เริ่มเห็นแสงสว่างรำไรในตลาดหุ้นไทยกันบ้างแล้วนะครับ หลังประกาศใช้มาตรการ Uptick ที่หลายคนก็เป็นกังวลว่ามันจะช่วยอะไรได้หรือไม่ ?
ถึงแม้ยอด Short Sell จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญแล้วก็ตาม เนื่องจากการตอบสนองของทิศทางราคาในช่วง 2-3 วันทำการแรกก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ดังนั้น เราจึงลองไปเก็บสถานการณ์ของตลาดหุ้นรุ่นพี่ ที่มีการใช้มาตรการทำนองนี้อย่างไปก่อนหน้าอย่าง
ตลาดหุ้นจีน และพบข้อมูลที่น่าสนใจจึงนำมาฝากทุกท่าน รวมถึงเหตการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในตลาด TFEX ที่หลายคนที่เล่นแต่หุ้นอาจไม่ได้สังเกตเห็น โดยเราคิดว่ามันอาจจะเป็น
“สัญญาณการจบรอบขาลง" ในรอบนี้ มาดูกันครับ
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีน (SSEC) ในช่วงประกาศใช้มาตรการห้าม Short Sell ต้นปี 2024
29 ม.ค. 67 จีนห้าม Short หุ้นลง 6 วันติดรวม 7.15%
ต้องบอกเลยว่า ณ ช่วงที่ประเทศจีนได้ออกมาตรการประกาศห้าม Short Sell ผลลัพธ์ในช่วงต้นก็ไม่ต่างอะไรจากของไทย แถมยังหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ โดยใน 6 วันทำการแรกดัชนี SSEC ปรับตัวลงทุกวันรวม 7.15% แต่หลังจากนั้นพอตั้งหลักได้ ตลาดก็ได้พุ่งขึ้นแรงกว่า 13.85% หรือเกือบ 2 เท่าตัวที่ลงไป โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน (ช่วงหลังของเดือน ก.พ. - มี.ค.) พร้อมข้อมูลการ Short Sell ของจีนที่ต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งเกิดจากมาตรการนี้ จึงอนุมานได้ว่า
มาตรการนี้ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาดีอีกครั้ง เพียงแต่อาจมีความรู้สึกช้าไปบ้าง (หรือเกิดจากความตั้งใจของรายใหญ่ที่ทุบหุ้นเพื่อเก็บของและหลอกนักลงทุนว่าไม่ได้ผล) อย่างไรก็ตามมันก็มีตัวเลขสำคัญตัวหนึ่งที่สนับสนุนของการปรับตัวขึ้นของพวกเขา คือ ...
รูปแสดงเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนหลังในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024
Fund Flow ไหลเข้าในประเทศที่เคยใช้มาตรการห้าม Short Sell
จากรูปจะเห็นว่าตลาดหุ้นจีนมีกระแสเงินต่างชาติที่ไหลเข้าในช่วงปลายเดือน ม.ค. 67 (เส้นสีเขียวที่หักหัวขึ้นด้านขวามือ) สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ประกาศใช้มาตรการห้าม Short Sell พอดี และไม่เพียงแค่จีนเท่านั้น เพราะยังมีอีกหนึ่งประเทศที่ได้ใช้มาตรการนี้ไปก่อนหน้าอย่างที่ทุกท่านรู้กัน คือ
"เกาหลีใต้" โดยใช้เมื่อเดือน พ.ย. 66 หรือปลายปีก่อน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรูป Fund Flow ก็พบว่าประเทศเขาเอง ก็ได้มีกระแสเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาต่อเนื่องในช่วงนั้นอย่างพอดิบพอดี (เส้นสีดำที่หักหัวขึ้นในช่วงนั้นพอดี) ดังนั้น เราเองก็คาดหวังว่าประเทศไทยที่มีการใช้นโยบายที่คล้ายกันนี้ จะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาเข้ามาซื้อหุ้นอย่างในตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น (เส้นสีฟ้าที่จมดิ่งอยู่ล่างสุด)
รูปแสดงข้อมูลการซื้อขาย SET50 Futures ของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ วันที่ 3 ก.ค. 67
ต่างชาติกลับใจ Long หนัก ปิดสถานะ Short ก็คงค้างไว้
นอกจากนี้ก็มีข้อมูลอีกตัวที่น่าสนใจ และอาจเป็น Signal สำคัญของการจบรอบขาลงนี้ โดยในตลาด TFEX ก็มีข่าวดีเกินขึ้น คือ นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมา Long สุทธิถึง 45,766 สัญญา พร้อมกับยอดสถานะคงค้าง (OI) ที่หายไปในระดับใกล้เคียงกัน คือ 35,562 สัญญา บ่งบอกได้ถึงการ
“ปิดสถานะ Short ที่เคยเก็งกำไรไว้” ซึ่งอาจเกิดจาก Policy ของเขาเองที่มองเรื่องข่าวดีจากการ Short Sell ที่หายไปทำให้ตลาดไม่น่าลงต่อ รวมถึงอาจกลัวการกระชากขึ้นแรงเหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น ๆ เช่น จีนที่เราแสดงตัวอย่างข้างต้น โดยอยากให้ทุกคนจับตาดูตัวเลขนี้ต่ออย่างใกล้ชิด เพราะหากเป็นเช่นนั้น เขายังมีสถานะ Short สะสมไว้ให้ต้องปิดอีกพอสมควร
โดยเราก็หวังว่าตลาดหุ้นไทยจะถอดแบบเหตุการณ์เดียวกับจีนและกลับมาเป็นขาขึ้นหลังจากนี้
แต่อย่างไรก็ตามความหวังทั้งหมดนี้ อาจไม่เป็นจริงเลยก็ได้เพราะต้องยอมรับว่ามันอาจมีบางจุดที่ไทยแตกต่างจากจีน คือ
“ผู้มีอำนาจและผู้เกี่ยวข้องบ้านเขา แสดงเจตนาตั้งใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง” เห็นได้การออกมาตรการห้าม Short Sell โดยตรง ที่ไม่ใช่การปรับเงื่อนไข Uptick ที่ยังสามารถ Short Sell ได้อยู่แต่แค่ยากขึ้น รวมทั้งเรื่องสำคัญที่สุด คือ
“เขาออกมาตรการอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง” เช่น 22 ก.พ. 67 : ห้ามสถาบันรายใหญ่ขายหุ้นออกไปได้มากกว่าที่ซื้อในช่วง 30 นาทีแรก และ 30 นาทีสุดท้ายของการซื้อขาย, 1 พ.ค. 67 : หยุดรายงานการเคลื่อนไหว Flow ต่างชาติในชั่วโมงการซื้อขาย รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลัง กระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต สะท้อนจากตัวเลข GDP ที่มีแนวโน้มโตตามคาดหรือสูงกว่าที่คาด ในขณะที่ไทยยังขาดส่วนนี้จึงหวังว่า เราจะได้เห็นทั้งผู้มีอำนาจในตลาด,รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมให้พื้นฐานตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยดีขึ้น
รูปตัวอย่างโครงการ Live Trade TFEX ที่ลองทำเป็นตัวอย่างให้กับคนที่สนใจ TFEX
สุดท้ายถึงแม้กระแสการลงทุนในช่วงนี้จะมีหลายเสียงแนะนำให้มองหาโอกาสอื่นที่นอกเหนือจากหุ้นไทย แต่เราก็ยังขอยืดหยัดหาวิธีทำกำไรต่อ โดยอาศัยตลาด TFEX ที่เล่นได้หลาย Product และเล่นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ที่ยังช่วยให้อยู่รอดและทำกำไรได้ และเราอยากลองทำเป็นตัวอย่างให้ทุกคนเห็นถึงแนวทางอย่างชัดเจนที่สุดกับโปรเจค
“Live Trade” ที่เห็นการเคลื่อนไหวพอร์ตแบบ Real Time ไม่สามารถปิดบัง โดยผ่านมา 3 วันยังกำไรอยู่เล็กน้อย 4% โดยได้กำไรหลัก ๆ มาจาก Gold Futures ที่ปรับตัวขึ้น และหวังว่าจะสามารถประคองกำไรไปได้ตลอดทั้งเดือน เพื่อส่งต่อให้กับสังคมและผู้ติดตาม ฝากเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Credit :
https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางหุ้น,TFEX
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ
ถอดแบบตลาดหุ้นจีน❓กับการจบรอบ"ขาลง"ของหุ้นไทย
เริ่มเห็นแสงสว่างรำไรในตลาดหุ้นไทยกันบ้างแล้วนะครับ หลังประกาศใช้มาตรการ Uptick ที่หลายคนก็เป็นกังวลว่ามันจะช่วยอะไรได้หรือไม่ ? ถึงแม้ยอด Short Sell จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญแล้วก็ตาม เนื่องจากการตอบสนองของทิศทางราคาในช่วง 2-3 วันทำการแรกก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ดังนั้น เราจึงลองไปเก็บสถานการณ์ของตลาดหุ้นรุ่นพี่ ที่มีการใช้มาตรการทำนองนี้อย่างไปก่อนหน้าอย่างตลาดหุ้นจีน และพบข้อมูลที่น่าสนใจจึงนำมาฝากทุกท่าน รวมถึงเหตการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในตลาด TFEX ที่หลายคนที่เล่นแต่หุ้นอาจไม่ได้สังเกตเห็น โดยเราคิดว่ามันอาจจะเป็น “สัญญาณการจบรอบขาลง" ในรอบนี้ มาดูกันครับ
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีน (SSEC) ในช่วงประกาศใช้มาตรการห้าม Short Sell ต้นปี 2024
29 ม.ค. 67 จีนห้าม Short หุ้นลง 6 วันติดรวม 7.15%
ต้องบอกเลยว่า ณ ช่วงที่ประเทศจีนได้ออกมาตรการประกาศห้าม Short Sell ผลลัพธ์ในช่วงต้นก็ไม่ต่างอะไรจากของไทย แถมยังหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ โดยใน 6 วันทำการแรกดัชนี SSEC ปรับตัวลงทุกวันรวม 7.15% แต่หลังจากนั้นพอตั้งหลักได้ ตลาดก็ได้พุ่งขึ้นแรงกว่า 13.85% หรือเกือบ 2 เท่าตัวที่ลงไป โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน (ช่วงหลังของเดือน ก.พ. - มี.ค.) พร้อมข้อมูลการ Short Sell ของจีนที่ต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งเกิดจากมาตรการนี้ จึงอนุมานได้ว่ามาตรการนี้ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาดีอีกครั้ง เพียงแต่อาจมีความรู้สึกช้าไปบ้าง (หรือเกิดจากความตั้งใจของรายใหญ่ที่ทุบหุ้นเพื่อเก็บของและหลอกนักลงทุนว่าไม่ได้ผล) อย่างไรก็ตามมันก็มีตัวเลขสำคัญตัวหนึ่งที่สนับสนุนของการปรับตัวขึ้นของพวกเขา คือ ...
รูปแสดงเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนหลังในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024
Fund Flow ไหลเข้าในประเทศที่เคยใช้มาตรการห้าม Short Sell
จากรูปจะเห็นว่าตลาดหุ้นจีนมีกระแสเงินต่างชาติที่ไหลเข้าในช่วงปลายเดือน ม.ค. 67 (เส้นสีเขียวที่หักหัวขึ้นด้านขวามือ) สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ประกาศใช้มาตรการห้าม Short Sell พอดี และไม่เพียงแค่จีนเท่านั้น เพราะยังมีอีกหนึ่งประเทศที่ได้ใช้มาตรการนี้ไปก่อนหน้าอย่างที่ทุกท่านรู้กัน คือ "เกาหลีใต้" โดยใช้เมื่อเดือน พ.ย. 66 หรือปลายปีก่อน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรูป Fund Flow ก็พบว่าประเทศเขาเอง ก็ได้มีกระแสเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาต่อเนื่องในช่วงนั้นอย่างพอดิบพอดี (เส้นสีดำที่หักหัวขึ้นในช่วงนั้นพอดี) ดังนั้น เราเองก็คาดหวังว่าประเทศไทยที่มีการใช้นโยบายที่คล้ายกันนี้ จะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาเข้ามาซื้อหุ้นอย่างในตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น (เส้นสีฟ้าที่จมดิ่งอยู่ล่างสุด)
รูปแสดงข้อมูลการซื้อขาย SET50 Futures ของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ วันที่ 3 ก.ค. 67
ต่างชาติกลับใจ Long หนัก ปิดสถานะ Short ก็คงค้างไว้
นอกจากนี้ก็มีข้อมูลอีกตัวที่น่าสนใจ และอาจเป็น Signal สำคัญของการจบรอบขาลงนี้ โดยในตลาด TFEX ก็มีข่าวดีเกินขึ้น คือ นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมา Long สุทธิถึง 45,766 สัญญา พร้อมกับยอดสถานะคงค้าง (OI) ที่หายไปในระดับใกล้เคียงกัน คือ 35,562 สัญญา บ่งบอกได้ถึงการ “ปิดสถานะ Short ที่เคยเก็งกำไรไว้” ซึ่งอาจเกิดจาก Policy ของเขาเองที่มองเรื่องข่าวดีจากการ Short Sell ที่หายไปทำให้ตลาดไม่น่าลงต่อ รวมถึงอาจกลัวการกระชากขึ้นแรงเหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น ๆ เช่น จีนที่เราแสดงตัวอย่างข้างต้น โดยอยากให้ทุกคนจับตาดูตัวเลขนี้ต่ออย่างใกล้ชิด เพราะหากเป็นเช่นนั้น เขายังมีสถานะ Short สะสมไว้ให้ต้องปิดอีกพอสมควร โดยเราก็หวังว่าตลาดหุ้นไทยจะถอดแบบเหตุการณ์เดียวกับจีนและกลับมาเป็นขาขึ้นหลังจากนี้
แต่อย่างไรก็ตามความหวังทั้งหมดนี้ อาจไม่เป็นจริงเลยก็ได้เพราะต้องยอมรับว่ามันอาจมีบางจุดที่ไทยแตกต่างจากจีน คือ “ผู้มีอำนาจและผู้เกี่ยวข้องบ้านเขา แสดงเจตนาตั้งใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง” เห็นได้การออกมาตรการห้าม Short Sell โดยตรง ที่ไม่ใช่การปรับเงื่อนไข Uptick ที่ยังสามารถ Short Sell ได้อยู่แต่แค่ยากขึ้น รวมทั้งเรื่องสำคัญที่สุด คือ “เขาออกมาตรการอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง” เช่น 22 ก.พ. 67 : ห้ามสถาบันรายใหญ่ขายหุ้นออกไปได้มากกว่าที่ซื้อในช่วง 30 นาทีแรก และ 30 นาทีสุดท้ายของการซื้อขาย, 1 พ.ค. 67 : หยุดรายงานการเคลื่อนไหว Flow ต่างชาติในชั่วโมงการซื้อขาย รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลัง กระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต สะท้อนจากตัวเลข GDP ที่มีแนวโน้มโตตามคาดหรือสูงกว่าที่คาด ในขณะที่ไทยยังขาดส่วนนี้จึงหวังว่า เราจะได้เห็นทั้งผู้มีอำนาจในตลาด,รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมให้พื้นฐานตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยดีขึ้น
รูปตัวอย่างโครงการ Live Trade TFEX ที่ลองทำเป็นตัวอย่างให้กับคนที่สนใจ TFEX
สุดท้ายถึงแม้กระแสการลงทุนในช่วงนี้จะมีหลายเสียงแนะนำให้มองหาโอกาสอื่นที่นอกเหนือจากหุ้นไทย แต่เราก็ยังขอยืดหยัดหาวิธีทำกำไรต่อ โดยอาศัยตลาด TFEX ที่เล่นได้หลาย Product และเล่นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ที่ยังช่วยให้อยู่รอดและทำกำไรได้ และเราอยากลองทำเป็นตัวอย่างให้ทุกคนเห็นถึงแนวทางอย่างชัดเจนที่สุดกับโปรเจค “Live Trade” ที่เห็นการเคลื่อนไหวพอร์ตแบบ Real Time ไม่สามารถปิดบัง โดยผ่านมา 3 วันยังกำไรอยู่เล็กน้อย 4% โดยได้กำไรหลัก ๆ มาจาก Gold Futures ที่ปรับตัวขึ้น และหวังว่าจะสามารถประคองกำไรไปได้ตลอดทั้งเดือน เพื่อส่งต่อให้กับสังคมและผู้ติดตาม ฝากเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางหุ้น,TFEX
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ