ปลานิล ต่างจากปลาทับทิมอย่างไร
ปลานิล หรือปลานิลจิตรลดา ปลาน้ำจืดวงศ์เดียวกับปลาหมอสี แต่ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย
จุดเริ่มต้น
พ.ศ. 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ถวายปลานิลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) จำนวน 50 ตัว
โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในสวนจิตรลดา
พ.ศ. 2509 พระราชทานพันธุ์ปลานิล 10,000 ตัว ให้กรมประมง นำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร
คุณสมบัติ
เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารได้ทุกชนิด
มีขนาดลำตัวใหญ่
ขยายพันธุ์ง่าย ผสมพันธุ์ได้ตลอดปี
รสชาติดี ให้โปรตีนสูง
ราคาไม่แพง
ปัจจุบัน
ปลานิลจิตรลดา เป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างงานให้คนไทยนับล้าน
เป็นที่นิยมในครัวไทยแทบทุกบ้าน
สำหรับปลานิลนั้นสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่นทอด ผัดฉ่า ลุยสวน นึ่ง ราดพริก
ปลาทับทิม ไม่ใช่ปลาตามธรรมชาติ แต่เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์จากปลานิลโดยภาคเอกชน คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีเอฟ)
เมนูอาหารอร่อยๆ จากปลาน่าจะเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน อาหารที่ทำจากปลานิล หรือปลาทับทิม ก็เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหลายๆ เมนู แต่เนื่องจากบางครั้งเวลาเราสั่งอาหาร ทางร้านก็จะถามว่าจะเลือกเป็นปลานิล หรือปลาทับทิม ตอนนั้นเราก็จะรู้สึกงงว่าปลานิล และปลาทับทิมนั้นต่างกันอย่างไร เพราะปลาสองชนิดนี้หน้าตาคล้ายกัน เราจึงอยากให้ทุกคนรู้จักปลาทั้งสองชนิดว่าต่างกันอย่างไร ปลาชนิดไหนอร่อยกว่า
ปลานิล ต่างจากปลาทับทิมอย่างไร
ปลานิล หรือปลานิลจิตรลดา ปลาน้ำจืดวงศ์เดียวกับปลาหมอสี แต่ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย
จุดเริ่มต้น
พ.ศ. 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ถวายปลานิลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) จำนวน 50 ตัว
โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในสวนจิตรลดา
พ.ศ. 2509 พระราชทานพันธุ์ปลานิล 10,000 ตัว ให้กรมประมง นำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร
คุณสมบัติ
เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารได้ทุกชนิด
มีขนาดลำตัวใหญ่
ขยายพันธุ์ง่าย ผสมพันธุ์ได้ตลอดปี
รสชาติดี ให้โปรตีนสูง
ราคาไม่แพง
ปัจจุบัน
ปลานิลจิตรลดา เป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างงานให้คนไทยนับล้าน
เป็นที่นิยมในครัวไทยแทบทุกบ้าน
สำหรับปลานิลนั้นสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่นทอด ผัดฉ่า ลุยสวน นึ่ง ราดพริก
ปลาทับทิม ไม่ใช่ปลาตามธรรมชาติ แต่เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์จากปลานิลโดยภาคเอกชน คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีเอฟ)
จุดเด่น
พัฒนาสายพันธุ์ตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9
พัฒนาแบบธรรมชาติ ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม
ปรับปรุงคุณภาพ ความต้านทานโรค ลักษณะเนื้อ และรสชาติ
มีสีเกล็ดและตัวปลาสีแดงอมชมพู
เลี้ยงได้ดีในน้ำที่มีความเค็ม หรือน้ำกร่อย
ผลลัพธ์
ปลาทับทิมกลายเป็นปลาเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่
เป็นที่นิยมในตลาด
สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย
เนื้อปลานิล ต่างจากปลาทับทิมอย่างไร
เนื้อปลานิล
เนื้อแน่น ไม่เละ
รสชาติดี
กลิ่นคาวมากกว่า
ปลานิลนิยมนำมาเผา หรือทอด
เนื้อปลาทับทิม
เนื้อนุ่มละเอียด
เนื้อมีรสหวานกว่า
มีกลิ่นคาวน้อยกว่า
ก้างน้อยกว่า
ปลาทับทิมนิยมเผา ทอด นึ่ง
สำหรับคำถามที่ว่าเนื้อปลาชนิดไหนอร่อยกว่า คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน
ปลานิล" กับ "ปลาทับทิม" ต่างกันอย่างไร ปลาชนิดไหนอร่อยกว่า
ปลานิล หรือปลานิลจิตรลดา ปลาน้ำจืดวงศ์เดียวกับปลาหมอสี แต่ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย
จุดเริ่มต้น
พ.ศ. 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ถวายปลานิลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) จำนวน 50 ตัว
โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในสวนจิตรลดา
พ.ศ. 2509 พระราชทานพันธุ์ปลานิล 10,000 ตัว ให้กรมประมง นำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร
คุณสมบัติ
เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารได้ทุกชนิด
มีขนาดลำตัวใหญ่
ขยายพันธุ์ง่าย ผสมพันธุ์ได้ตลอดปี
รสชาติดี ให้โปรตีนสูง
ราคาไม่แพง
ปัจจุบัน
ปลานิลจิตรลดา เป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างงานให้คนไทยนับล้าน
เป็นที่นิยมในครัวไทยแทบทุกบ้าน
สำหรับปลานิลนั้นสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่นทอด ผัดฉ่า ลุยสวน นึ่ง ราดพริก
ปลาทับทิม ไม่ใช่ปลาตามธรรมชาติ แต่เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์จากปลานิลโดยภาคเอกชน คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีเอฟ)
เมนูอาหารอร่อยๆ จากปลาน่าจะเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน อาหารที่ทำจากปลานิล หรือปลาทับทิม ก็เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหลายๆ เมนู แต่เนื่องจากบางครั้งเวลาเราสั่งอาหาร ทางร้านก็จะถามว่าจะเลือกเป็นปลานิล หรือปลาทับทิม ตอนนั้นเราก็จะรู้สึกงงว่าปลานิล และปลาทับทิมนั้นต่างกันอย่างไร เพราะปลาสองชนิดนี้หน้าตาคล้ายกัน เราจึงอยากให้ทุกคนรู้จักปลาทั้งสองชนิดว่าต่างกันอย่างไร ปลาชนิดไหนอร่อยกว่า
ปลานิล ต่างจากปลาทับทิมอย่างไร
ปลานิล หรือปลานิลจิตรลดา ปลาน้ำจืดวงศ์เดียวกับปลาหมอสี แต่ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย
จุดเริ่มต้น
พ.ศ. 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ถวายปลานิลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) จำนวน 50 ตัว
โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในสวนจิตรลดา
พ.ศ. 2509 พระราชทานพันธุ์ปลานิล 10,000 ตัว ให้กรมประมง นำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร
คุณสมบัติ
เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารได้ทุกชนิด
มีขนาดลำตัวใหญ่
ขยายพันธุ์ง่าย ผสมพันธุ์ได้ตลอดปี
รสชาติดี ให้โปรตีนสูง
ราคาไม่แพง
ปัจจุบัน
ปลานิลจิตรลดา เป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างงานให้คนไทยนับล้าน
เป็นที่นิยมในครัวไทยแทบทุกบ้าน
สำหรับปลานิลนั้นสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่นทอด ผัดฉ่า ลุยสวน นึ่ง ราดพริก
ปลาทับทิม ไม่ใช่ปลาตามธรรมชาติ แต่เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์จากปลานิลโดยภาคเอกชน คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีเอฟ)
จุดเด่น
พัฒนาสายพันธุ์ตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9
พัฒนาแบบธรรมชาติ ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม
ปรับปรุงคุณภาพ ความต้านทานโรค ลักษณะเนื้อ และรสชาติ
มีสีเกล็ดและตัวปลาสีแดงอมชมพู
เลี้ยงได้ดีในน้ำที่มีความเค็ม หรือน้ำกร่อย
ผลลัพธ์
ปลาทับทิมกลายเป็นปลาเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่
เป็นที่นิยมในตลาด
สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย
เนื้อปลานิล ต่างจากปลาทับทิมอย่างไร
เนื้อปลานิล
เนื้อแน่น ไม่เละ
รสชาติดี
กลิ่นคาวมากกว่า
ปลานิลนิยมนำมาเผา หรือทอด
เนื้อปลาทับทิม
เนื้อนุ่มละเอียด
เนื้อมีรสหวานกว่า
มีกลิ่นคาวน้อยกว่า
ก้างน้อยกว่า
ปลาทับทิมนิยมเผา ทอด นึ่ง
สำหรับคำถามที่ว่าเนื้อปลาชนิดไหนอร่อยกว่า คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน