เราซื้อประกันจากซิกน่า เป็นประกันคุ้มครองเกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรม และโรคทางเดินหายใจโดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทุกเดือน โดยผ่านไป 11 เดือน เราได้มีการเข้ารักษาเกี่ยวกับอาการพังผืดที่ข้อมือทำให้เราได้มีการเข้ารักษาเกี่ยวกับอาการพังผืดที่ข้อมือทำให้มือชาและนิ้วล็อค เข้าที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ครั้งแรกหมอวินิจฉัยว่าอาจจะต้องผ่าตัด โดยนัดหมออีกครั้งในอีกสองวันถัดมาซึ่งตรงกับวันศุกร์ ทางหมอแจ้งว่าต้องผ่าตัดมีค่าใช้จ่ายประมาณ 70,000 ถึง 80,000 บาท โดยทางโรงพยาบาลจะส่งเรื่องไปทางบริษัทประกันเพื่อยืนยันการรักษา ว่าจะต้องผ่าตัดในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะต้องรอทางประกันแจ้งกลับมาเจ็ดถึง 10 วันทำการ ว่าจะต้องผ่าตัดในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะต้องรอทางประกันแจ้งกลับมา7-10 วันทำการ ผ่านมาแค่วันเดียวคือวันเสาร์ทางโรงพยาบาลแจ้งกลับมาว่าให้สำรองผ่านมาแค่วันเดียวคือวันเสาร์ทางโรงพยาบาลแจ้งกลับมาว่าให้สำรองจ่าย เพราะทางประกันแจ้งมาว่ายังเป็นลูกค้าใหม่ที่มีอายุการทำประกันเพราะทางประกันแจ้งมาว่ายังเป็นลูกค้าใหม่ที่มีอายุทำประกันภัยไม่ถึงหนึ่งปี พยายามติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของชับบ์ (ซิกน่าเปลี่ยนเป็นชับบ์) ได้รับคำตอบได้รับคำตอบว่าไม่ได้ปฏิเสธการเคลมแต่ว่าลูกค้าต้องสำรองจ่ายไปก่อนในครั้งแรก เราแจ้งว่าเราเข้าไปโรงพยาบาล มาสองครั้งแล้วทั้งสองครั้งไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินจากโรงพยาบาลพอมาครั้งที่สามซึ่งเป็นการผ่าตัดกลับให้สำรอง มาสองครั้งแล้วทั้งสองครั้งไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินจากโรงพยาบาลพอมาครั้งที่สามซึ่งเป็นการผ่าตัดกลับให้สำรองจ่ายก่อนเพราะว่ายอดเงินเยอะทั้งที่วงเงินในการรักษาอยู่ที่ 150,000 บาท โทรหาคอลเซ็นเตอร์อีกหลายครั้งคำตอบที่โทรหาคอลเซ็นเตอร์อีกหลายครั้งคำตอบที่ได้คือไม่ได้ปฏิเสธการรักษาแต่ว่าลูกค้าต้องสำรองจ่ายไปก่อนถึงจะยื่นเคลมกับฝ่ายสินไหมได้โดยทั้งนี้ไม่ได้การันตีว่าจะสามารถเคลมได้ต้องผ่าตัดไปก่อนถึงจะพิจารณาอีกทีว่าเคลมได้หรือไม่ ซึ่งอันนี้เราบอกว่าไม่โอเคเลยเพราะตอนซื้อประกันแจ้งว่าไม่ต้องสำรอง ซึ่งอันนี้เราบอกว่าไม่โอเคเลยเพราะตอนซื้อประกันแจ้งว่าไม่ต้องสำรองจ่ายในกรณีนี้ถ้าเราไม่มีเงินเข้าไปรักษาหรือสำรองจ่ายไปก่อนหมายความว่าประกันตัวนี้เราไม่สามารถใช้งานได้แล้วเราจะซื้อประกันไปเพื่ออะไร หรือในกรณีที่เรามีเงินสำรองหรือในกรณีที่เรามีเงินสำรองจ่ายเราก็ยังไม่สามารถทราบได้อยู่ดีว่าเราได้รับความคุ้มครองจากประกันฉบับนี้หรือไม่ คำถามคำถามคือประกันสามารถดิวกับโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลอยู่แล้วทำไมจึงไม่ตรวจสอบก่อนในเมื่อประกันอื่นก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเราเคยมีประวัติการรักษากับที่อื่นหรือเปล่า ในลักษณะนี้เป็นการปฏิเสธการเคลมโดยบีบให้ลูกค้าเลือกสองทางคือสำรองในลักษณะนี้เป็นการปฏิเสธการเคลมโดยบีบให้ลูกค้าเลือกสองทางคือ ถ้าไม่มีเงินที่จะสำรอง ถ้าไม่มีเงินที่จะสำรองจ่ายก็จะไม่ได้รับการรักษาหรือถ้ารับการรักษาแล้วก็อยู่ในมือประกันว่าจะพิจารณาจ่ายส่วนที่เราสำรองจ่ายไปก่อน ติดต่อคอลเซ็นเตอร์หลายครั้งมากได้คำตอบติดต่อคอลเซ็นเตอร์หลายครั้งมาก แต่คอลเซ็นเตอร์ก็ยืนยันว่าไม่สามารถให้รักษาได้ต้องสำรอง แต่คอลเซ็นเตอร์ก็ยืนยันว่าไม่สามารถให้รักษาได้ต้องสำรองจ่ายและรอลุ้นว่า ฝ่ายสินไหมจะอนุมัติหรือไม่ เรามีวิธีการร้องเรียนอะไรได้บ้างคะ เพราะแบบนี้เหมือนกับว่าประกันหลอกให้เราทำเพราะแบบนี้เหมือนกับว่าประกันหลอกให้เราทำโดยที่ไม่ได้เจตนาจะให้ความคุ้มครองเราจริงๆ