โรม ลง ‘กมลา’ ภูเก็ต หลังน้ำท่วมหนัก กำชับส.ส.ภูเก็ต เยียวยา-วางแผนสกัดท่วมซ้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4668110
โรม ลง ‘กมลา’ ภูเก็ต หลังน้ำท่วมหนัก กำชับ ส.ส.ภูเก็ต เยียวยา-วางแผนสกัดท่วมซ้ำ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นาย
เฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล นาย
ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และคณะ ลงพื้นที่ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ที่ประสบเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ต้องดูแล 2-3 ส่วน โดยส่วนแรก ต้องดูแลเรื่องการเยียวยาที่ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งทาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 รับจะประสานงานต่อ ส่วนที่ 2 การวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก แน่นอนว่าโครงการขุดลอกคูคลองต่างๆ คงจะช่วยได้ แต่จะทั้งหมดหรือไม่จะต้องวางแผนกันทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
และส่วนที่ 3 ทีแรกตั้งใจจะมาดูเรื่องภัยพิบัติต่างๆ แต่เมื่อดูพื้นที่แล้วเห็นศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งสิ่งที่ไม่สามารถบันทึกได้ในวิดีโอ คือ ความรู้สึกของคนที่มายืนอยู่ตรงนี้ บรรยากาศดีมาก ทำให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ว่ามีศักยภาพในการท่องเที่ยว อาจจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ชาวบ้านและภูเก็ตจะได้ประโยชน์
“
บรรยากาศสวยงาม แน่นอนอาจเหมือนซากปรักหักพัง เป็นหินถล่มลงมา แต่ถ้ามีการจัดการดีๆ บริเวณนี้ยังเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก คิดว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม อากาศดี บรรยากาศดี ระยะยาวเป็นสิ่งที่ต้องวางแผนต่อไป ทาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 คงมีโครงการที่จะผลักดัน” นาย
รังสิมันต์กล่าว
ด้านนาย
เฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ และประชุมร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ทราบว่าในวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ทางจังหวัดภูเก็ตได้ให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดินภูเก็ตมาทำการรังวัดที่ดิน เพื่อเขียนโครงการเขื่อนกั้นน้ำ และปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
“ชัชชาติ” ตามต่อไฟไหม้เยาวราช ขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยประชาชน-ทำหน้าที่อย่างดี
https://www.thairath.co.th/news/politic/2798843
“ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ติดตามเหตุไฟไหม้เยาวราช ชุมชนตรอกโพธิ์ ให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน พร้อมตั้งกองอำนวยการเร่งเยียวยาเต็มที่ ปลัด กทม. เผย มีผู้ประสบภัยรวม 44 หลังคาเรือน 166 ราย
วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อเวลา 21.39 น. ของคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2567
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่เกิดเหตุก็ได้ลงพื้นที่ทันที ตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืน ขณะนี้พบว่าชุมชนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นอาคารเช่า 2 ชั้น อยู่ล้อมรอบด้วยตึกแถว มีทางเข้า-ออกยากและจำกัด เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการดับเพลิง เนื่องจากเป็นชุมชนพื้นที่คับแคบ ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาเช่าอาศัย อีกส่วนคือตึกที่ไฟลามไปด้านหน้า และโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ที่ตั้งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ตัวตึกไม่ได้รับความเสียหาย แต่ควันจากเพลิงไหม้ลอยเข้าไปในโรงพยาบาลจึงต้องทำการย้ายผู้ป่วยผู้สูงอายุ จำนวน 26 ราย ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
สำหรับในเช้านี้ ได้ย้ายผู้ป่วยทั้ง 26 ราย กลับเข้าโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นต้องรีบเยียวยา และสั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้ประสบภัย เพื่อจะจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นให้ประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้ติดค้างหรือผู้สูญหายจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้ตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ถนนทรงสวัสดิ์
จากนั้น นาย
ชัชชาติ ลงพื้นที่ไปยังจุดบริการอาหารสำหรับผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ โดยสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้จัดข้าวกล่องมาประมาณ 200 ชุด แจกจ่ายให้ประชาชนผู้ที่ประสบภัย และมีถุงยังชีพจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสำหรับผู้ใหญ่ 160 ชุด ของเด็กอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อต้องการเป็นกำลังใจให้ทุกคน เจ้าหน้าที่ก็รู้หน้าที่อยู่แล้ว ตนไม่ได้ไปสั่งการอะไร ต้องขอบคุณทีมงานที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
ต่อมาเวลา 10.30 น. พญ.
วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช โดยมี พลเรือเอก
คณีพล สงเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน นาย
วัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมผู้บริหารสำนักพัฒนาสังคม ผู้บริหารเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้วิเคราะห์สถานการณ์ในภาพรวมเพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและรับบริจาคสิ่งของ ณ วัดสัมพันธวงศ์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักอนามัย สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชนอยู่ในพื้นที่ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีผู้ประสบภัยรวม 44 หลังคาเรือน 166 ราย ได้รับผลกระทบสภาพบ้านพังได้รับความเสียหาย ขณะนี้ พม. อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม และประชุมเพื่อสรุปผลการช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนทางตำรวจกำลังเร่งสืบสวนถึงสาเหตุเพลิงไหม้ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ อยู่ระหว่างลงทะเบียนผู้ประสบภัยเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งครัวพระราชทาน และเปิดรับริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภคและบริโภค ณ ศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณวัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งขณะนี้ กทม. กำลังจัดระเบียบของบริจาคและเตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในเบื้องต้นอยู่ระหว่างแยกที่พักเป็นหญิง ชาย และครอบครัวให้เป็นสัดส่วน อีกทั้งเร่งจัดหาพัดลมเพิ่มเติม โดยมีศูนย์สาธารณสุข 13 มาช่วยเรื่องการรักษาพยาบาล ขณะนี้ทาง กทม. กำลังประเมินถึงความเพียงพอของห้องน้ำและสุขา โดยเตรียมพร้อมจะจัดหาสุขาเคลื่อนที่มาเสริม ในกรณีที่ห้องสุขาของวัดสัมพันธวงศ์ไม่เพียงพอด้วย
ในช่วงท้าย ปลัดกรุงเทพมหานคร เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มากที่สุด โดยคำนึงถึงว่าทุกคนคือผู้ประสบภัย ส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของ เครื่องอุปโภคและบริโภค สามารถนำสิ่งของมาบริจาคได้ที่จุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ถนนทรงสวัสดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามรายละเอียดได้ที่
เฟซบุ๊กสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ หรือโทร. 080-535-1929 โดยของดรับบริจาคเสื้อผ้า เนื่องจากมีหน่วยงานบริจาคให้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว
ทองพุ่งแรง-บาทละครึ่งแสน
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_742678/
แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับราคาทองคำที่ปรับขึ้นอีก 200 บาทต่อบาททองคำในเช้าวันเสาร์ที่ 6 กรกฏาคม 2567 หลังราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งใกล้ทะลุ 2,400 เหรียญฯ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานกำลังชะลอตัว ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้
ล่าสุด ทองคำแท่งรับซื้อ 41,000 บาท ขายออก 41,100 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 40,264.96 บาท ขายออก 41,600 บาท ขณะที่ภาพรวมราคาทองในประเทศ ห้วง 6 วันแรกของเดือนกรกฏาคม 2567 ปรับขึ้นแล้ว 600 บาทจากเดือนก่อน และตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ราคาทองปรับขึ้น 7,450 บาท โดยราคาทองสูงสุดอยู่ที่ 42,000 บาท ต่ำสุด 33,400 บาท ซึ่งในเดือนมีนาคม ยังคงเป็นเดือนที่ราคาทองปรับขึ้นมากที่สุด 3,950 บาท
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “
น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุกอีกครั้ง ถึงแนวโน้มราคาทองคำว่ามีโอกาสหรือไม่ ที่ราคาทองในประเทศจะขึ้นไปแตะ 45,000 บาท และ 50,000 บาทตามลำดับ โดย “
น.พ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ในระยะยาวมีโอกาสได้เห็น
“
42,500 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งต้องถือเป็นไฮเดิม อันนี้เป้าหมายแรก ถ้าสามารถเบรกไฮเดิมขึ้นมาได้ โอกาสที่จะเห็น 45,000 และ 50,000 ตามลำดับ น่าจะมี แต่ว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีธันวาคมโน้นเลย คงจะไม่เร็ว”
และเมื่อถามถึงกลยุทธ์การลงทุนในทองคำช่วงจังหวะเวลานี้ ต้องวางแผนอย่างไร “น.พ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ให้จับตาที่ประเด็นธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด เพราะการลดดอกเบี้ยจะทำให้ราคาทองปรับขึ้น
“
ในระยะกลางกับระยะยาวมองว่า ราคาทองคำเป็นขาขึ้น ในระยะสั้นอาจจะค่อยๆสะสมพลังแล้วก็จบ จบในที่นี้หมายความว่าจบการสะสมพลังแล้วก็พร้อมที่จะดีดขึ้น เพราะว่าเหตุผลหลักก็คือการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งถ้าเฟดลดดอกเบี้ย ยังไงทองก็ต้องขึ้น ดังนั้นก็แนะนำนักลงทุนให้กระจายการลงทุนมาที่ทองคำให้มากขึ้นหรือสะสมให้มากขึ้น”
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย ได้ออกบทวิเคราะห์ ทองคำ..สินทรัพย์ที่ต้องมีจริง หรือแค่ตามกระแส โดยระบุว่า จากรายงานทองคำของ World Gold Council เดือน ก.พ. 2024 บ่งชี้ทองคำที่จะขุดจากเหมืองแร่ทอง มีแนวโน้มลดลงและจะหมดไปภายใน 19-20 ปีข้างหน้า หรือในปี 2043 นั่นเพราะปริมาณทองคำจากเหมืองที่มีการขุดอยู่ที่ราว 3.3 พันตันต่อปี หรืออาจบ่งชี้ว่าอีกเพียง 2 ทศวรรษหากไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่ นั่นหมายความว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนทองคำใหม่หมุนเวียน
สำหรับด้านการลงทุนทองคำ ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อทองคำ นอกจากเรื่องทองคำมีจำนวนจำกัดแล้ว ราคาทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีแรงหนุนธนาคารกลางสหรัฐฯเตรียมจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินมีแต่จะด้อยค่า และการสะสมทองคำเป็นอีกทางเลือกเพราะทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติใช้สะสมมูลค่า
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับท่าทีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐ, สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เพราะทุกปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำโลกและราคาทองที่ซื้อขายในประเทศนั่นเอง
JJNY : 5in1 โรมลง‘กมลา’ภูเก็ต│“ชัชชาติ”ตามต่อไฟไหม้เยาวราช│ทองพุ่งแรง│ฝนตกกระหน่ำรัฐเท็กซัส│รัสเซียจมน้ำวันเดียว 49 ราย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4668110
โรม ลง ‘กมลา’ ภูเก็ต หลังน้ำท่วมหนัก กำชับ ส.ส.ภูเก็ต เยียวยา-วางแผนสกัดท่วมซ้ำ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และคณะ ลงพื้นที่ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ที่ประสบเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ต้องดูแล 2-3 ส่วน โดยส่วนแรก ต้องดูแลเรื่องการเยียวยาที่ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งทาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 รับจะประสานงานต่อ ส่วนที่ 2 การวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก แน่นอนว่าโครงการขุดลอกคูคลองต่างๆ คงจะช่วยได้ แต่จะทั้งหมดหรือไม่จะต้องวางแผนกันทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
และส่วนที่ 3 ทีแรกตั้งใจจะมาดูเรื่องภัยพิบัติต่างๆ แต่เมื่อดูพื้นที่แล้วเห็นศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งสิ่งที่ไม่สามารถบันทึกได้ในวิดีโอ คือ ความรู้สึกของคนที่มายืนอยู่ตรงนี้ บรรยากาศดีมาก ทำให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ว่ามีศักยภาพในการท่องเที่ยว อาจจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ชาวบ้านและภูเก็ตจะได้ประโยชน์
“บรรยากาศสวยงาม แน่นอนอาจเหมือนซากปรักหักพัง เป็นหินถล่มลงมา แต่ถ้ามีการจัดการดีๆ บริเวณนี้ยังเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก คิดว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม อากาศดี บรรยากาศดี ระยะยาวเป็นสิ่งที่ต้องวางแผนต่อไป ทาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 คงมีโครงการที่จะผลักดัน” นายรังสิมันต์กล่าว
ด้านนายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ และประชุมร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ทราบว่าในวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ทางจังหวัดภูเก็ตได้ให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดินภูเก็ตมาทำการรังวัดที่ดิน เพื่อเขียนโครงการเขื่อนกั้นน้ำ และปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
“ชัชชาติ” ตามต่อไฟไหม้เยาวราช ขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยประชาชน-ทำหน้าที่อย่างดี
https://www.thairath.co.th/news/politic/2798843
“ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ติดตามเหตุไฟไหม้เยาวราช ชุมชนตรอกโพธิ์ ให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน พร้อมตั้งกองอำนวยการเร่งเยียวยาเต็มที่ ปลัด กทม. เผย มีผู้ประสบภัยรวม 44 หลังคาเรือน 166 ราย
วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อเวลา 21.39 น. ของคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2567
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่เกิดเหตุก็ได้ลงพื้นที่ทันที ตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืน ขณะนี้พบว่าชุมชนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นอาคารเช่า 2 ชั้น อยู่ล้อมรอบด้วยตึกแถว มีทางเข้า-ออกยากและจำกัด เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการดับเพลิง เนื่องจากเป็นชุมชนพื้นที่คับแคบ ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาเช่าอาศัย อีกส่วนคือตึกที่ไฟลามไปด้านหน้า และโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ที่ตั้งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ตัวตึกไม่ได้รับความเสียหาย แต่ควันจากเพลิงไหม้ลอยเข้าไปในโรงพยาบาลจึงต้องทำการย้ายผู้ป่วยผู้สูงอายุ จำนวน 26 ราย ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
สำหรับในเช้านี้ ได้ย้ายผู้ป่วยทั้ง 26 ราย กลับเข้าโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นต้องรีบเยียวยา และสั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้ประสบภัย เพื่อจะจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นให้ประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้ติดค้างหรือผู้สูญหายจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้ตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ถนนทรงสวัสดิ์
จากนั้น นายชัชชาติ ลงพื้นที่ไปยังจุดบริการอาหารสำหรับผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ โดยสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้จัดข้าวกล่องมาประมาณ 200 ชุด แจกจ่ายให้ประชาชนผู้ที่ประสบภัย และมีถุงยังชีพจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสำหรับผู้ใหญ่ 160 ชุด ของเด็กอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อต้องการเป็นกำลังใจให้ทุกคน เจ้าหน้าที่ก็รู้หน้าที่อยู่แล้ว ตนไม่ได้ไปสั่งการอะไร ต้องขอบคุณทีมงานที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
ต่อมาเวลา 10.30 น. พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช โดยมี พลเรือเอกคณีพล สงเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมผู้บริหารสำนักพัฒนาสังคม ผู้บริหารเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้วิเคราะห์สถานการณ์ในภาพรวมเพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและรับบริจาคสิ่งของ ณ วัดสัมพันธวงศ์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักอนามัย สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชนอยู่ในพื้นที่ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีผู้ประสบภัยรวม 44 หลังคาเรือน 166 ราย ได้รับผลกระทบสภาพบ้านพังได้รับความเสียหาย ขณะนี้ พม. อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม และประชุมเพื่อสรุปผลการช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนทางตำรวจกำลังเร่งสืบสวนถึงสาเหตุเพลิงไหม้ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ อยู่ระหว่างลงทะเบียนผู้ประสบภัยเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งครัวพระราชทาน และเปิดรับริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภคและบริโภค ณ ศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณวัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งขณะนี้ กทม. กำลังจัดระเบียบของบริจาคและเตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในเบื้องต้นอยู่ระหว่างแยกที่พักเป็นหญิง ชาย และครอบครัวให้เป็นสัดส่วน อีกทั้งเร่งจัดหาพัดลมเพิ่มเติม โดยมีศูนย์สาธารณสุข 13 มาช่วยเรื่องการรักษาพยาบาล ขณะนี้ทาง กทม. กำลังประเมินถึงความเพียงพอของห้องน้ำและสุขา โดยเตรียมพร้อมจะจัดหาสุขาเคลื่อนที่มาเสริม ในกรณีที่ห้องสุขาของวัดสัมพันธวงศ์ไม่เพียงพอด้วย
ในช่วงท้าย ปลัดกรุงเทพมหานคร เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มากที่สุด โดยคำนึงถึงว่าทุกคนคือผู้ประสบภัย ส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของ เครื่องอุปโภคและบริโภค สามารถนำสิ่งของมาบริจาคได้ที่จุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ถนนทรงสวัสดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ หรือโทร. 080-535-1929 โดยของดรับบริจาคเสื้อผ้า เนื่องจากมีหน่วยงานบริจาคให้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว
ทองพุ่งแรง-บาทละครึ่งแสน
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_742678/
แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับราคาทองคำที่ปรับขึ้นอีก 200 บาทต่อบาททองคำในเช้าวันเสาร์ที่ 6 กรกฏาคม 2567 หลังราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งใกล้ทะลุ 2,400 เหรียญฯ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานกำลังชะลอตัว ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้
ล่าสุด ทองคำแท่งรับซื้อ 41,000 บาท ขายออก 41,100 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 40,264.96 บาท ขายออก 41,600 บาท ขณะที่ภาพรวมราคาทองในประเทศ ห้วง 6 วันแรกของเดือนกรกฏาคม 2567 ปรับขึ้นแล้ว 600 บาทจากเดือนก่อน และตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ราคาทองปรับขึ้น 7,450 บาท โดยราคาทองสูงสุดอยู่ที่ 42,000 บาท ต่ำสุด 33,400 บาท ซึ่งในเดือนมีนาคม ยังคงเป็นเดือนที่ราคาทองปรับขึ้นมากที่สุด 3,950 บาท
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุกอีกครั้ง ถึงแนวโน้มราคาทองคำว่ามีโอกาสหรือไม่ ที่ราคาทองในประเทศจะขึ้นไปแตะ 45,000 บาท และ 50,000 บาทตามลำดับ โดย “น.พ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ในระยะยาวมีโอกาสได้เห็น
“42,500 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งต้องถือเป็นไฮเดิม อันนี้เป้าหมายแรก ถ้าสามารถเบรกไฮเดิมขึ้นมาได้ โอกาสที่จะเห็น 45,000 และ 50,000 ตามลำดับ น่าจะมี แต่ว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีธันวาคมโน้นเลย คงจะไม่เร็ว”
และเมื่อถามถึงกลยุทธ์การลงทุนในทองคำช่วงจังหวะเวลานี้ ต้องวางแผนอย่างไร “น.พ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ให้จับตาที่ประเด็นธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด เพราะการลดดอกเบี้ยจะทำให้ราคาทองปรับขึ้น
“ในระยะกลางกับระยะยาวมองว่า ราคาทองคำเป็นขาขึ้น ในระยะสั้นอาจจะค่อยๆสะสมพลังแล้วก็จบ จบในที่นี้หมายความว่าจบการสะสมพลังแล้วก็พร้อมที่จะดีดขึ้น เพราะว่าเหตุผลหลักก็คือการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งถ้าเฟดลดดอกเบี้ย ยังไงทองก็ต้องขึ้น ดังนั้นก็แนะนำนักลงทุนให้กระจายการลงทุนมาที่ทองคำให้มากขึ้นหรือสะสมให้มากขึ้น”
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย ได้ออกบทวิเคราะห์ ทองคำ..สินทรัพย์ที่ต้องมีจริง หรือแค่ตามกระแส โดยระบุว่า จากรายงานทองคำของ World Gold Council เดือน ก.พ. 2024 บ่งชี้ทองคำที่จะขุดจากเหมืองแร่ทอง มีแนวโน้มลดลงและจะหมดไปภายใน 19-20 ปีข้างหน้า หรือในปี 2043 นั่นเพราะปริมาณทองคำจากเหมืองที่มีการขุดอยู่ที่ราว 3.3 พันตันต่อปี หรืออาจบ่งชี้ว่าอีกเพียง 2 ทศวรรษหากไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่ นั่นหมายความว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนทองคำใหม่หมุนเวียน
สำหรับด้านการลงทุนทองคำ ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อทองคำ นอกจากเรื่องทองคำมีจำนวนจำกัดแล้ว ราคาทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีแรงหนุนธนาคารกลางสหรัฐฯเตรียมจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินมีแต่จะด้อยค่า และการสะสมทองคำเป็นอีกทางเลือกเพราะทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติใช้สะสมมูลค่า
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับท่าทีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐ, สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เพราะทุกปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำโลกและราคาทองที่ซื้อขายในประเทศนั่นเอง