ต้องบอกก่อนเลยค่ะว่า น้องเป็นแมวจรหลงมาที่บ้าน ตอนที่รับเลี้ยง ก็ได้พาไปตรวจร่างกาย น้องเป็นใส้เลื่อน เป็นเอดส์แมว และเป็นปอดอักเสบแบบเรื้อรัง ซึ่งเราก็รักษาใส้เลื่อนน้อง จนหายเป็นปกติ และเรื่องปอดอักเสบ น้องจะมีอาการอย่างเดียวเลยค่ะ คือหอบ ซึ่งกินยา น้องก็หยุดหอบ ไม่กินก็กลับมาหอบ รักษาไปประมาณ 3 ปี ก็ไม่พาไปหาหมออีก เพราะคิดเอาเองว่า ถ้าหอบค่อยกินยาแล้วกัน(ค่ารักษาแพงมาก ด้วยที่เราเงินเดือนไม่ได้เยอะในสมัยนั้น เฉลี่ยอาทิตย์ละพัน) โดยที่เราไม่รู้เลยว่า ยาที่กินเป็นสเตียรอยด์ ที่จะมีผลกับไตอย่างมากในอนาคต
ให้กินแบบนี้ค่ะ ประมาณ 3-4 ปี จนน้องเริ่มมีอายุเยอะละค่ะ จนถึงตอนนี้ อายุน่าจะซัก 9 ขวบได้แล้ว ก็เลยให้ตรวจเลือดซักครั้ง (หลังทำวัคซีนประจำปี) พบว่า ค่าไตน้องขึ้นเป็น 2.4 คุณหมอบอกจริงๆยังไม่เกินเกณฑ์ แต่อยู่ขอบบนเลย ขอให้ตรวจค่า sdma พบว่าสูง หมอบอกถ้าไม่ปรับอาหาร อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน และต้องหยุดสเตียลอยด์ถาวร ปกติกินปลาต้มไม่เกลือ กุ้งต้ม อาหารเม็ดมีโอรสแซลมอน แมวเลีย
เราได้ปรับอาหารค่ะ royal canin renal select แต่ด้วยความที่มันแพงมากกกกก และน้องไม่ชอบ เลยผสมตัวมีโอเดิมนิดหน่อย และ มีโอสูตรซีเนียรสปลาทู น้องยอมกินบ้าง แต่ส่วนมากจะขอปลาต้มมากกว่า เรื่องหอบก็เป็นพ่นยาขยายหลอดลมบ้าง ถ้าหอบเยอะ อีกปีนึง ไปตรวจเลือดประจำปี ปรากฎ ค่าไตลง 1.4 sdma ปกติ ไชโยยยยย คุณหมอบอก หายแล้ว แต่ควรดูแลเรื่องการกินต่อไปเรื่อย
หลังจากนั้นก็ยังคงกินแบบนี้เรื่อยๆ แต่ก็ไปหาอาหารแบบอื่นๆ ที่โซเดียมต่ำ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ศึกษาอะไรเลย รู้แค่เรื่องโซเดียมต่ำเท่านั้น จึงได้นำอาหารชนิดนึง เป็นระดับ holistic grain free มาผสมกับ royal canin (เพื่อนๆบอกอร่อย เกรดดี น้องชอบ) ก็ไปเอามาผสมเลยจ้าาา ปรากฎอีกปีไปตรวจ ค่าไตพุ่งเป็น 2.8 อึ้งเลย คุณหมอให้มาให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังทุกวัน เป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้ค่าไตลง ซึ่งเราก็รีบศึกษาเลยค่ะ ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง จนรู้ว่า โรคไต ไม่ได้คุมแค่โซเดียมเท่านั้น แต่ยังต้องคุมเรื่องโปรตีน ฟอสฟอรัสด้วย ซึ่งอาหาร holistic เป็น high protien!!!!!
ต้องเปลี่ยนอาหารกันใหม่ เป็น royal canin ล้วนๆ ให้ทานปลาน้ำจืดต้มได้บ้าง ให้อกไก่นิดเดียวแค่พอหายอยาก ผ่านไป 7 วัน ไปตรวจ ค่าไตลงเป็น 2.5 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี คุณหมอปรับการให้น้ำเกลือเป็น อาทิตย์ละ 2 วัน ซึ่งในระหว่างที่ปรับการให้น้ำเกลือ น้องดูซึมๆ โทรคุยกับคุณหมอ เลยให้ปรับมาเป็น ให้1 ครั้ง เว้น 2 วัน อีก 1 เดือนมาตรวจ ค่าไตดีดเป็น 3.4
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
แชร์ประสบการณ์เลี้ยงแมวที่ป่วยเป็นโรคไต ปอด เอดส์แมว
ให้กินแบบนี้ค่ะ ประมาณ 3-4 ปี จนน้องเริ่มมีอายุเยอะละค่ะ จนถึงตอนนี้ อายุน่าจะซัก 9 ขวบได้แล้ว ก็เลยให้ตรวจเลือดซักครั้ง (หลังทำวัคซีนประจำปี) พบว่า ค่าไตน้องขึ้นเป็น 2.4 คุณหมอบอกจริงๆยังไม่เกินเกณฑ์ แต่อยู่ขอบบนเลย ขอให้ตรวจค่า sdma พบว่าสูง หมอบอกถ้าไม่ปรับอาหาร อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน และต้องหยุดสเตียลอยด์ถาวร ปกติกินปลาต้มไม่เกลือ กุ้งต้ม อาหารเม็ดมีโอรสแซลมอน แมวเลีย
เราได้ปรับอาหารค่ะ royal canin renal select แต่ด้วยความที่มันแพงมากกกกก และน้องไม่ชอบ เลยผสมตัวมีโอเดิมนิดหน่อย และ มีโอสูตรซีเนียรสปลาทู น้องยอมกินบ้าง แต่ส่วนมากจะขอปลาต้มมากกว่า เรื่องหอบก็เป็นพ่นยาขยายหลอดลมบ้าง ถ้าหอบเยอะ อีกปีนึง ไปตรวจเลือดประจำปี ปรากฎ ค่าไตลง 1.4 sdma ปกติ ไชโยยยยย คุณหมอบอก หายแล้ว แต่ควรดูแลเรื่องการกินต่อไปเรื่อย
หลังจากนั้นก็ยังคงกินแบบนี้เรื่อยๆ แต่ก็ไปหาอาหารแบบอื่นๆ ที่โซเดียมต่ำ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ศึกษาอะไรเลย รู้แค่เรื่องโซเดียมต่ำเท่านั้น จึงได้นำอาหารชนิดนึง เป็นระดับ holistic grain free มาผสมกับ royal canin (เพื่อนๆบอกอร่อย เกรดดี น้องชอบ) ก็ไปเอามาผสมเลยจ้าาา ปรากฎอีกปีไปตรวจ ค่าไตพุ่งเป็น 2.8 อึ้งเลย คุณหมอให้มาให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังทุกวัน เป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้ค่าไตลง ซึ่งเราก็รีบศึกษาเลยค่ะ ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง จนรู้ว่า โรคไต ไม่ได้คุมแค่โซเดียมเท่านั้น แต่ยังต้องคุมเรื่องโปรตีน ฟอสฟอรัสด้วย ซึ่งอาหาร holistic เป็น high protien!!!!!
ต้องเปลี่ยนอาหารกันใหม่ เป็น royal canin ล้วนๆ ให้ทานปลาน้ำจืดต้มได้บ้าง ให้อกไก่นิดเดียวแค่พอหายอยาก ผ่านไป 7 วัน ไปตรวจ ค่าไตลงเป็น 2.5 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี คุณหมอปรับการให้น้ำเกลือเป็น อาทิตย์ละ 2 วัน ซึ่งในระหว่างที่ปรับการให้น้ำเกลือ น้องดูซึมๆ โทรคุยกับคุณหมอ เลยให้ปรับมาเป็น ให้1 ครั้ง เว้น 2 วัน อีก 1 เดือนมาตรวจ ค่าไตดีดเป็น 3.4
เดี๋ยวมาต่อค่ะ