โมบายแบงกิ้ง ลุยฟีเจอร์ “ปลอดมิจฉาชีพ” กันภัยดูดเงิน มี 2 ธนาคาร

แต่ตอนนี้ คนร้ายให้โอนเองผ่านธนาคารหรือตามร้านสะดวกซื้อ อมยิ้ม07อมยิ้ม06

ภัยการเงินทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ล้ำหน้าขึ้นทุกวัน และในทุก ๆ วันยังคงมีเหยื่อภัยการเงิน มีคนถูกดูดเงินช และเหล่ามิจฉาชีพเอง มีกลวิธีในการหลอกล่อเหยื่อที่ล้ำลึกขึ้น

ภาคสถาบันการเงินก็ต้องปรับตัว คิดหาวิธีการเพื่อรับมือภัยการเงินที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้า ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของแบงก์ชาติ ที่กำหนดให้ทุกธนาคาร มีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลให้ลูกค้าใช้บริการดิจิทัลได้ปลอดภัยขึ้น

แล้วตอนนี้ธนาคารไหนมีฟีเจอร์ป้องกันมิจฉาชีพให้บริการ และช่วยป้องกันได้อย่างไร

ออมสิน อัพเกรด “MyMo” ปลอดมิจฉาชีพ
ธนาคารออมสิน เพิ่งเปิดตัว “MyMo Secure Plus” เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย MyMo Secure Plus เป็นโหมดภายในโมบายแบงกิ้ง “MyMo” ที่จำกัดการใช้งานบางฟีเจอร์ จำกัดวงเงินทำธุรกรรม เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ ปลอดภัยจากภัยการเงินมากขึ้น

หากเทียบกับฟีเจอร์ใน MyMo ปกติ จะเห็นได้ว่า ถูกจำกัดฟีเจอร์พอสมควร เช่น การโอนเงิน ก็กำหนดให้โอนได้เฉพาะบัญชีที่เป็นชื่อของตัวเองเท่านั้น และกำหนดวงเงินให้สมารถทำธุรกรรมได้ต่ำกว่า MyMo โหมดปกติ หรือการถอนเงินไม่ใช้บัตร ทำรายการได้เพียงแค่วันละ 5,000 บาทเท่านั้น จากโหมดปกติที่ถอนได้สูงสุด วันละ 50,000 บาท
แต่การชำระบิล ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสินเชื่อ เติมเงิน Easy Pass ซื้อสลากออมสิน ยังทำได้เหมือนแอป MyMo แบบปกติ

ส่วนการเปิดฟีเจอร์ MyMo Secure Plus ทำได้เองผ่านแอป MyMo กดที่รูปโล่ห์มุมขวาบนหลัง Login เข้าระบบแล้ว และทำตามขั้นตอนได้ หรือจะติดต่อที่สาขาธนาคารก็ได้เช่นกัน แต่หากต้องการกลับไปใช้ MyMo แบบเต็มฟังก์ชั่นเหมือนเดิม ต้องติดต่อที่สาขาธนาคารเท่านั้น

แบงก์กรุงเทพ ส่ง “ล็อกบัญชี” ป้องกันดูดเงิน
อีกธนาคารหนึ่งที่มีฟีเจอร์เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ คือ ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีฟีเจอร์ “ล็อกบัญชี” ในโมบายแบงกิ้ง โดยสามารถเลือกล็อกบัญชีเงินฝากที่มีในโมบายแบงกิ้งชั่วคราว ป้องกันการถูกดูดเงินออกจากบัญชี ป้องกันการโอน/เติม/จ่ายผ่านโมบายแบงกิ้งได้
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการป้องกันธุรกรรมแปลก ๆ หรือคนที่อยากเก็บเงิน ออมเงิน แล้วอยากให้โอนเงินยาก ทำธุรกรรมผ่านแอปยาก ๆ หน่อย จะได้มีแรงใจในการเก็บ คล้ายการเก็บเงินไว้ในตู้เซฟ

โดยการล็อกบัญชี จะทำให้การโอนเงิน การเติมเงิน การจ่ายบิล การสแกนเพื่อจ่ายผ่านแอป การถอนเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้เอทีเอ็ม ทำไม่ได้ แต่ธุรกรรมอื่น ๆ ฝากเงินเข้าบัญชี รับเงินเข้าบัญชี เช็กสเตตเมนต์ หรือถอนเงินที่สาขา ถอนเงินที่ตู้ด้วยบัตรเดบิต ยังทำได้เหมือนเดิม

วิธีการใช้งาน สามารถล็อกและปลดล็อกได้เองผ่านโมบายแบงกิ้ง ส่วนการปลดล็อก เพียงแค่สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน ใครที่ยังไม่เคยสแกนใบหน้ากับธนาคาร อย่าลืมไปสแกนหน้าที่สาขาก่อนใช้งาน เดี๋ยวจะปลดล็อกบัญชีไม่ได้

แบงก์อื่น มาเมื่อไร ?
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ มีแค่ 2 ธนาคารนี้เองเหรอ แล้วธนาคารอื่น ๆ ล่ะ จะมีเมื่อไร
ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน 2 กลุ่ม คือ ยกระดับการจัดการบัญชีม้า และเพิ่มบริการเพื่อทำธุรกรรมปลอดภัยขึ้น โดยการเพิ่มบริการ มีตั้งแต่การล็อกบัญชีสำหรับการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การปรับวงเงิน หรือบริการแบบอื่น ๆ เช่น การโอนเงินแบบ Double Authorization มีคนช่วยอนุมัติรายการอีกชั้นหนึ่ง หรือการโอนเงินเฉพาะรายชื่อที่กำหนด
แบงก์ชาติระบุว่า จะเริ่มเห็นบริการเหล่านี้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ และบริการดังกล่าวที่ว่ามานี้ เป็นเพียงทางเลือกให้แก่ประชาชนที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ไม่ได้ทำให้ประชาชนทุกคนที่ไม่ใช่บัญชีม้า โอนเงินยากขึ้นกว่าเดิม

แม้ธนาคารจะปรับตัว หาวิธีการเพื่อรับมือมิจฉาชีพ รับมือภัยการเงิน แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ สติและความรอบคอบ อย่าคลิกถ้าลิงก์ไหนไม่ชัวร์ และหมั่นเช็กรายการธุรกรรม ถ้ารายการไหนต้องสงสัย รีบเอ๊ะ แล้วแจ้งธนาคาร จะได้จัดการปัญหาได้ทัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1606661


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่