เมื่อรถที่ซื้อมาใช้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด บริหารจัดการความรู้สึกและปรับตัวกันอย่างไร?

ประเทศไทยรถแพงครับ

การจะซื้อรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์คันนึง บางคนต้องใช้เงินเก็บเกือบทั้งชีวิต
พอซื้อแล้วก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนคันกันง่ายๆ 

หลายคนใช้เวลาพิจารณาอยู่นาน ไปลองขับtest driveกันมาหลายรอบ กว่าจะลงเอยควักเงิน
จริงอยู่ว่าการ test drive ทำให้เราพอทราบบุคคลิกพื้นฐานของรถยนต์ว่าเข้ากับตัวเราหรือไม่
แต่นั่นมันก็แค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความทนของวัสดุ , defects , ศูนย์บริการ&ความชำนาญของช่าง
เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์

เมื่อเราตัดสินใจควักเงินจ่ายไปแล้ว และพบว่า รถที่เราเลือกไป ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด

เราจะบริหารจัดการความรู้สึก , ปรับตัว , และอยู่กับรถที่เราเลือกอย่างไร?

///

โดยส่วนตัว นึกถึงตอนซื้อ MU-X 2017 เครื่อง1.9 ไปลองขับระยะสั้นๆแล้วตัดสินใจซื้อ
พอรับรถมาใช้จริงๆ รถอืดมาก มากจนแบบหงุดหงิด นึกโทษตัวเองว่าตอนtest driveไม่ได้ขอขับไกลๆ
ทั้งยังเรื่องเบาะรถที่นั่งขับทางไกลแล้วเมื่อยมากๆ สุดท้ายก็ทนใช้จนผ่อนหมดรีบขายอย่างไว ไม่อาลัยอาวรณ์เลย

แต่ประสบการณ์ที่ดีกว่าที่คิดก็มี เช่น volvo xc60 T8 ตัวนี้เคยไปเช่าขับที่นอร์เวย์แล้วติดใจ ประกอบกับเงินถึงพอที่จะซื้อเลยจัดไป
ตัวรถประหยัดพลังงานกว่าที่คิด ตอนเช่าขับไม่ได่ชาร์จไฟเลย พอมาใช้เองชาร์จไฟเต็มตลอด วิ่งจากบ้านไปสยามจนกลับบ้าน ไฟฟ้าล้วนๆ
อันนี้คือ ดีกว่าที่คาดจริงๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่