[Stray Kids] ภาพงานเปิดตัวอัลบั้ม ATE และบทสัมภาษณ์ Stray Kids เกี่ยวกับการทำงานและทิศทางของวง

.

งานแถลงข่าวมีขึ้นเช้าวันที่ 19 กรกฎานะคะ
นักข่าวได้ถ่ายภาพและสัมภาษณ์ถึงการทำงานของวงค่ะ
เราแปลบทสัมภาษณ์แบบคร่าวๆไว้ด้วย ผิดพลาดตรงไหนขออภัยนะคะ


บังชาน “เรากลับมาพร้อมอัลบั้ม ATE ในปี 2024” “เราเตรียมอะไรไว้หลายอย่างมากสำหรับมินิอัลบั้มนี้ หวังว่าทุกคนจะชอบครับ ขอกำลังใจและการต้อนรับที่อบอุ่นให้อัลบั้มใหม่นี้ด้วยนะครับ” 

จากนั้นก็มีการเปิดมิวสิควดีโอ ซึ่งมีคุณฮิวจ์และคุณไรอันปรากฎตัวในช่วงต้นเอ็มวี

 ผู้สื่อข่าวเริ่มถามคำถาม 



“โมเม้นนี้เป็นสิ่งที่พวกเราเฝ้าคอยกันมากครับ” ลีโนวกล่าว “เราสนุกกันมากช่วงเตรียมอัลบั้ม แล้วก็มั่นใจมาก ดังนั้นก็อยากจะแสดงผลงานไวๆ หวังว่าจะได้ยินทุกคนชมว่าเราเขย่าเวทีได้ด้วยการแสดงของเราครับ”


สำหรับข่าวเรื่องการต่อสัญญา นักข่าวถามว่าคิดอย่างไร มีเป้าหมายอะไรในอนาคตสำหรับการเข้าสู่ปีที่เจ็ดของการทำงาน อะไรทำให้สเตรย์คิดส์เป็นสเตรย์คิดมาได้ถึงวันนี้
 
บังชาน “เราอยากแชร์ข่าวที่น่ายินดีนี้กับสเตย์เร็วๆครับ ที่เราสามารถตัดสินใจแบบนี้ได้ก็เพราะสเตย์และและทีมงานที่บริษัทซึ่งเป็นเหมือนครอบครัวของเรา พอนึกภาพว่าพวกเรามีกันแบบนี้ก็คิดว่าเราจะสามารถเติบโตด้วยกันได้แน่ ผมเองในฐานะลีดเดอร์อยากขอบคุณทีมเพราะเราต่างเห็นตรงกันแบบใจเดียวกัน ตั้งแต่เดบิวมาผมคิดว่าสเตรย์คิดส์สามารถเขียนเรื่องราวของเราได้ดีมาก แล้วเราก็มีสิ่งที่อยากแสดงให้เห็นอีกเยอะ เราคิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ ซึ่งเราจะโชว์ผลงานให้เห็นมากขึ้นครับ”
 


 ลีโนว “ปีนี้เรามีทัวร์ ทำให้เราจะได้พบกับสเตย์ทั่วโลกครับ แล้วก็อย่างที่ทุกคนเห็นในเอ็มวีว่าครั้งนี้เรากลับมาด้วยคอนเซปต์ที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เราอยากลองแนวเพลงที่โชว์ความเป็นสเตรย์คิดส์แบบใหม่ๆดูครับ”
 
 ไอเอ็น “หัวใจที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันก็คือสเตย์ครับ เรามาไกลขนาดนี้ได้เพราะเรามีหัวใจเดียวกัน เราขอบคุณสเตย์อยู่เสมอครับ"


นักข่าว “พวกคุณประสบความสำเร็จอย่างมากในต่างประเทศ คิดว่าเหตุผลคืออะไรครับ มีอะไรที่อยากจะถ่ายทอดให้กับวงไอดอลรุ่นน้องบ้างไหม แล้วมีแผนจะออกรายการเพลงบ้างหรือเปล่า”
 
ชางบิน “ผมยังรู้สึกเหมือนฝันไปอยู่เลยกับสิ่งที่ได้พบเจอจากงานเทศกาลดนตรีที่เพิ่งผ่านไป (สเตรย์คิดส์เป็นเฮดไลเนอร์ในงานไอเดย์สมิลาโนและบริติชซัมเมอร์ไทม์ไฮด์ปาร์คในฤดูร้อนนี้ แล้วก็จะได้ไปแสดงที่งานโลลาปาลูซ่าที่ชิคาโกในเดือนสิงหาคม “ผมรู้สึกขอบคุณแฟนอินเตอร์มากที่ร้องเพลงภาษาเกาหลีไปกับเรา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันจะนับเป็นเคล็ดลับได้หรือไม่ แต่ผมรู้สึกว่าเรามั่นใจในความเป็นสเตรย์คิดส์ มั่นใจที่เราทำเพลงของเราเอง ผมอยากพัฒนาดนตรีของเราต่อไป แล้วก็คิดว่าแฟนๆคงจะชอบสิ่งที่เราทำและเห็นด้วยกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งไปครับ”


ฮยอนจิน “แทนที่จะให้คำแนะนำ ผมบอกแบบนี้ดีกว่าว่าเราแค่สนุกกับการแสดงบนเวทีก็พอ เราสนุกกันบนเวทีแล้วก็เอ็นจอยความตื่นเต้นก่อนขึ้นเวที แม้เราจะผ่านการฝึกและการซ้อมอย่างหนักหน่วง แต่ผมก็หวังว่าทุกคนจะสามารถเอ็นจอยกับความสนุกบนเวทีและกับความรักจากแฟนๆได้ ขอแค่ทุกคนไม่ลืมว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้อยากมาเป็นนักร้องในตอนแรก ผมว่าทุกคนก็จะสามารถสนุกกันต่อไปได้”


ซึงมิน “เรื่องรายการวาไรตี้เพลง ไอเอ็นไปออกรายการหน้ากากนักร้องมาแล้ว ซึ่งผมว่าเขาทำได้ดีมากครับ แล้วสมาชิกของเราครึ่งนึงก็ออกรายการนี้แล้ว ผมว่าคงมีโอกาสอีกมากที่รอเราอยู่ ถ้าเราการไหนอยากให้เราไป เราพร้อมเสมอ พี่ลีโนวเองก็ไปออกรายการชื่อ “อีมูจินเซอร์วิสมาครับ”


นักข่าว “คุณอยากโชว์อะไรให้แฟนๆได้ดูบ้างกับอัลบั้มใหม่นี้ เพราะอะไรพวกคุณถึงตัดสินใจต่อสัญญาแต่เนิ่นๆ แล้วรู้สึกยังไงบ้างกับงานเทศกาลดนตรีไฮปาร์คที่ได้เห็นแฟนต่างชาติเยอะขึ้นเรื่อยๆ”
 
ฮัน “สิ่งที่เราอยากเน้นย้ำในอัลบั้มใหม่นี้คือ อยากโชว์ให้เห็นตัวตนของสเตรย์คิดส์ด้านที่แฟนยังไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ผ่านมาเราแสดงด้านที่แข็งแกร่งทรงพลังให้สเตย์และคนทั่วไปได้เห็น แต่กับอัลบั้ม “ATE” และเพลงไตเติลอย่าง “ชิคชิคบูม” มันจะมีความสุขุมกว่าแต่ก็ยังสนุกและมีเสน่ห์เหมือนเดิม แล้วเราก็พยายามขยายแนวเพลงที่ทำด้วยการทำเพลงในอัลบั้มให้แตกต่างกัน ทุกคนจะได้เห็นคอนเซปต์ใหม่ของเราผ่านอัลบั้มใหม่นี้ครับ หวังจริงๆว่าทุกคนจะรอคอยงานของเรานะครับ”



บังชาน “อย่างที่ฮันบอกครับ เราอยากจะลองแสดงด้านใหม่ของสเตรย์คิดส์ แล้วชื่ออัลบั้ม “ATE” ก็เป็นชื่อที่พวกเราเลือกเอง แปลตรงตัวก็คือเราจะ “กิน” เวที หมายความว่าเราจะเขย่าเวทีให้สะเทือนครับ”




ฟีลิกซ์ “ไม่นานนี้เราได้ไปงานเทศกาลดนตรีที่ต่างประเทศมาครับ ยังรู้สึกยากที่จะเชื่อจริงๆว่าเราจะได้แสดงบนเวทีที่ใหญ่ต่อหน้าสเตย์ต่างชาติแบบนั้น มันเหมือนฝัน เราประหม่ากันมาก แต่ก็มีความสุขกันมาก เรารู้สึกซาบซึงมากที่มีสเตย์หลายคนเดินทางมาเจอเรา ตอนนี้เราก็กำลังพยายามอย่างที่สุดที่จะโชว์ผลงานทางดนตรีและการแสดงในหลากหลายรูปแบบครับ”


นักข่าว “มีเนื้อเพลงที่เขียนว่า ‘กินชัยชนะมาเยอะเกินไปแล้ว แต่ก็ยังหิวกระหายอยากกินอีก’ จากเนื้อเพลงนี้ ทางวงคงแนวคิดนี้ไว้ได้ยังไง แนวคิดที่มีมาตั้งแต่ตอนเริ่มวง แล้วเรื่องไรอันกับฮิวจ์ การคอลแลบเกิดขึ้นได้อย่างไร”
 
ชางบิน “ทุกคนดูจะมองผมนะพอได้ยินคำว่าหิว (555) แต่เราไม่ได้พูดถึงการหิวแบบนั้นครับ ในเนื้อเพลงเราบอกว่าเราอิ่มแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็ยังหิวมาก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเดินหน้าต่อไป พาร์ทที่ทำให้เรารู้สึกหิวคือตอนที่เราได้ไปเทศกาลดนตรีแล้วมีความสุขกันมาก แต่ความสุขนั้นก็ทำเรารู้สึกว่าเรายังต้องการเพิ่มอีก เราจะไม่มีวันอิ่มต่อความรักและแรงสนับสนุนจากแฟน ตอนนี้เราก็กำลังตั้งตารอเวิร์ลทัวร์อยู่ครับ”



“เรื่องการรักษาแนวคิด มันอยู่ที่การเป็นทีมเดียวกันนะผมว่า เราแต่ละคนมีความทะเยอทะยานขอตัวเอง แต่เราอยากเป็นทีมเดียวกัน ซึ่งการที่เราพยายามเล่นไปตามบทบาทที่ได้รับภายในทีมก็ช่วยให้เรารักษาแนวคิดแรกไว้ได้ แล้วการที่แฟนๆ ชอบที่เห็นเราพยายามทำทุกอย่างเป็นทีม ก็ทำให้เรายิ่งมั่นใจในการตัดสินใจของเรามากขึ้นไปอีก”



บังชาน “ส่วนเรื่องฮิวจ์ แจ๊คแมนกับไรอัน เรย์โนลด์ส เรื่องนี้ก็เหมือนความฝันมากครับ แต่ความเป็นมาของเรากับไรอันฮยองมันนานกว่านั้นมาก ไรฮันฮยองเมนชั่นเราตอนที่แสดงสเตจคิงดอมแล้วก็พูดคุยผ่านโซเชียลมีเดียมาตลอด จากนั้นก็หาเวลาให้เราได้มีโอกาสร่วมงานกัน ดังนั้นต่อให้งานเขายุ่ง เราก็ยังสามารถคอลแลบกันได้ ผมรู้สึกอยากขอบคุณเขามากครับ ไรอันฮยอง ขอบคุณนะครับ”


 นักข่าวถามว่าทางวงติดต่อไรอันกับฮิวจ์ก่อนหรือเปล่า
 
บังชาน “ครับ ตอนนั้นเราไปนิวยอร์ก ก็เลยได้เจอกัน” 
 
นักข่าว “ตอนท้ายของเอ็มวีถ่ายทำเมื่อไหร่คะ”
 
บังชาน “ที่จริงฉากนั้นถ่ายวันแรกเลยครับ”
 
ซึงมิน “แค่ดูซีนที่ถ่ายก็เห็นเลยว่าเราถ่ายด้วยกัน แต่ก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีครับว่าเราจะได้เจอกันจริงๆ มันเหมือนภาพตัดต่อนะทั้งที่ความจริงเราอยู่ในห้องเดียวกันเลย”
 



นักข่าว “เนื้อเพลงของสเตรย์คิดส์มีเอกลักษณ์มาก แล้วก็มีเนื้อเพลงภาษาละตินด้วย ทางวงโฟกัสจุดไหนมากที่สุด / หลังเดบิวมาเจ็ดปี ชีวิตทุกคนคงเต็มไปด้วยสเตรย์คิดส์ ถ้าอย่างนั้นคำว่าสเตรย์คิดส์สำหรับเมมเบอร์แต่ละคนมีความหมายว่าอะไรบ้าง / แล้วอัลบั้มนี้มีรสชาติเป็นแบบไหน”

ชางบิน “เราตั้งใจมากที่จะเขียนให้เนื้อเพลงฟังดูสนุก พยายามจะคิดวลีที่น่าสนใจแล้วก็มีหลากหลายความหมาย แต่สำหรับเพลงไตเติล เราเน้นไปที่การออกเสียงครับ แม้จะแร็พเป็นภาษาเกาหลี แต่บางคำเราก็พยายามออกเสียงให้ฟังดูเป็นละติน มีการใช้ภาษาสเปนด้วย นับเป็นความท้าทายที่สเตรย์คิดส์ยังไม่เคยลองมาก่อนเลยสำหรับแนวใหม่นี้ ดังนั้นเราโฟกันเรื่องเนื้อเพลงกันมากครับ”


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่