สวัสดีอีกครั้งค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ที่นึกทีไรทั้งเศร้าและโกรธแค้นทุกที นั่นคือการที่เราโดนแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอก 2 ครั้ง
ครั้งนี้จะไม่ใช่งานออลไลน์เหมือนครั้งที่แล้วและไม่ได้เสียเงินด้วยค่ะ แต่มันทำให้รู้รู้ความสำคัญของข้อมูล และความ sensitive ของมันค่ะ โดยปกติแล้วหากใครบอกข้อมูลของคุณถูกต้อง คุณจะเทใจและเชื่อเขาไปแล้ว 30-50% ใช่มั้ยคะ ให้ยกตัวอย่างก็อย่าเช่น ถ้ามีคนมาทักคุณว่า คุณดูกังวลเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจนะ ซึ่งแน่นอนว่าทุกๆมีเรื่องทุกข์ใจเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม แล้วคุณก็จะรู้สึกว่า เฮ้ย! เค้ารู้ได้ไง คนนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษแน่ๆ ใช่มั้ย แน่นอนว่าเราไม่ได้ดูถูก ลบหลู่หรือแซะใครแต่อย่างใด.....แต่เราแค่ยกตัวอย่างที่ทำให้คนเข้าใจได้ง่ายที่สุดในความคิดของเราเท่านั้น (เอาจริงๆคือเมื่อก่อนเคยอ่านเรื่องทำนองนี้มา) ซึ่งนี้ก็เป็นจิตวิทยาอย่างนึง
กลับมาเข้าเรื่องเมื่อกี้นี้เราเปิดเจอกระทู้ที่ถามว่าใช่ตำรวจจริงมั้ย เราอยากบอกว่าเหตุการณ์ที่เค้าเจอนั้นเหมือนกับของเราเป๊ะๆเลย เราจะเล่าที่เราเจอมาละเอียดหน่อยนะ มาถึงเค้าจะพูดกระโชกโฮกฮากเลยว่าคุณชื่อนี้ๆๆ มั้ย ที่อยู่นี้ๆๆ บัตรประชาชนนี้ๆๆ ซึ่ง.....เค้าพูดถูกหมดเลย ตอนแรกเรามั่นใจว่าคอลเซ็นเตอร์แน่ๆ จึงพูดสียงประชดประชันไป จากนั้นเค้าต่อว่าเราและบอกเตรียมรับหมายศาลได้เลย เราก็รู้สึกเริ่มสนใจและ เอ๊ ดิฉันไปทำไรผิดมานิ พอเราขอให้เค้าช่วยอธิบายเราให้มันดีๆ เค้าก็มีมาแซะเราว่าเราหยาบคายกับเค้าก่อน เราจึงบอกว่าคอลเซ็นเตอร์มันเยอะ (แค่ตอนที่คุณพูดมามันก็คอลเซ็นเตอร์แล้ว)
จากนั้นเค้าก็เริ่มเล่าว่าเค้าเป็นร้อยตำรวจโทหญิงหรือไงนี่แหละ ได้มีการจับกุมแก๊งมิจฉาชีพ แล้วพบสมุดบัญชีที่มีชื่อเราอยู่ คนร้ายหรือนางสาว... ซักทอดมาว่าซื้อมาจากคุณในราคา 50,000 บาท แต่คือเราไม่เคยเปิดบัญชีธนนาคารนี้ไง เราเลยถามต่อ แค่มีบัตรประชนมันเปิดบัญชีไม่ได้นี่ค่ะ เค้าเลยบอกเราว่าเคยเปิดบัญชีออลไลน์มั้ย เราบอกว่าเคย เค้าก็บอกว่าข้อมูลหลุดมาจากตรงนั้นแหละ
ตอนแรกเรายอมรับว่าเราเริ่มงอแงน้ำตาเริ่มมา (เราเป็นคนอ่อนไหวง่าย รู้ทั้งรู้พยายามแก้แล้วแต่น้ำตามันก็ยังไหล) เค้าให้เราจดหมายเลขคดี ชื่อคนทำผิด ชื่อตัวเค้าบลาๆๆ แล้วให้เราถือสายรอไว้เพื่อคุยกับอีกคนแล้วระหว่างทางห้ามวางสายนะ (คือก่อนหน้านนี้เรากดวางสายไปครั้งนึง เค้าเลยย้ำเรา) แล้วให้พูดเหมือนที่เค้าบอกกับเรา ประเด็นคือระหว่างรอสายมีเสียงรอสายแบบนี้ด้วยนะ "หากคุณพบตำรวจที่กระทำผิดหรือมีอะไรที่ไม่น่าวางใจกรุณากด 191" เป็นเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ดู ดูมันเล่นไม้นี้เลย พยายามหลอกให้เราเชื่อ พอฟังตรงนี้ปีบเราหยุดร้องเลย มันไม่ใช่อ่ะพี่ มันไม่ใช่ นี่มันคอลเซ็นเตอร์ แต่เผอิญว่าถึงจะหยุดร้องแล้วแต่ช่วงสะอื้นเพราะหายใจไม่ทันยังอยู่ เลยเป็นเสียงแบบฮึกๆ เหมือนคนร้องลองไห้
เราที่ทนฟังมาขนาดนี้แล้วก็อยากฟังจนจบ ที่นี้พอสายติดคนรับคือผู้ชายเค้าก็บอกเราว่าเราต้องมาสน.ชุมพร หรือหาดใหญ่เนี่ยแหละให้มาแสดงตัวว่าเราไม่ได้กระทำผิด เราเลยแกล้งบอกเค้าว่าเราไม่สะดวกขอไปคุยและแจ้งความที่สน.ใกล้บ้านและกัน เค้าเลยบอกว่าได้ครับ แต่ทางสน.ผมจะส่งหมายศาลให้คุณ แต่ถ้าคุณให้ความร่วมมืออีกนิด คุณแค่ไปที่ไลน์แล้วยืนยันตัวตน.... ชัด ชัดและ โป๊ะมาก
บังเอิ๊ญ บังเอินมันเป็นช่วงที่เราหายใจไม่ทันเพราะร้องให้ก่อนหน้านี้ เค้าเลยถามเราว่าร้องไห้ทำไมครับ มีอะไรบอกเค้าได้ และแล้วเราก็นึกแผนอะไรได้ ก็เลยนึกเรื่องเศร้าที่สุดที่คิดออกนะตอนนั้นในหัว น้ำตาก็เริ่มไหลอีกครั้ง
พี่คะพี่จะแจ้งจะส่งหมายศาลอะไรมาก็ได้หมดเลยค่ะ หนูขอไปยืนยันตัวตนที่สน.ใกล้บ้านเองดีกว่า ถ้าหนูต้องไปที่ชุมพรจริงๆ หนูจะให้ ฮึก พ่อกะแม่ที่เดินแทบไม่ไหวไปส่งเองค่ะ หนูไม่สามารถเชื่อพี่ได้ค่ะ หนูเคยเกือบฆ่าตัวตายมาแล้วเพราะโดยคอลเซ็นเตอร์หลอก เค้าเลยถามเราว่าน้องเคยโดยหลอกอะไรเล่าให้ฟังได้ เราก็แบบ...ควรตอบไงดี เราเลยเงียบไป
เค้าเลยถามเราอีกครั้งว่าน้องมีไลน์มั้ย เราจึงกลับมาสะอื้นแล้วบอก ไม่มีค่ะพี่ แล้วในตอนที่เรากำลังจะบอกเค้าว่า "ไอ้พวกที่หลอกลวงคนอื่นมันเลวมากจริงๆค่ะ ขอให้ไอ้พวกที่หลอกลวงคนอื่นแบบนี้ มัน.." ก็คือจะด่านั่นแหละ แต่ยังไม่ทันพูด มันดันวางสายซะก่อน...จบกันแผนเรา กะจะแช่งเนียนๆ ให้ความสำนึกผิดบาปของมันก่อขึ้นในใจหน่อย
สุดท้ายเราเลยขอให้คนรู้จักช่วยไปแจ้งความแทนหน่อยเพราะเค้าอยู่ใกล้แล้วเราก็ไม่สะดวกเดินทางไปเอง และเรื่องนี้ทำให้เราได้รับความรู้ดังนี้
1. ถ้าคนที่เราไม่รู้จัก โทรมาและเรากดวางสาย แล้วคนที่โทรมาอีกรอบยังเป็นคนเดิมแต่เบอร์เปลี่ยนไปให้ฉุกคิดไว้ก่อนเลยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคอลเซ็นเตอร์ เพราะมันจะมีเครื่องที่ใช้สร้างเบอร์โทรเรื่อยๆ
2. หากเราได้รับหมายศาล จะมีตำรวจในท้องที่ใส่เครื่องแบบมาส่งให้เราถึงบ้านเอง ไม่มีโทรมาแล้วบอกให้เรากรกข้อมูลเราในไลน์ แบบนี้คือคอลเซ็นเตอร์แน่ๆ
3. หากเราถามย้ำๆ วนๆแล้วให้การไม่เหมือนเดิม แสดงว่าใช่แน่ๆ (ตอนแรกบอกสน.สุพรรณ ไปมาๆ ชุมพร ซักพักระยอง สรุปตูต้องไปที่ไหน)
เพราะประสบการณ์การโดนหลอกครั้งแรกทำให้เราพอมีภูมิต้านทานเรื่องนี้อยู่บ้าง แม้ตอนแรกๆจะยังวิตกกังวล แต่เมื่อฟังที่มิจฉาชีพพูดแล้วฉุกคิดไปเรื่อยๆก็จะรู้เท่าทันของมันได้ค่ะ(ด้วยความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆเรื่อง)
หวังว่าประสบการณ์ของเราจะทำให้เพื่อนๆชาวพันทิปเข้มแข็งและรู้เท่าทันกลโกงของพวกมิจฉาชีพพวกนี้นะคะ ที่จริงยังมีเคสศึกษาอีกมากที่ใครหลายคนเคยโดนและต้องประสบความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคืออย่างพึ่งกลัวไปเองนะคะ เพราะนั่นคือสิ่งแรกที่มันต้องการจากเราค่ะ ถ้าเค้าพูดอะไรที่เป็นการบังคับไม่ให้เราไปปรึกษาคนอื่น บอกเลยค่ะพี่ๆสามารถปรึกษาได้ค่ะ ทุกคนมีทางเลือก อย่าให้ความกลัวจากใครที่ไหนไม่รู้มาปิดทางเลือกเราค่ะ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวข้องกับกฏหมาย โทรเลยค่ะ 191 ถามคนในสายนี้ให้ชัดค่ะว่าสิ่งที่คุณประสบอยู่ตอนนี้ คือมิจฉาชีพหรือไม่
ส่วนเรายังคงตองฝึกเรื่องจิตใจต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ และฝากเตือนภัยไปยังคนรู้จักของพวกคุณด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ประสบการณ์โดนคอลเซ็นเตอร์หลอก (2/2)
ครั้งนี้จะไม่ใช่งานออลไลน์เหมือนครั้งที่แล้วและไม่ได้เสียเงินด้วยค่ะ แต่มันทำให้รู้รู้ความสำคัญของข้อมูล และความ sensitive ของมันค่ะ โดยปกติแล้วหากใครบอกข้อมูลของคุณถูกต้อง คุณจะเทใจและเชื่อเขาไปแล้ว 30-50% ใช่มั้ยคะ ให้ยกตัวอย่างก็อย่าเช่น ถ้ามีคนมาทักคุณว่า คุณดูกังวลเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจนะ ซึ่งแน่นอนว่าทุกๆมีเรื่องทุกข์ใจเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม แล้วคุณก็จะรู้สึกว่า เฮ้ย! เค้ารู้ได้ไง คนนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษแน่ๆ ใช่มั้ย แน่นอนว่าเราไม่ได้ดูถูก ลบหลู่หรือแซะใครแต่อย่างใด.....แต่เราแค่ยกตัวอย่างที่ทำให้คนเข้าใจได้ง่ายที่สุดในความคิดของเราเท่านั้น (เอาจริงๆคือเมื่อก่อนเคยอ่านเรื่องทำนองนี้มา) ซึ่งนี้ก็เป็นจิตวิทยาอย่างนึง
กลับมาเข้าเรื่องเมื่อกี้นี้เราเปิดเจอกระทู้ที่ถามว่าใช่ตำรวจจริงมั้ย เราอยากบอกว่าเหตุการณ์ที่เค้าเจอนั้นเหมือนกับของเราเป๊ะๆเลย เราจะเล่าที่เราเจอมาละเอียดหน่อยนะ มาถึงเค้าจะพูดกระโชกโฮกฮากเลยว่าคุณชื่อนี้ๆๆ มั้ย ที่อยู่นี้ๆๆ บัตรประชาชนนี้ๆๆ ซึ่ง.....เค้าพูดถูกหมดเลย ตอนแรกเรามั่นใจว่าคอลเซ็นเตอร์แน่ๆ จึงพูดสียงประชดประชันไป จากนั้นเค้าต่อว่าเราและบอกเตรียมรับหมายศาลได้เลย เราก็รู้สึกเริ่มสนใจและ เอ๊ ดิฉันไปทำไรผิดมานิ พอเราขอให้เค้าช่วยอธิบายเราให้มันดีๆ เค้าก็มีมาแซะเราว่าเราหยาบคายกับเค้าก่อน เราจึงบอกว่าคอลเซ็นเตอร์มันเยอะ (แค่ตอนที่คุณพูดมามันก็คอลเซ็นเตอร์แล้ว)
จากนั้นเค้าก็เริ่มเล่าว่าเค้าเป็นร้อยตำรวจโทหญิงหรือไงนี่แหละ ได้มีการจับกุมแก๊งมิจฉาชีพ แล้วพบสมุดบัญชีที่มีชื่อเราอยู่ คนร้ายหรือนางสาว... ซักทอดมาว่าซื้อมาจากคุณในราคา 50,000 บาท แต่คือเราไม่เคยเปิดบัญชีธนนาคารนี้ไง เราเลยถามต่อ แค่มีบัตรประชนมันเปิดบัญชีไม่ได้นี่ค่ะ เค้าเลยบอกเราว่าเคยเปิดบัญชีออลไลน์มั้ย เราบอกว่าเคย เค้าก็บอกว่าข้อมูลหลุดมาจากตรงนั้นแหละ
ตอนแรกเรายอมรับว่าเราเริ่มงอแงน้ำตาเริ่มมา (เราเป็นคนอ่อนไหวง่าย รู้ทั้งรู้พยายามแก้แล้วแต่น้ำตามันก็ยังไหล) เค้าให้เราจดหมายเลขคดี ชื่อคนทำผิด ชื่อตัวเค้าบลาๆๆ แล้วให้เราถือสายรอไว้เพื่อคุยกับอีกคนแล้วระหว่างทางห้ามวางสายนะ (คือก่อนหน้านนี้เรากดวางสายไปครั้งนึง เค้าเลยย้ำเรา) แล้วให้พูดเหมือนที่เค้าบอกกับเรา ประเด็นคือระหว่างรอสายมีเสียงรอสายแบบนี้ด้วยนะ "หากคุณพบตำรวจที่กระทำผิดหรือมีอะไรที่ไม่น่าวางใจกรุณากด 191" เป็นเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ดู ดูมันเล่นไม้นี้เลย พยายามหลอกให้เราเชื่อ พอฟังตรงนี้ปีบเราหยุดร้องเลย มันไม่ใช่อ่ะพี่ มันไม่ใช่ นี่มันคอลเซ็นเตอร์ แต่เผอิญว่าถึงจะหยุดร้องแล้วแต่ช่วงสะอื้นเพราะหายใจไม่ทันยังอยู่ เลยเป็นเสียงแบบฮึกๆ เหมือนคนร้องลองไห้
เราที่ทนฟังมาขนาดนี้แล้วก็อยากฟังจนจบ ที่นี้พอสายติดคนรับคือผู้ชายเค้าก็บอกเราว่าเราต้องมาสน.ชุมพร หรือหาดใหญ่เนี่ยแหละให้มาแสดงตัวว่าเราไม่ได้กระทำผิด เราเลยแกล้งบอกเค้าว่าเราไม่สะดวกขอไปคุยและแจ้งความที่สน.ใกล้บ้านและกัน เค้าเลยบอกว่าได้ครับ แต่ทางสน.ผมจะส่งหมายศาลให้คุณ แต่ถ้าคุณให้ความร่วมมืออีกนิด คุณแค่ไปที่ไลน์แล้วยืนยันตัวตน.... ชัด ชัดและ โป๊ะมาก
บังเอิ๊ญ บังเอินมันเป็นช่วงที่เราหายใจไม่ทันเพราะร้องให้ก่อนหน้านี้ เค้าเลยถามเราว่าร้องไห้ทำไมครับ มีอะไรบอกเค้าได้ และแล้วเราก็นึกแผนอะไรได้ ก็เลยนึกเรื่องเศร้าที่สุดที่คิดออกนะตอนนั้นในหัว น้ำตาก็เริ่มไหลอีกครั้ง
พี่คะพี่จะแจ้งจะส่งหมายศาลอะไรมาก็ได้หมดเลยค่ะ หนูขอไปยืนยันตัวตนที่สน.ใกล้บ้านเองดีกว่า ถ้าหนูต้องไปที่ชุมพรจริงๆ หนูจะให้ ฮึก พ่อกะแม่ที่เดินแทบไม่ไหวไปส่งเองค่ะ หนูไม่สามารถเชื่อพี่ได้ค่ะ หนูเคยเกือบฆ่าตัวตายมาแล้วเพราะโดยคอลเซ็นเตอร์หลอก เค้าเลยถามเราว่าน้องเคยโดยหลอกอะไรเล่าให้ฟังได้ เราก็แบบ...ควรตอบไงดี เราเลยเงียบไป
เค้าเลยถามเราอีกครั้งว่าน้องมีไลน์มั้ย เราจึงกลับมาสะอื้นแล้วบอก ไม่มีค่ะพี่ แล้วในตอนที่เรากำลังจะบอกเค้าว่า "ไอ้พวกที่หลอกลวงคนอื่นมันเลวมากจริงๆค่ะ ขอให้ไอ้พวกที่หลอกลวงคนอื่นแบบนี้ มัน.." ก็คือจะด่านั่นแหละ แต่ยังไม่ทันพูด มันดันวางสายซะก่อน...จบกันแผนเรา กะจะแช่งเนียนๆ ให้ความสำนึกผิดบาปของมันก่อขึ้นในใจหน่อย
สุดท้ายเราเลยขอให้คนรู้จักช่วยไปแจ้งความแทนหน่อยเพราะเค้าอยู่ใกล้แล้วเราก็ไม่สะดวกเดินทางไปเอง และเรื่องนี้ทำให้เราได้รับความรู้ดังนี้
1. ถ้าคนที่เราไม่รู้จัก โทรมาและเรากดวางสาย แล้วคนที่โทรมาอีกรอบยังเป็นคนเดิมแต่เบอร์เปลี่ยนไปให้ฉุกคิดไว้ก่อนเลยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคอลเซ็นเตอร์ เพราะมันจะมีเครื่องที่ใช้สร้างเบอร์โทรเรื่อยๆ
2. หากเราได้รับหมายศาล จะมีตำรวจในท้องที่ใส่เครื่องแบบมาส่งให้เราถึงบ้านเอง ไม่มีโทรมาแล้วบอกให้เรากรกข้อมูลเราในไลน์ แบบนี้คือคอลเซ็นเตอร์แน่ๆ
3. หากเราถามย้ำๆ วนๆแล้วให้การไม่เหมือนเดิม แสดงว่าใช่แน่ๆ (ตอนแรกบอกสน.สุพรรณ ไปมาๆ ชุมพร ซักพักระยอง สรุปตูต้องไปที่ไหน)
เพราะประสบการณ์การโดนหลอกครั้งแรกทำให้เราพอมีภูมิต้านทานเรื่องนี้อยู่บ้าง แม้ตอนแรกๆจะยังวิตกกังวล แต่เมื่อฟังที่มิจฉาชีพพูดแล้วฉุกคิดไปเรื่อยๆก็จะรู้เท่าทันของมันได้ค่ะ(ด้วยความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆเรื่อง)
หวังว่าประสบการณ์ของเราจะทำให้เพื่อนๆชาวพันทิปเข้มแข็งและรู้เท่าทันกลโกงของพวกมิจฉาชีพพวกนี้นะคะ ที่จริงยังมีเคสศึกษาอีกมากที่ใครหลายคนเคยโดนและต้องประสบความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคืออย่างพึ่งกลัวไปเองนะคะ เพราะนั่นคือสิ่งแรกที่มันต้องการจากเราค่ะ ถ้าเค้าพูดอะไรที่เป็นการบังคับไม่ให้เราไปปรึกษาคนอื่น บอกเลยค่ะพี่ๆสามารถปรึกษาได้ค่ะ ทุกคนมีทางเลือก อย่าให้ความกลัวจากใครที่ไหนไม่รู้มาปิดทางเลือกเราค่ะ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวข้องกับกฏหมาย โทรเลยค่ะ 191 ถามคนในสายนี้ให้ชัดค่ะว่าสิ่งที่คุณประสบอยู่ตอนนี้ คือมิจฉาชีพหรือไม่
ส่วนเรายังคงตองฝึกเรื่องจิตใจต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ และฝากเตือนภัยไปยังคนรู้จักของพวกคุณด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ