สวัสดีค่ะ มีเรื่องเล่า และสงสัยมาหลายปีมากๆ
พอดีนั่งฟังเรื่องผีอยู่ แล้วนึกถึงเรื่องตัวเองตอนเด็กๆ
ตอนเด็กๆ เด็กมาก วัยปั่นจักรยานเป็นแกงค์เที่ยวรอบหมู่บ้าน ประมาณนั้น
เข้าเรื่องเลยนะคะ แม่เราขายกับข้าว ซึ่งเรามีพี่สาว แกต้องไปส่งกับข้าวให้แม่ ช่วง6โมงเย็นให้คนในหมู่บ้าน ด้วยความที่เราเป็นเด็กติดพี่ เลยไปยืมจักรยานคนแถวบ้านปั่นตามหาพี่รอบหมู่บ้าน จะมีช่วงนึงที่ต้องจูงจักรยานขึ้นเนิน ระหว่างจูง ก็ก้มมองพื้นไปด้วย แต่ได้ยินเสียงท้องร้องิร้องแบบลากยาวๆ เราคิดว่าเสัยงท้องเรา เลยก้มมองท้อง แต่เสียงไม่ได้มาจากท้องเรา เลยเดินจูงรถไปต่อ ละเสียงครั้งที่สองก็ดังขึ้นมาอีก มั่นใจว่าไม่ใช่ท้องตัวเองแล้ว เลยหันไปมองหาต้นตอเสียง ข้างถนน จะมีต้นชาเหลือง (ไม่แน่ใจว่าที่อื่นเรียกต้นอะไรนะคะ) ที่คนมักชอบปลูกเป็นรั้ว ซึ่งเราเห็นเป็นคนนั่งยองๆกอดกระดูกอยู่ใต้ต้นชาเหลือง หน้าเละมากๆ กระดูกใหญ่พอๆกะกระดูกขาวัวตัวใหญ่เลยค่ะ ละเสียงท้องร้อง ก็มาจากปากของสิ่งนั้น ในหัวคือคิดว่าคนแกล้ง ใส่หน้ากากผีมาหลอก แต่ในความเป็นเด็ก กลัวมากๆ เลยรีบจูงจักรยานวิ่งขึ้นเนิน ระหว่างวิ่ง ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งลัดต้นชาเหลือง ไวมากๆ เลยหันไปมอง เห็นสิ่งนั้นอีกที คือไปนั่งท่าเดิมอยู่ข้างหน้าแล้ว แต่ยังไม่ทันได้จูงรถผ่ารมัน ก็เห็นพระบิณฑบาต 3รูป อุ้มบาตรเดินมา ในใจคิดว่า ผีต้องไปแล้วแน่ๆ เพราะผีกลัวพระ เลยเปลี่ยนจากวิ่ง เป็นเดินจูงเหมือนเดิม แต่หอบมากๆ หายใจแทบไม่ทัน หันไปมองพระอีกที พระหายไปแล้ว เลยคิดว่า ท่านคงเดินเข้าซอยไป 
หลังจากมาเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่า พระที่ไหน บิณฑบาตรตอนเย็น ท่านคงมาช่วยเรา
แต่ที่สงสัยคือ ผีจริงมั้ย ทำไมมันเวอร์มากๆ หน้าที่เละ กระดูกที่ใหญ่ และภาพที่เห็นชัดมากๆ แต่..ถ้าคนจริงๆ ทำไมต้องมีพระมาช่วย 
ใครช่วยบอกได้บ้างคะ ว่าเจอะไรมา ขอบคุณนะคะ