สำนักงานสลากฯ เตรียมทดสอบขายสลาก N3 เริ่มซื้องวดแรก 2 ต.ค.นี้ ในราคาใบละ 20 บาท ลุ้นถูก 4 รางวัล ขายในรูปแบบดิจิทัล ผ่านจุดจำหน่าย 300 แห่งทั่วประเทศ
วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก พ.ศ. ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 จึงได้มีมติให้ดำเนินการออกสลากตัวเลขสามหลัก ในงวดแรกวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยจะเริ่มจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปได้ตั้งแต่ 2 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการจำหน่ายสลากตัวเลขสามหลักมีประสิทธิภาพและความพร้อมก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว คณะกรรมการสลากฯ จึงได้เห็นชอบแผนการดำเนินการ (โรดแมป) จากนี้ออกเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย
ระยะที่ 1 การเตรียมความพร้อม ทั้งในส่วนของการพัฒนาระบบการจำหน่าย ราคาจำหน่าย วิธีการจำหน่าย ตลอดจนกระบวนการที่เกี่ยวข้อง โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบในรายละเอียด ภายในเดือนกันยายน 2567
ระยะที่ 2 ทดสอบการจำหน่ายจริงในระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 เป็นเวลา 6 เดือน โดยจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากฯ, จุดจำหน่าย 300 จุดทั่วประเทศ, ตัวแทนจำหน่าย พร้อมการประเมินผลการทดสอบ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมกรรมการสลากฯ เห็นชอบ
ระยะที่ 3 การสรรหาตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีรายละเอียดขั้นตอนในการพิจารณา, หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแทน และการทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบเช่นเดียวกัน และระยะที่ 4 เสนอที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบกำหนดวันเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์ในการออกสลากตัวเลขสามหลัก เพราะต้องการแก้ไขสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก หรือ L6 แบบใบ ซึ่งยังพบปัญหาการจำหน่ายเกินราคา ขณะเดียวกัน ยังเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้จำหน่ายสลากไม่ต้องมีความเสี่ยงในการรับสลากไปแล้วจำหน่ายไม่หมด สามารถขายได้ทุกหมายเลข ผลที่เกิดขึ้นคือจะช่วยลดปัญหาหวยใต้ดิน ดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น
สำหรับสลากตัวเลขสามหลัก กำหนดราคาไว้ที่รายการละ 20 บาท ผู้ซื้อสามารถซื้อได้ทุกหมายเลขตั้งแต่ 000-999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการซื้อ สำหรับวิธีการจำหน่าย จะเป็นรูปแบบดิจิทัล กำหนดสัดส่วนยอดจำหน่าย 60% เป็นเงินรางวัล, ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร โดยกำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ใช้วิธีอ้างอิงผลรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัล สามตรง มาจาก เลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลสองตรง มาจากผลการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว
การซื้อทุก ๆ 1 รายการจะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข มีโอกาสรับรางวัล 4 ประเภทรางวัลคือ รางวัลสามตรง, รางวัลสามสลับหลัก, รางวัลสองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะสุ่มหมายเลขรางวัลพิเศษจากสลากที่ถูกรางวัลสามตรง โดยจะจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และหากในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัลจะสมทบเงินรางวัลในงวดถัดไป แต่หากงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัล เงินรางวัลดังกล่าวจะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/finance/news-1607198
สำนักงานสลากฯ เริ่มทดสอบขาย สลาก N3 ใบละ 20 บาท งวดแรก 2 ต.ค.นี้.
วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก พ.ศ. ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 จึงได้มีมติให้ดำเนินการออกสลากตัวเลขสามหลัก ในงวดแรกวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยจะเริ่มจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปได้ตั้งแต่ 2 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการจำหน่ายสลากตัวเลขสามหลักมีประสิทธิภาพและความพร้อมก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว คณะกรรมการสลากฯ จึงได้เห็นชอบแผนการดำเนินการ (โรดแมป) จากนี้ออกเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย
ระยะที่ 1 การเตรียมความพร้อม ทั้งในส่วนของการพัฒนาระบบการจำหน่าย ราคาจำหน่าย วิธีการจำหน่าย ตลอดจนกระบวนการที่เกี่ยวข้อง โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบในรายละเอียด ภายในเดือนกันยายน 2567
ระยะที่ 2 ทดสอบการจำหน่ายจริงในระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 เป็นเวลา 6 เดือน โดยจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากฯ, จุดจำหน่าย 300 จุดทั่วประเทศ, ตัวแทนจำหน่าย พร้อมการประเมินผลการทดสอบ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมกรรมการสลากฯ เห็นชอบ
ระยะที่ 3 การสรรหาตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีรายละเอียดขั้นตอนในการพิจารณา, หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแทน และการทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบเช่นเดียวกัน และระยะที่ 4 เสนอที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบกำหนดวันเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์ในการออกสลากตัวเลขสามหลัก เพราะต้องการแก้ไขสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก หรือ L6 แบบใบ ซึ่งยังพบปัญหาการจำหน่ายเกินราคา ขณะเดียวกัน ยังเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้จำหน่ายสลากไม่ต้องมีความเสี่ยงในการรับสลากไปแล้วจำหน่ายไม่หมด สามารถขายได้ทุกหมายเลข ผลที่เกิดขึ้นคือจะช่วยลดปัญหาหวยใต้ดิน ดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น
สำหรับสลากตัวเลขสามหลัก กำหนดราคาไว้ที่รายการละ 20 บาท ผู้ซื้อสามารถซื้อได้ทุกหมายเลขตั้งแต่ 000-999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการซื้อ สำหรับวิธีการจำหน่าย จะเป็นรูปแบบดิจิทัล กำหนดสัดส่วนยอดจำหน่าย 60% เป็นเงินรางวัล, ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร โดยกำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ใช้วิธีอ้างอิงผลรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัล สามตรง มาจาก เลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลสองตรง มาจากผลการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว
การซื้อทุก ๆ 1 รายการจะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข มีโอกาสรับรางวัล 4 ประเภทรางวัลคือ รางวัลสามตรง, รางวัลสามสลับหลัก, รางวัลสองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะสุ่มหมายเลขรางวัลพิเศษจากสลากที่ถูกรางวัลสามตรง โดยจะจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และหากในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัลจะสมทบเงินรางวัลในงวดถัดไป แต่หากงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัล เงินรางวัลดังกล่าวจะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1607198