สัญญาเเรงงานฉบับใหม่เพิ่งมีผลบังคับใช้เต็มรูปเเบบทําให้มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปในฤดูกาลนี้
1. ทีมเงินถังใช้เงินเเก้ปัญหาไม่ได้เเล้ว
สะพานกับ Clippers ที่เคยเปย์ค่าจ้างเเละจ่ายภาษีไม่อั้นเริ่มระวังตัวเรื่องรายจ่ายมากขึ้นเพราะกลัวบทลงโทษถ้าใช้เงินเกิน apron เส้นที่ 2 ทําให้เสีย Klay Thompson กับ Paul George ที่อยู่กับทีมมานานไป
2. ตลาด free agency วายเร็วมาก
ใครที่หาทีมไม่ได้ในวันเเรกๆ ต้องทําใจเพราะเเคปเต็มเร็วมาก หลายทีมมีผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยเรท Rose’s rule เเละ Supermax ที่กินเเคป 30-35% เลยจ่ายได้เเค่ขั้นตํ่าหรือไม่กี่ล้าน
ใครที่ไม่ใช่สตาร์อย่าโลภมากเพราะอาจลาภหายเหมือน Gary Trent Jr., Caleb Martin เเละอีกหลายคน ในขณะที่ Malik Monk คิดถูกเเล้วที่อยู่ Kings ต่อ
3. การได้ค่าเหนื่อยเรท Mid-Level Exception ทําได้ยากขึ้น
ทีมที่มีสิทธิ์ใช้ full MLE $12.8 ล้านเลือกที่จะไม่ใช้เพราะกลัวโดน hardcap หรือใช้เเค่บางส่วนโดยเลือกเก็บส่วนที่เหลือไว้รอจ้างคนกลางฤดูกาลเเทน
De’Anthony Melton เป็นคนเดียวที่ได้เรทนี้เเบบเต็มจํานวนจากสะพาน
4. Sign-and-trade กลายเป็นเรื่องปกติ
สมัยก่อนการทํา sign-and-trade เกิดขึ้นไม่บ่อยเเต่ปีล่าสุดมีมากกว่าเเต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดเพราะเเต่ละทีมมีเเคปอัตคัดไม่พอจ้างตัวดีๆ หรือไม่อยากเสียผู้เล่นที่เพิ่งหมดสัญญาไปฟรีๆ
การเทรดเเบบ 2 ทีมทําได้ยากเพราะมีความต้องการไม่ตรงกันเลยต้องดึงหลายทีมเข้ามาเทรดด้วยเช่นดีล sign-and-trade ของ Klay มี 6 ทีมที่ร่วมวงเทรด ทุกฝ่ายได้ของติดไม้ติดมือกลับไป
5. ไม่มีการเเอบจีบก่อนตลาดเปิดอีกต่อไป
เมื่อก่อนทีมกับเอเยนต์เเอบตกลงกันล่วงหน้าทําให้พอตลาดเปิดวินาทีเเรกมีการประกาศดีลทันทีเเต่ลีกเริ่มเข้มงวดขู่ว่าจะยึดสิทธิ์ดราฟต์หรือปรับเงินเเพงทําให้ทีมต่างๆ เริ่มขยาดไม่กล้า gun-jumping หรือ tampering อีก
คนเเรกที่ย้ายทีมปีนี้คือ Andre Drummond ที่เกิดขึ้นหลังตลาดเปิด 1 ชั่วโมง กว่าจะประกาศเเต่ละดีลก็ช้ากว่าเมื่อก่อนมาก
Credit: Yahoo Sports
🏀 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปใน NBA
1. ทีมเงินถังใช้เงินเเก้ปัญหาไม่ได้เเล้ว
สะพานกับ Clippers ที่เคยเปย์ค่าจ้างเเละจ่ายภาษีไม่อั้นเริ่มระวังตัวเรื่องรายจ่ายมากขึ้นเพราะกลัวบทลงโทษถ้าใช้เงินเกิน apron เส้นที่ 2 ทําให้เสีย Klay Thompson กับ Paul George ที่อยู่กับทีมมานานไป
2. ตลาด free agency วายเร็วมาก
ใครที่หาทีมไม่ได้ในวันเเรกๆ ต้องทําใจเพราะเเคปเต็มเร็วมาก หลายทีมมีผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยเรท Rose’s rule เเละ Supermax ที่กินเเคป 30-35% เลยจ่ายได้เเค่ขั้นตํ่าหรือไม่กี่ล้าน
ใครที่ไม่ใช่สตาร์อย่าโลภมากเพราะอาจลาภหายเหมือน Gary Trent Jr., Caleb Martin เเละอีกหลายคน ในขณะที่ Malik Monk คิดถูกเเล้วที่อยู่ Kings ต่อ
3. การได้ค่าเหนื่อยเรท Mid-Level Exception ทําได้ยากขึ้น
ทีมที่มีสิทธิ์ใช้ full MLE $12.8 ล้านเลือกที่จะไม่ใช้เพราะกลัวโดน hardcap หรือใช้เเค่บางส่วนโดยเลือกเก็บส่วนที่เหลือไว้รอจ้างคนกลางฤดูกาลเเทน
De’Anthony Melton เป็นคนเดียวที่ได้เรทนี้เเบบเต็มจํานวนจากสะพาน
4. Sign-and-trade กลายเป็นเรื่องปกติ
สมัยก่อนการทํา sign-and-trade เกิดขึ้นไม่บ่อยเเต่ปีล่าสุดมีมากกว่าเเต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดเพราะเเต่ละทีมมีเเคปอัตคัดไม่พอจ้างตัวดีๆ หรือไม่อยากเสียผู้เล่นที่เพิ่งหมดสัญญาไปฟรีๆ
การเทรดเเบบ 2 ทีมทําได้ยากเพราะมีความต้องการไม่ตรงกันเลยต้องดึงหลายทีมเข้ามาเทรดด้วยเช่นดีล sign-and-trade ของ Klay มี 6 ทีมที่ร่วมวงเทรด ทุกฝ่ายได้ของติดไม้ติดมือกลับไป
5. ไม่มีการเเอบจีบก่อนตลาดเปิดอีกต่อไป
เมื่อก่อนทีมกับเอเยนต์เเอบตกลงกันล่วงหน้าทําให้พอตลาดเปิดวินาทีเเรกมีการประกาศดีลทันทีเเต่ลีกเริ่มเข้มงวดขู่ว่าจะยึดสิทธิ์ดราฟต์หรือปรับเงินเเพงทําให้ทีมต่างๆ เริ่มขยาดไม่กล้า gun-jumping หรือ tampering อีก
คนเเรกที่ย้ายทีมปีนี้คือ Andre Drummond ที่เกิดขึ้นหลังตลาดเปิด 1 ชั่วโมง กว่าจะประกาศเเต่ละดีลก็ช้ากว่าเมื่อก่อนมาก
Credit: Yahoo Sports