ) และปัญหาทางครอบครัวจึงต้องย้ายที่อยู่ครับ
แต่ตอนนี้ผมตกงานมา 3-4 เดือนแล้วครับ จากที่ได้ไปสัมภาษณ์งานมา ผมเป็นคนที่พรีเซนต์ตัวเองไม่เก่งครับ แต่ก็พยายามจนพูดเก่ง พอผมพรีเซนต์ตัวเองเก่งก็มาเจอที่ๆแบบต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้อีกครับ ผมก็พยายามท่องไปได้บ้างไม่ได้บ้างครับ ไปสัมภาษณ์บางที่ขนาดผมยอมเอาเงินเดือนหมื่นห้า เขายังบอกว่าเขาเสียดายที่ผมจะมาได้เงินเดือนเท่านี้(อารมณ์แบบคนจะไม่ได้งานจริงๆอะเนาะ) ซึ่งบางที่ก็เหมือนจะได้แต่ไม่ได้
พ่อแม่น้าผมก็แนะนำให้ผมไปศึกษาภาษาอังกฤษเพิ่ม แต่ผมกลับรู้สึกว่าทำไมความพยายามของผมมันไม่มีที่สิ้นสุดสักทีครับ(สกิลภาษาผมก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้ทำงานได้ ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องสื่อสารกับต่างชาติ) ที่ผ่านมาผมก็พยายามเรียนจนจบป.ตรี(ตอนเด็กๆไม่ชอบเรียนเลยครับอยากออกเรียนตั้งแต่จบม.3 แต่ด้วยความชอบในสายที่เรียนจึงเรียนต่อ) ผมเสียอะไรไปหลายอย่างมากกว่สจะจบป.ตรี ทั้งความเป็นตัวเอง ทั้งตาของผม หมาของผม บ้านที่เป็นความทรงจำของผม ผมเหลือยายคนเดียว เพราะผมออกจากบ้านมาเรียนเลยไม่ได้อยู่ดูแลท่าน
และตอนนี้ผมไม่รู้จะเอายังไงต่อกับชีวิตแล้วครับ ไม่รู้ว่าต้องเก่งไปถึงไหน ในสายงานตัวเองผมก็พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่สิ้นสุดสักที เพื่อนที่จบมาด้วยกันยังไม่เห็นใครต้องมาดิ้นรนเท่าผมเลย บางคนไปสัมภาษณ์งานไม่เคยใช้ภาษาอังกฤษแนะนำตัวเลยด้วยซ้ำ
ผมเรียนปวช.-ปวส.ด้วยความชอบ แต่เรียนป.ตรี เพียงเพราะอยากได้เงินเดือนที่สูงกว่า และในอนาคตสามารถขึ้นเป็นระดับหัวหน้าได้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเสียดายเวลาและสิ่งที่เสียไปแล้วครับ จบมาก็ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย จากที่เคยเป็นคนอีโก้สูง ร่าเริง ตอนนี้กลายเป็นคนที่มีแต่ความเศร้า ท้อแท้ คิดลบ ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อนแล้ว(พลังที่มีใช้เรียนป.ตรีไปหมดแล้ว) คิดแค่ว่าถ้าจบแค่ปวส.ก็คงไปทำงานแบบเพื่อนคนอื่นๆที่เรียนปวส.มาด้วยกัน คงไม่มานั่งคิดมากเรื่องวุฒิเรื่องอะไรแบบนี้(จะทิ้งวุฒิก็เสียดาย)
ทุกวันนี้ไม่รู้จะไปยังไงต่อ ที่ผ่านมารู้สึกว่าฝืนตัวเองมาเยอะมาก อยากลาออกจากตัวเองทุกวันเลยครับ แต่ก็เป็นห่วงยาย(ยายรักเรามาก) ใครพอมีทางออกดีๆแนะนำหน่อยครับ ชีวิตมันยากเหลือเกิน ผมหมดหนทางแล้วจริงๆ 🥹🙏🏻
ผมไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตวัยยี่สิบต้นๆของผมต่อแล้วครับ อยากรู้ว่าคนที่ผ่านจุดนี้ไปได้ทำยังไงครับ?
แต่ปัญหาเกิดตรงที่ผมมาเรียนต่อป.ตรี วิศวกรครับ และด้วยความที่ผมเรียนคำนวนไม่ค่อยเก่ง ภาษาไม่ค่อยได้ ได้แค่อ่านเขียน พอรู้ว่าคำไหนถูกผิด
ผมค่อนข้างจะเก่งไปในด้านเทคนิคหรืองานฝีมือมากกว่าครับ ถ้าเทียบกับเพื่อนๆรุ่นเดียวกันสายงานเดียวกัน ผมคิดว่าผมก็เป็นคนมีฝีมือคนหนึ่งเลย ซึ่งก็ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อนๆหรือคนที่เคยทำงานด้วยกัน ตอนปวส.ก็เคยได้โอกาสแข่งทักษะวิชาชีพระดับชาติด้วยครับ
และปัจจุบันผมก็ทำงานมาได้เกือบๆ 2 ปีครับ แต่ก็ต้องออก เนื่องจากหลายๆอย่าง ทั้งปัญหาของที่ทำงาน(ซึ่งเป็นความตั้งใจว่าจะเปลี่ยนงานอยู่แล้วครับ) และปัญหาทางครอบครัวจึงต้องย้ายที่อยู่ครับ
แต่ตอนนี้ผมตกงานมา 3-4 เดือนแล้วครับ จากที่ได้ไปสัมภาษณ์งานมา ผมเป็นคนที่พรีเซนต์ตัวเองไม่เก่งครับ แต่ก็พยายามจนพูดเก่ง พอผมพรีเซนต์ตัวเองเก่งก็มาเจอที่ๆแบบต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้อีกครับ ผมก็พยายามท่องไปได้บ้างไม่ได้บ้างครับ ไปสัมภาษณ์บางที่ขนาดผมยอมเอาเงินเดือนหมื่นห้า เขายังบอกว่าเขาเสียดายที่ผมจะมาได้เงินเดือนเท่านี้(อารมณ์แบบคนจะไม่ได้งานจริงๆอะเนาะ) ซึ่งบางที่ก็เหมือนจะได้แต่ไม่ได้
พ่อแม่น้าผมก็แนะนำให้ผมไปศึกษาภาษาอังกฤษเพิ่ม แต่ผมกลับรู้สึกว่าทำไมความพยายามของผมมันไม่มีที่สิ้นสุดสักทีครับ(สกิลภาษาผมก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้ทำงานได้ ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องสื่อสารกับต่างชาติ) ที่ผ่านมาผมก็พยายามเรียนจนจบป.ตรี(ตอนเด็กๆไม่ชอบเรียนเลยครับอยากออกเรียนตั้งแต่จบม.3 แต่ด้วยความชอบในสายที่เรียนจึงเรียนต่อ) ผมเสียอะไรไปหลายอย่างมากกว่สจะจบป.ตรี ทั้งความเป็นตัวเอง ทั้งตาของผม หมาของผม บ้านที่เป็นความทรงจำของผม ผมเหลือยายคนเดียว เพราะผมออกจากบ้านมาเรียนเลยไม่ได้อยู่ดูแลท่าน
และตอนนี้ผมไม่รู้จะเอายังไงต่อกับชีวิตแล้วครับ ไม่รู้ว่าต้องเก่งไปถึงไหน ในสายงานตัวเองผมก็พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่สิ้นสุดสักที เพื่อนที่จบมาด้วยกันยังไม่เห็นใครต้องมาดิ้นรนเท่าผมเลย บางคนไปสัมภาษณ์งานไม่เคยใช้ภาษาอังกฤษแนะนำตัวเลยด้วยซ้ำ
ผมเรียนปวช.-ปวส.ด้วยความชอบ แต่เรียนป.ตรี เพียงเพราะอยากได้เงินเดือนที่สูงกว่า และในอนาคตสามารถขึ้นเป็นระดับหัวหน้าได้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเสียดายเวลาและสิ่งที่เสียไปแล้วครับ จบมาก็ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย จากที่เคยเป็นคนอีโก้สูง ร่าเริง ตอนนี้กลายเป็นคนที่มีแต่ความเศร้า ท้อแท้ คิดลบ ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อนแล้ว(พลังที่มีใช้เรียนป.ตรีไปหมดแล้ว) คิดแค่ว่าถ้าจบแค่ปวส.ก็คงไปทำงานแบบเพื่อนคนอื่นๆที่เรียนปวส.มาด้วยกัน คงไม่มานั่งคิดมากเรื่องวุฒิเรื่องอะไรแบบนี้(จะทิ้งวุฒิก็เสียดาย)
ทุกวันนี้ไม่รู้จะไปยังไงต่อ ที่ผ่านมารู้สึกว่าฝืนตัวเองมาเยอะมาก อยากลาออกจากตัวเองทุกวันเลยครับ แต่ก็เป็นห่วงยาย(ยายรักเรามาก) ใครพอมีทางออกดีๆแนะนำหน่อยครับ ชีวิตมันยากเหลือเกิน ผมหมดหนทางแล้วจริงๆ 🥹🙏🏻