ที่บ้านเป็นครอบครัวที่ดูเหมือนอบอุ่นค่ะ
มีพี่น้อง พ่อทำงาน แม่เป็นแม่บ้าน ครอบครัวปรึกษากันรักกันดี
ปัญหาคือที่บ้านใช้เงินเกินตัว
พอลูกใกล้เรียนจบไม่มีภาระพ่ออยากซื้อบ้านใหม่
แล้วเริ่มผ่อนบ้านใหม่ตอนกำลังจะเกษียณตัวเองอยู่แล้ว
แล้วตอนนี้ก็เป็นปัญหาคาราคาซัง ที่พ่อจัดการไม่ได้ แม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
กลายเป็นเครียดกันไปหมด เราอออกมาอยู่เองนานแล้ว
กลับบ้านบ้างแต่ไม่ได้ช่วยผ่อนอะไรมีแค่ให้เงินรายเดือนกับแม่
ซึ่งบ้านหลังนี้ตอนนี้มีแค่พี่เราอยู่คนเดียว แม่อยู่บ้านอีกหลัง
พ่ออยู่อีกที่ ในขณะที่พี่เรามาอยู่เพราะพ่อและแม่กลัวไม่มีคนอยู่บ้าน
เรางงมากถ้าไม่มีคนอยู่ จะเก็บไว้เป็นภาระทำไม
พอบอกถ้าผ่อนไม่ไหวให้ขายก็ไม่อยากขายเพราะขายไม่ได้ราคา
ถ้าอยากขายออกก้อาจจะแค่ปิดหนี้ธนาคารไม่กำไร จะเก็บไว้
ทำให้แต่ละเดือนๆเงินที่จะใช้กับตัวเองก็ไม่เหลือ ต้องมาดูแลบ้าน
เงินกินใช้ก็มาจากเงินเก่ากับเงินที่ลูกให้
จริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เขาใจว่ามีทางแก้
แค่รู้สึกว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาเลยยกมาพูด
ปัญหาที่ทำให้เหนื่อยคือทุกครั้ง(แทบทุกวัน)ที่ได้โทรหาพ่อหรือแม่หรือแม้แต่คุยกัน
ทุกคนจะดูห่อเหี่ยว เครียด กังวลใจ เหมือนชีวิตไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
แล้วก็ไม่ทำอะไรด้วย แล้วบางทีพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันเองตลอดเวลา เรื่องนี้เป็นตั้งแต่เราเกิด
ต่อด้วยการตัดพ้อว่าทำไมลูกไม่ช่วยผ่อนบ้าน
ทำไมไม่มีเงินเยอะๆส่งให้
ทำไมไม่มีหน้าที่การงานดีๆแบบลูกบ้านอื่น
กลายเป็นที่ต้องเครียดแบบนี้เพราะเป็นลูกที่ไม่ดีพอ
บางทีก็โทษตัวเอง พอเราฟังเราก็เครียดว่าเรามีชีวิตดีๆ
แต่ทำไมไม่ช่วยพอแม่
คือชีวิตเราโอเคนะคะถ้าตัดเรื่องนี้ออก
แต่ไม่ได้ว่ามีเงินเหลือกินเหลือใช้
ต้องผ่อนบ้านตัวเองที่อยู่กับสามี
เคยบอกวิธีแก้ให้เขาแล้วว่าบ้านหลังใหญ่
อยู่ด้วยกันสิประหยัดขึ้นค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องแยกจ่าย
ก็ไม่อยากอยู่ด้วยกัน แล้วก็วกมาตัดพ้อต่อ
เราทำอะไรได้อีกบ้างคะ เหมือนตอนนี้วิธีช่วยเขาได้มีแค่ต้องมีเงินเยอะๆ
มาปิดบ้านต่อด้วยเงินเลี้ยงดู
เราเหนื่อยที่ต้องเหมือนรับพลังงานลบจากครอบครัวตัวเองตลอดเวลา
พาลทำให้เราไม่มีความสุขในชีวิต
จะตัดทำเป็นไม่สนใจก็ไม่ได้แต่จะช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้อีก
เหมือนชักกะเย่อไปเรื่อยๆ
มีวิธีไหนช่วยได้บ้างมั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
ปัญหาทางบ้าน เหนื่อยใจจนบางทีอยากหายไปเลย
มีพี่น้อง พ่อทำงาน แม่เป็นแม่บ้าน ครอบครัวปรึกษากันรักกันดี
ปัญหาคือที่บ้านใช้เงินเกินตัว
พอลูกใกล้เรียนจบไม่มีภาระพ่ออยากซื้อบ้านใหม่
แล้วเริ่มผ่อนบ้านใหม่ตอนกำลังจะเกษียณตัวเองอยู่แล้ว
แล้วตอนนี้ก็เป็นปัญหาคาราคาซัง ที่พ่อจัดการไม่ได้ แม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
กลายเป็นเครียดกันไปหมด เราอออกมาอยู่เองนานแล้ว
กลับบ้านบ้างแต่ไม่ได้ช่วยผ่อนอะไรมีแค่ให้เงินรายเดือนกับแม่
ซึ่งบ้านหลังนี้ตอนนี้มีแค่พี่เราอยู่คนเดียว แม่อยู่บ้านอีกหลัง
พ่ออยู่อีกที่ ในขณะที่พี่เรามาอยู่เพราะพ่อและแม่กลัวไม่มีคนอยู่บ้าน
เรางงมากถ้าไม่มีคนอยู่ จะเก็บไว้เป็นภาระทำไม
พอบอกถ้าผ่อนไม่ไหวให้ขายก็ไม่อยากขายเพราะขายไม่ได้ราคา
ถ้าอยากขายออกก้อาจจะแค่ปิดหนี้ธนาคารไม่กำไร จะเก็บไว้
ทำให้แต่ละเดือนๆเงินที่จะใช้กับตัวเองก็ไม่เหลือ ต้องมาดูแลบ้าน
เงินกินใช้ก็มาจากเงินเก่ากับเงินที่ลูกให้
จริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เขาใจว่ามีทางแก้
แค่รู้สึกว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาเลยยกมาพูด
ปัญหาที่ทำให้เหนื่อยคือทุกครั้ง(แทบทุกวัน)ที่ได้โทรหาพ่อหรือแม่หรือแม้แต่คุยกัน
ทุกคนจะดูห่อเหี่ยว เครียด กังวลใจ เหมือนชีวิตไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
แล้วก็ไม่ทำอะไรด้วย แล้วบางทีพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันเองตลอดเวลา เรื่องนี้เป็นตั้งแต่เราเกิด
ต่อด้วยการตัดพ้อว่าทำไมลูกไม่ช่วยผ่อนบ้าน
ทำไมไม่มีเงินเยอะๆส่งให้
ทำไมไม่มีหน้าที่การงานดีๆแบบลูกบ้านอื่น
กลายเป็นที่ต้องเครียดแบบนี้เพราะเป็นลูกที่ไม่ดีพอ
บางทีก็โทษตัวเอง พอเราฟังเราก็เครียดว่าเรามีชีวิตดีๆ
แต่ทำไมไม่ช่วยพอแม่
คือชีวิตเราโอเคนะคะถ้าตัดเรื่องนี้ออก
แต่ไม่ได้ว่ามีเงินเหลือกินเหลือใช้
ต้องผ่อนบ้านตัวเองที่อยู่กับสามี
เคยบอกวิธีแก้ให้เขาแล้วว่าบ้านหลังใหญ่
อยู่ด้วยกันสิประหยัดขึ้นค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องแยกจ่าย
ก็ไม่อยากอยู่ด้วยกัน แล้วก็วกมาตัดพ้อต่อ
เราทำอะไรได้อีกบ้างคะ เหมือนตอนนี้วิธีช่วยเขาได้มีแค่ต้องมีเงินเยอะๆ
มาปิดบ้านต่อด้วยเงินเลี้ยงดู
เราเหนื่อยที่ต้องเหมือนรับพลังงานลบจากครอบครัวตัวเองตลอดเวลา
พาลทำให้เราไม่มีความสุขในชีวิต
จะตัดทำเป็นไม่สนใจก็ไม่ได้แต่จะช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้อีก
เหมือนชักกะเย่อไปเรื่อยๆ
มีวิธีไหนช่วยได้บ้างมั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ