สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าการติดเทรนด์อันดับ 1 ครั้งที่ผ่าน ๆ มามันคุ้มค่า คิดว่าทำไมลูกค้า เช่น AIS Play ไม่โดดเข้ามารับหน้าเสื่อ เผื่อไลฟ์สดล่ะ
เพราะมันแมสจากการละเมิดลิขสิทธิ์ใช่หรือไม่
ลูกค้าที่เคยถ่ายทอดสดให้สูญเสียรายได้จนไม่คุ้มทุนที่จะเข้ามาทำตรงนี้ใช่หรือไม่
แต่พวกละเมิดลิขสิทธิ์ได้หน้าฉ่ำ
เพราะมันแมสจากการละเมิดลิขสิทธิ์ใช่หรือไม่
ลูกค้าที่เคยถ่ายทอดสดให้สูญเสียรายได้จนไม่คุ้มทุนที่จะเข้ามาทำตรงนี้ใช่หรือไม่
แต่พวกละเมิดลิขสิทธิ์ได้หน้าฉ่ำ
Lucifer Voice ถูกใจ, Dancing in the rain ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 733056 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5784660 ถูกใจ, ช็อคโกเลิฟ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2124176 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 8268827 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6181384 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6132259 ถูกใจ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
การไม่มีไลฟ์กีฬาสี แล้วคิดว่าจะกระตุ้นยอดขายบัตร ผมว่า อฟช พลาดละ
ผมมีตัวอย่าง เพื่อนผมคนหนึ่ง ที่เป็นแฟนเดนตายของวงเลย ไปทุกงานตั้งแต่ยุคแรกๆ จนมาช่วงโควิด ที่ทำให้ห่างจากวงไป จากไปทุกงาน ก็ลดเหลือ80% 60% 40% จนตอนนี้ 0% ใช่ครับ มันเลิกตามวงBNK48 ไปแล้ว เพราะ มันรู้สึกว่า ก็อยู่ได้นิ ไม่ตายกับการไม่ได้ไปตามBNK48 แถมประหยัดเงินด้วย
พวกแฟนคลับที่ไม่ค่อยจ่ายเงิน หรือจ่ายน้อย รอดูแต่ไลฟ์สด อาจจะดูไม่สำคัญในสายตา อฟช แต่จริงๆ ผมว่าพวกนี้ คือมดงาน คือกระบอกเสียงในโซเชียลอย่างดีเลยนะ การปิดกั้น ไม่ให้คนพวกนี้ เข้าถึงกิจกรรมฟรีๆในบางกิจกรรม โดยเฉพาะการดูไลฟ์สด เหมือน อฟช กำลังจะเสียกระบอกเสียงเล็กๆพวกนี้ไป ซึ่งมีจำนวนเยอะซะด้วย พวกนี้ไม่จ่ายเงินก็จริง แต่มันช่วยแชร์ ช่วยทวิตให้คนเห็น ให้คนรับรู้การมีอยู่ของวงได้ ซึ่งพวกสายเปย์หนัก ไม่ค่อยทำหรอก เท่าที่สังเกต
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า นอกจากยอดขาย จะไม่กระเตื้องแล้ว งานจะกร่อยด้วย เพราะคนไปน้อย แถมในทวิต นี่อาจจะเป็นครั้งแรกของกีฬาสี ที่ผมมั่นใจเลยว่า ไม่มีทาง ติดเทรนด์อันดับ1 แบบที่เคยเป็นมาทุกกีฬาสีอย่างแน่นอน 100%