คนรุ่นใหม่ๆ อาจจะคุ้นเคยกับ 'จักรวาล MCU' ที่มีหนังฮีโร่แต่ละตัวมาแจมกันแบบผ่านๆ บ้าง หรือมี Event ใหญ่ มารวมกันแบบจัดเต็มบ้าง แต่จักรวาลนี้เพิ่งเริ่มจริงๆ ในปี 2008 นี่เอง เมื่อ Marvel ตัดสินใจทำสตูดิโอของตัวเอง ประเดิมด้วย Ironman ก่อนที่ดิสนีย์จะเข้ามา Takeover แล้วกลายเป็นกระแสหลักในวงการภาพยนตร์ในปัจจุบัน แต่ถ้าเป็นคนรุ่นกลางๆ ไปจนรุ่นเก่าๆ หน่อย จะคุ้นเคยกับหนังฮีโร่ Marvel ที่กระจัดกระจายไปตามสตูดิโอต่างๆ เป็นอย่างดี ทั้งที่เป็นหนังโดดๆ อย่าง Blade , Daredevil , The Punisher , Ghost Rider , Fantastic 4 , Hulk และที่พยายามจะสร้างจักรวาลของตัวเองอย่าง X-Men , Spider-Man ซึ่งก็มีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว มีนักแสดงมากหน้าหลายตาหมุนเวียนเข้ามารับบท หรือบางบทก็มีนักแสดงคนเดียวผูกขาดกันยาวนานตั้งแต่เริ่มต้นจนบทส่งท้าย
ในวันที่จักรวาล MCU โตขึ้นๆ ฮีโร่หลายตัวที่เคยแตกกระสานซ่านเซ็นกระจัดกระจายไปตามสตูดิโอต่างๆ ทยอยกลับมาสู่อ้อมอกของ Marvel แต่หนึ่งในกลุ่มที่แฟนๆ การ์ตูนอยากให้กลับมาที่สุดอย่าง X-Men นั้นแทบจะเป็นเรื่องยากมาก เพราะ 20th Century Fox ทำแฟรนไชส์นี้ไม่ล้มเหลว (แม้จะมีบางภาคโดนส่ายหัวบ้าง แต่โดนรวมถึงว่ายังดี ) จึงไม่ยอมปล่อยสืทธิ์การทำหนังให้หลุดมือเหมือนสตูดิโออื่นๆ แน่
กระทั่งมีข่าวใหญ่ที่ไม่น่ามีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ คือการที่ดิสนีย์เข้าซื้อกิจการ 20th Century Fox เท่ากับได้สิทธิ์การใช้หัวหนังสือ X-Men และที่เกี่ยวข้องไปโดยปริยาย
แต่เมื่อพูดถึง 2 ตัวละครหลักในหนังอย่าง Deadpool&Wolverine ก็ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะตอนทำ X-Men ภาคแรกในปี 2000 ถือเป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ของ 20th Century Fox ซึ่งตอนแรกไม่ได้เลือก ฮิวจ์ แจ็คแมน มารับบทมิวแทนต์ที่งอกกรงเล็บจากมือได้ด้วยซ้ำ เพราะเวลานั้นแกยังเป็นนักแสดงหนุ่มที่ค่อนข้างโนเนม ก่อนที่จะเป็นอย่างที่ทราบกันว่า เมื่อหนังออกฉาย ฮิวจ์ แจ็คแมน ได้กลายเป็นภาพจำของหนังชุดนี้ ถึงกับมีหนังเดี่ยวของ Wolverine ออกมาถึง 3 ภาค โดยเฉพาะภาค 3 อย่าง Logan ในปี 2017 นี่ถือเป็นการปิดตำนานแบบยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งตอนนั้น ฮิวจ์ แจ็คแมน ตั้งใจจะอำลาบทนี้แล้ว เพราะเหนื่อยกับการต้องรักษาหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์มมาตลาดหลายปี
.
ในทางกลับกัน จุดกำเนิดของ Deadpool มาจากหนังเดี่ยวของ Wolverine ในภาคแรกเมื่อปี 2009 แถมเป็น Deadpool ที่มีสภาพไม่น่าจดจำและผิดเพี้ยนจากในหนังสือการ์ตูนไปมาอีกต่างหาก ทำให้ ไรอัน เรย์โนลด์ ที่รับบทนี้แล้วชอบในคาแรคเตอร์ยียวนกวนประสาทของมัน พยายามตื๊อให้ Fox อนุมัติงบประมาณทำหนัง Deadpool บ้าง แต่ก็ได้งบมาแบบจำกัดจำเขี่ย อย่างที่เห็นในภาคแรกที่เข้าฉายเมื่อปี 2016
แต่เพราะความกวนที่ล้อไปทั่วทั้งหนังฮีโร่ไม่ว่า Marvel หรือค่ายคู่แข่งแบบ DC หรือสถานการณ์เหตุบ้านการเมืองอะไรที่เป็นกระแสในเวลานั้นๆ ก็ทำให้ Deadpool เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ ได้เข็นภาค 2 ออกมาในปี 2018 พร้อมได้ทุนสร้างมากขึ้น คราวนี้ได้ดาราดังอย่าง จอช โบรลิน ที่เวลานั้นกำลังโดดเด่นในบทตัวร้ายของจักรวาล MCU อย่างธานอส มาร่วมแสดงด้วย ( แต่มาในอีกตัวละครหนึ่ง ก็ไม่วายถูกแซวว่าธานอสอยู่ดี )
พอมาภาคที่ 3 คราวนี้ได้งบประมาณแบบจัดเต็ม แถมข้อกังวลแบบที่หลายๆ คนกลัวกันก่อนหน้านี้ ว่าถ้า 20th Century Fox ถูกดิสนีย์ซื้อไปแล้ว โทนหนังจะถูกลดความรุนแรงและความสัปดนลงหรือเปล่า? เพราะทั้ง X-Men , Wolverine , Deadpool ได้เรตที่ไม่ใช่หนังสำหรับครอบครัวมาตลอด เอาเข้าจริงกลายเป็นว่า ใน Deadpool&Wolverine ดิสนีย์ปล่อยทีมสร้างจัดหนักจัดเต็มเรื่องคำหยาบ ฉากโหดเลือดสาด และมุขสัปดนสองแง่สองง่ามแบบไม่ต้องกั๊ก
แถมนอกจาก ฮิวจ์ แจ็คแมน จะยอมกลับมาเป็น Wolverine แล้ว ในเรื่องยังจะได้เห็นนักแสดงเป็นฮีโร่ Marvel ยุคที่สิทธิ์การทำหนังกระจัดกระจายไปอยู่ตามสตูดิโอต่างๆ ช่วงยุค 90-2000 อีกหลายคน กลับมารับบทเดิมอีกต่างหาก ( ส่วนจะมีใครบ้างไปดูกันเอง ) คือไม่รู้นะว่าคนรุ่นใหม่ๆ จะรู้สึกยังไง แต่คนที่ทันยุคหนังฮีโร่ที่นักแสดงเหล่านี้รับบทเข้าฉาย น่าจะอิ่มเอมใจไม่น้อย หรืออาจจะรู้สึกว่า นี่เราตามหนังฮีโร่พวกนี้กันมานานขนาดนี้แล้วหรือ?
ถือว่าเป็นการอำลาจักรวาล X-men ของ 20th Century Fox ไปอีก 1 ตอนนี้ก็คงเหลือแต่จักรวาล Sony ที่ดูแล้วก็คงไม่ท้อกับการรักษาสิทธิ์การสร้างหนังจากตัวละครในหัวหนังสือ Spider-Man ซึ่งก็ต้องมาดูว่า ปีนี้หนังที่เลื่อนมาหลายรอบอย่าง Kraven The Hunter ที่ได้ตัวเต็ง 007 คนล่าสุดอย่างอารอน เทย์เลอร์ จอห์นสัน จะแป้กหรือไม่ รวมถึงหนังปิดไตรภาคของ Venom ฉบับทอม ฮาร์ดี้ จะกู้หน้าจากภาค 2 ที่ถูกวิจารณ์ว่าดร็อปจากภาคแรกไปเยอะได้หรือเปล่า?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
Deadpool&Wolverine:บท(เกือบ)อำลายุคสมัยตัวละครMarvelกระจัดกระจาย(Noสปอย)
คนรุ่นใหม่ๆ อาจจะคุ้นเคยกับ 'จักรวาล MCU' ที่มีหนังฮีโร่แต่ละตัวมาแจมกันแบบผ่านๆ บ้าง หรือมี Event ใหญ่ มารวมกันแบบจัดเต็มบ้าง แต่จักรวาลนี้เพิ่งเริ่มจริงๆ ในปี 2008 นี่เอง เมื่อ Marvel ตัดสินใจทำสตูดิโอของตัวเอง ประเดิมด้วย Ironman ก่อนที่ดิสนีย์จะเข้ามา Takeover แล้วกลายเป็นกระแสหลักในวงการภาพยนตร์ในปัจจุบัน แต่ถ้าเป็นคนรุ่นกลางๆ ไปจนรุ่นเก่าๆ หน่อย จะคุ้นเคยกับหนังฮีโร่ Marvel ที่กระจัดกระจายไปตามสตูดิโอต่างๆ เป็นอย่างดี ทั้งที่เป็นหนังโดดๆ อย่าง Blade , Daredevil , The Punisher , Ghost Rider , Fantastic 4 , Hulk และที่พยายามจะสร้างจักรวาลของตัวเองอย่าง X-Men , Spider-Man ซึ่งก็มีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว มีนักแสดงมากหน้าหลายตาหมุนเวียนเข้ามารับบท หรือบางบทก็มีนักแสดงคนเดียวผูกขาดกันยาวนานตั้งแต่เริ่มต้นจนบทส่งท้าย
ในวันที่จักรวาล MCU โตขึ้นๆ ฮีโร่หลายตัวที่เคยแตกกระสานซ่านเซ็นกระจัดกระจายไปตามสตูดิโอต่างๆ ทยอยกลับมาสู่อ้อมอกของ Marvel แต่หนึ่งในกลุ่มที่แฟนๆ การ์ตูนอยากให้กลับมาที่สุดอย่าง X-Men นั้นแทบจะเป็นเรื่องยากมาก เพราะ 20th Century Fox ทำแฟรนไชส์นี้ไม่ล้มเหลว (แม้จะมีบางภาคโดนส่ายหัวบ้าง แต่โดนรวมถึงว่ายังดี ) จึงไม่ยอมปล่อยสืทธิ์การทำหนังให้หลุดมือเหมือนสตูดิโออื่นๆ แน่
กระทั่งมีข่าวใหญ่ที่ไม่น่ามีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ คือการที่ดิสนีย์เข้าซื้อกิจการ 20th Century Fox เท่ากับได้สิทธิ์การใช้หัวหนังสือ X-Men และที่เกี่ยวข้องไปโดยปริยาย
แต่เมื่อพูดถึง 2 ตัวละครหลักในหนังอย่าง Deadpool&Wolverine ก็ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะตอนทำ X-Men ภาคแรกในปี 2000 ถือเป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ของ 20th Century Fox ซึ่งตอนแรกไม่ได้เลือก ฮิวจ์ แจ็คแมน มารับบทมิวแทนต์ที่งอกกรงเล็บจากมือได้ด้วยซ้ำ เพราะเวลานั้นแกยังเป็นนักแสดงหนุ่มที่ค่อนข้างโนเนม ก่อนที่จะเป็นอย่างที่ทราบกันว่า เมื่อหนังออกฉาย ฮิวจ์ แจ็คแมน ได้กลายเป็นภาพจำของหนังชุดนี้ ถึงกับมีหนังเดี่ยวของ Wolverine ออกมาถึง 3 ภาค โดยเฉพาะภาค 3 อย่าง Logan ในปี 2017 นี่ถือเป็นการปิดตำนานแบบยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งตอนนั้น ฮิวจ์ แจ็คแมน ตั้งใจจะอำลาบทนี้แล้ว เพราะเหนื่อยกับการต้องรักษาหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์มมาตลาดหลายปี
.
ในทางกลับกัน จุดกำเนิดของ Deadpool มาจากหนังเดี่ยวของ Wolverine ในภาคแรกเมื่อปี 2009 แถมเป็น Deadpool ที่มีสภาพไม่น่าจดจำและผิดเพี้ยนจากในหนังสือการ์ตูนไปมาอีกต่างหาก ทำให้ ไรอัน เรย์โนลด์ ที่รับบทนี้แล้วชอบในคาแรคเตอร์ยียวนกวนประสาทของมัน พยายามตื๊อให้ Fox อนุมัติงบประมาณทำหนัง Deadpool บ้าง แต่ก็ได้งบมาแบบจำกัดจำเขี่ย อย่างที่เห็นในภาคแรกที่เข้าฉายเมื่อปี 2016
แต่เพราะความกวนที่ล้อไปทั่วทั้งหนังฮีโร่ไม่ว่า Marvel หรือค่ายคู่แข่งแบบ DC หรือสถานการณ์เหตุบ้านการเมืองอะไรที่เป็นกระแสในเวลานั้นๆ ก็ทำให้ Deadpool เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ ได้เข็นภาค 2 ออกมาในปี 2018 พร้อมได้ทุนสร้างมากขึ้น คราวนี้ได้ดาราดังอย่าง จอช โบรลิน ที่เวลานั้นกำลังโดดเด่นในบทตัวร้ายของจักรวาล MCU อย่างธานอส มาร่วมแสดงด้วย ( แต่มาในอีกตัวละครหนึ่ง ก็ไม่วายถูกแซวว่าธานอสอยู่ดี )
พอมาภาคที่ 3 คราวนี้ได้งบประมาณแบบจัดเต็ม แถมข้อกังวลแบบที่หลายๆ คนกลัวกันก่อนหน้านี้ ว่าถ้า 20th Century Fox ถูกดิสนีย์ซื้อไปแล้ว โทนหนังจะถูกลดความรุนแรงและความสัปดนลงหรือเปล่า? เพราะทั้ง X-Men , Wolverine , Deadpool ได้เรตที่ไม่ใช่หนังสำหรับครอบครัวมาตลอด เอาเข้าจริงกลายเป็นว่า ใน Deadpool&Wolverine ดิสนีย์ปล่อยทีมสร้างจัดหนักจัดเต็มเรื่องคำหยาบ ฉากโหดเลือดสาด และมุขสัปดนสองแง่สองง่ามแบบไม่ต้องกั๊ก
แถมนอกจาก ฮิวจ์ แจ็คแมน จะยอมกลับมาเป็น Wolverine แล้ว ในเรื่องยังจะได้เห็นนักแสดงเป็นฮีโร่ Marvel ยุคที่สิทธิ์การทำหนังกระจัดกระจายไปอยู่ตามสตูดิโอต่างๆ ช่วงยุค 90-2000 อีกหลายคน กลับมารับบทเดิมอีกต่างหาก ( ส่วนจะมีใครบ้างไปดูกันเอง ) คือไม่รู้นะว่าคนรุ่นใหม่ๆ จะรู้สึกยังไง แต่คนที่ทันยุคหนังฮีโร่ที่นักแสดงเหล่านี้รับบทเข้าฉาย น่าจะอิ่มเอมใจไม่น้อย หรืออาจจะรู้สึกว่า นี่เราตามหนังฮีโร่พวกนี้กันมานานขนาดนี้แล้วหรือ?
ถือว่าเป็นการอำลาจักรวาล X-men ของ 20th Century Fox ไปอีก 1 ตอนนี้ก็คงเหลือแต่จักรวาล Sony ที่ดูแล้วก็คงไม่ท้อกับการรักษาสิทธิ์การสร้างหนังจากตัวละครในหัวหนังสือ Spider-Man ซึ่งก็ต้องมาดูว่า ปีนี้หนังที่เลื่อนมาหลายรอบอย่าง Kraven The Hunter ที่ได้ตัวเต็ง 007 คนล่าสุดอย่างอารอน เทย์เลอร์ จอห์นสัน จะแป้กหรือไม่ รวมถึงหนังปิดไตรภาคของ Venom ฉบับทอม ฮาร์ดี้ จะกู้หน้าจากภาค 2 ที่ถูกวิจารณ์ว่าดร็อปจากภาคแรกไปเยอะได้หรือเปล่า?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )