[CR] มหากาพย์รีวิว เที่ยวยุโรป 1เดือนครึ่ง แต่ได้เชงเก้นมาแค่ 35 วัน

จะมารีวิวที่คิดว่าคงได้เขียนยาวแบบยาวมากๆ แน่
คือเราเพิ่งไปยุโรปมา 44 วัน เอาจริงๆ รวมตั้งแต่ออกจากไทย ก็คือ 47 วัน
แผนการเดินทาง ตอนแรกคิดไว้ว่าจะไปหลักๆ คือฝรั่งเศส อิตาลี โครเอเชีย เยอรมัน และออสเตรีย แต่มีเหตุต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

ตอนแรกก็คิดเล่นๆ ว่าเออ ไปยุโรปเล่นๆ สักเดือนดีไหมนะ คิดไปคิดมาก็เลยไปชวนเพื่อนไปกัน รอบนี้ไป 4  คน นอน 2 ห้อง สะดวกดี ตั้งใจจะไปหลังสงกรานต์ เพราะงานที่ทำสะดวกช่วงนั้นก็เลยว่าเอาวะไปช่วงนี้แหละ 

วางแผนจะทำวีซ่ากันตั้งแต่เดือน 1 แต่ผลัดไปผลัดมา จนทำวีซ่าจริงๆ ต้นเดือน 3 ซึ่งถือว่าช้ามาก เพราะว่า..
อย่างที่รู้กันดีว่ายุโรป ยิ่งจองเร็วยิ่งมีโอกาสได้ของถูก ทั้งตั๋วเครื่องบิน และที่พัก ไหนจะการเดินทางข้ามเมืองอีกล่ะ
ตั๋วเครื่องบินตั้งแต่ที่เล็งสิงคโปร์แอร์ไลน์ไว้ ราคา 22500 บาทไปกลับปารีส มันก็ขึ้นไปเรื่อยๆๆๆๆ จนราคาเป็น 4หมื่นกว่าบาท 
แม้แต่สายการบินจีนก็ราคาไปไกลมากแล้ว ก็เราจองช้าเองอะนะ

แต่ก็นั่นล่ะยุ่งเรื่องงานหลายอย่าง แถมสิ่งที่ตัดสินใจทำก็คือ
ได้คิววีซ่ามาต้นมีนาคม พอจะใกล้วันจะยื่นมีงานด่วน เราต้องไปตุรกีกะทันหัน เลยไปยื่นไม่ได้ ให้เพื่อนยื่นไปก่อน 3 คน จากฝรั่งเศส 
ซึ่ง 3 คนนี้
คน 1 เคยไปอิตาลี 2 หน เมื่อ 7ปีก่อน
คน 2 เคยไปสเปน 1 หน เมื่อ 8 ปีก่อน
คน 3 ไม่เคยไปยุโรป 
ส่วน จขกท. ไปยุโรปมาแล้วเกิน 20 หน (แต่ได้วีซ่านานสุด 3เดือนเท่านั้น)

ทำแผนการเดินทางอย่างละเอียดไป ขอวีซ่า 30 วัน โดยในแผนการเดินทางนั้นใส่ว่าไปฝรั่งเศส สวิส เยอรมัน ออสเตรีย อีตาลี แล้ววกกลับมาฝรั่งเศสจบทริป ปรากฏว่า วีซ่าได้มาแบบมัลติเพิล เข้าได้ 45 วัน ภายใน 60 วัน
จขกท. ก็เอาวะ เพื่อนเราได้มาดีขนาดนี้ ก็เลยจองตั๋วเครื่องบินกันเลย
ทุกคนลงมติว่าไปให้เต็มโควต้าไปเลย
บินวันที่ 23เมษายน จากสิงค์โปร์ ลง ปารีส 
กลับวันที่ 5 มิย. จากเวียนนา (ถึงกทม.6มิย.) รวมเข้าเขตเชงเก้น 44 วัน เหลือไว้เผื่อตกเครื่องวันนึงพอ ถือว่ารอบคอบดีงามแล้ว

จากนั้น หลังจากเสร็จจากงานที่ตุรกี กลับมา จขกท. ก็ตามไปยื่นวีซ่าฝรั่งเศสด้วยแผนการเดินทางเดิมที่ขอไป 30 วัน พร้อมแนบประวัติของอีก 3 คนที่ไปด้วยกันไปด้วย กะว่ายังไงๆ สถานทูตคงให้วีซ่ามาเหมือนๆ กันนั่นล่ะ ก็ไปด้วยกันไปกลับพร้อมกัน ทุกอย่างเหมือนกันหมด

วันที่ได้วีซ่ามาก็คือชอค.. ได้วีซ่ามา 35 วัน ใน 60 วัน มัลติเพิล..
แต่ตั๋วฉันมันคือเข้าเชงเก้น 44 วัน ขาดอีก 9 วันทำไงดีละเนี่ย..

ข้อแรก ความผิดเรานี่ละ ประมาท ตอนตัวเราไปยื่นวีซ่า ก็ควรทำแผนการเดินทางใหม่ ให้สอดคล้อง ให้มัน 45 วัน ไม่ใช่ 30 ดังนั้นเราต้องแก้ปัญหา เราจะคิดเอาเองว่าสถานทูตจะให้วีซ่าเท่าๆ กันทั้งแก๊งมันไม่ได้..

หลังจากปวดหัวหนักมากอยู่ 2 วัน ก็หาวิธีได้
จริงๆ มีแค่ 2 ทาง
1. คือ เลื่อนตั๋ว แต่ต้องเสียเงินเพิ่มราวๆ 6000 บาท ซึ่งเราตั้งใจจะไปแบบประหยัดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเลี่ยงได้เราก็จะเลี่ยง
2. ไปที่อื่นแล้วกลับเข้าเชงเก้นใหม่

ที่อื่นในที่นี้ก็คือ.. ประเทศแถวๆ นั้น
เช่น สมมติ เราเข้าเชงเก้นก่อนสัก 10 วัน แล้วเราบินไปประเทศที่พาสปอร์ตไทยเข้าได้เลย สัก 9 วัน แล้วกลับเข้ามาเชงเก้นต่ออีก 25 วัน รวมทั้งหมดก็ เที่ยวได้ 35 วันในเชงเก้น และ 45วันตลอดทั้งทริปที่ตั๋วเครื่องบินเราจองไว้พอดีนี่นา.. เพื่อนๆ ที่มีวีซ่า 45 วัน ต่างก็ลงมติกันว่า ไปไหนไปกัน จะไปที่ไหนก็คิดมา เราไปด้วยกันทั้งคณะนี่ละ
แล้วจะไปไหนดี..

ขั้นแรกนึกถึง ตุรกี- ก็เข้าท่าดีนะ จากยุโรปบินไม่ไหว ตั๋วไม่ค่อยแพงด้วย แต่ข้อเสียคือเราเคยไปแล้ว หลายรอบ และเพิ่งไปมาเมื่อเดือน 2 ที่ผ่านมานี่เอง
จอร์เจีย - เอาน่าสนใจดี ยังไม่เคยไป คนไทยไปแล้วบอกว่าสวย ฟีดแบคดี แต่ข้อเสียคือตั๋วเครื่องบินจากยุโรปไปจอร์เจียหายาก มีน้อยและแพงมาก
อีกอย่างหนึ่ง เคยคิดว่าวางแผนไว้ว่าถ้าเราจะไปจอร์เจีย มันจะลงเอยด้วยการทำทริปยาว จอร์เจีย อาเมเนีย อาเซอไบจาน ดังนั้น เงฃา 9 วันน่าจะไม่พอ

ต่อมาก็เลยมานึงถึงประเทศที่มีเชงเก้นก็เข้าได้ แต่ไม่ใช่กลุ่มประเทศเชงเก้น..
เหมือนหลอดไฟปิ๊งขึ้นมาบนหัว โรมาเนียกับบัลแกเรีย ไง อยากไปมานานแล้วนี่..
แต่.. อกหักอีกรอบ เพราะทันทีที่เสริช (เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา) พบว่า 2 ประเทศนี้กำลังจะให้ใช้เชงเก้นวีซ่า แปลว่าการเข้า  2ประเทศนี้วันในเชงเก้นจะถูกนับด้วย ดังนั้น ไม่ได้แล้ว..

และในที่สุดเราก็เจอจุดหมายปลายทางที่เราไม่เคยคิดว่าจะได้ไปเร็วๆ นี้
นั่นก็คือ ประเทศแถบบอลข่านทั้งหลาย ทุกประเทศยอมรับผู้ถือวีซ่าเชงเก้น มัลติเพิลที่ยังไม่หมดอายุสามารถเข้าประเทศได้ในระยะสั้น

เหมือนเห็นแสงสว่างปลายอุโมง จากที่เตรียดมากว่าจะต้องเสียเงินเลื่อนตั๋วจริงๆ หรอ กลายเป็นเหมือนความท้าทายใหม่ที่เราจะพาตัวเองไปที่นั่น

สรุปเราลงเอยที่ 3 ประเทศนี้ คือ แอลเบเนีย, มอนเตเนโกร และ เซอร์เบีย 
ทั้งที่ลังเลมากๆ ว่าอยากไปบอสเนีย มากๆ ตามประสาคนชอบประวัติศาส ชื่อของกรุงซาราเจโว กับกรุงเบลเกรดนั้น น่าหลงไหลพอๆ กัน ในแง่สถานที่ทางประวัติศาสตร์ แล้วไหนจะพื้นที่ของโคโซโว กับนอร์ทมาซิโดเนีย อีก น่าสนใจมากๆ แต่เราต้องเลือก เรามี 9 วัน เราจะไปหมดนี่ไม่ได้

ที่ไม่เลือกบอสเนียเพราะ ซิมโรมมิ่งของไทยทุกเจ้าไม่รองรับ การเที่ยวในปี 2024 โดยไม่มีกูเกิ้ลแมพนั้นมันทรมานเกินไป
ที่ไม่เลือกโคโซโวเพราะ เคยเห็นคนมีปัญหากับการเข้าเซอร์เบีย หากคุณเข้าโคโซโวมาก่อน
ที่ไม่เลือกนอร์ทมาซิโดเนีย เพราะเสริชดูแล้วยังไม่พบอะไรน่าดึงดูด ในแง้สถานที่ทางประวัติศาสตร์

สุดท้ายหลังจากปวดหัวตึ้บ อยู่หลายวันเราก็ได้แผนการเดินทางดังนี้

ลืมเล่าไป เราต้องบินไปสิงคโปร์ก่อน เพราะช่วงเดือนมีนาคมที่เราจองตั๋วนั้น (บินปลายเมษา เท่ากับจองก่อนบินแค่เดือนเดียว) ตั๋วไปยุโรปแพงมากๆ ทุกเมือง ไม่ว่าเราจะพยายามเปลี่ยนเมืองสักกี่แห่งก็ไม่เจอตั๋วราคาดีๆ เลย ตั๋วถูกสุดที่หาได้คือเกิน 32000 บาททั้งหมด สายการบินจีน, สายการบินแขกแปลกๆ ก็ไม่มีตั๋วราคาดี จนเราเสิรชเจอ เตอกิชแอร์ไลน์ โดยที่ ขาไป เป็น สิงคโปร์-ปารีส ขากลับ เวียนนา-กทม. ราคารวม 25000 บาท และเราซื้อตั๋วเที่ยวเดียว จากกทม-สิงคโปร์ สายการบินมาเลย์เซียแอร์ไลน เพิ่มอีก 1 ขา ราคา 2400บาท และใช่ แม้จะบินไปแค่สิงคโปร์แต่เราต้องต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ก็ทำไงได้ มันถูกสุดนี่ แม้แต่แอร์เอเชียตอนนั้นก็ขาเดียว 2900ยังไม่รวมกระเป๋าเลย

สรุปว่าเราได้ตั๋วมาในราคา 25000+2400 เท่ากับ 27400 บาท กับการแวะเที่ยวสิงคโปร์อีก 1 คืน


นี่คือหอไอเฟลรอบที่ 5 ของเรา แต่จะบอกว่าเป็นรอบที่ไอเฟลสวยน้อยที่สุด เพราะว่ารอบๆ นั้นเต็มไปด้วยการก่อสร้างเพื่อต้อนรับโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึง

แผนการเดินทาง อาจจะดูงงๆ หน่อยนะคะ เพราะ..
เราเคยไปยุโรปมาแล้วเป็นสิบรอบ เราเป็นคนจัด เป็นคนวางแผนก็ทำแบบที่เราอยากทำค่ะ ดังนั้น คงไม่ต้องถามนะคะ ทำไมไปอิตาลีแล้วไม่ไปเวนิส, อยู่โรมแปปเดียวเองหรอฯลฯ อะไรทำนองนี้ คือเราไปหลายรอบแล้ว ประเทศดังๆ ในยุโรป เราเก็บเกือบหมดแล้ว ก็เลยวางแผนการเดินทางแปลกๆ หน่อย

แผนการเดินทางดังนี้
วันที่ 1-2 ไปสิงคโปร์
ค่ำๆ วันที่ 2 ไปสนามบิน เพราะว่าเราบินไฟล์ท 04.00 น. ของวันที่ 3 ดังนั้นเราจะต้องเชคอินประมาณ ตี 1 จึงลงเอยด้วยการไปนั่งสัปหงกที่สนามบินสิงคโปร์
วันที่ 3 ขึ้นเครื่องตี 4 เปลี่ยนเครื่องที่อิสตันบลู ถึงปารีสประมาณ 4โมงเย็น เข้าที่พัก
วันที่ 4 เที่ยวปารีส
วันที่ 5 ปารีส
วันที่ 6 Strasbourg นอน 1 คืน
7 ไปLucern
8 เที่ยวลูเซิร์นอีกวัน แล้วตอนดึกๆ ไปขึ้นรถ Flixbus ไปปิซา โดยเปลี่ยนรถที่มิลาน / ไม่มีค่าที่พัก
9 เช้ามื้อเที่ยวมิลาน ได้รูปหน้าดูโอโม่แบบไม่มีคน แล้วต่อรถไฟถึงปิซ่ราวๆ บ่ายสอง เที่ยวหอเอน / นอนปิซา 2 คืน
10 Cinqueterre ไปเช้ากลับเย็นจากปิซา
11 เช้าไป Florance เดินเล่น แล้วต่อรถไฟไป Rome นอน 2คืน
12 เที่ยวโรม
13 เที่ยวโรม ตอนค่ำไปสนามบิน Ryan air ไปแอลเบเนีย 2 คืน
14 - 15 Tirana Albania
16 เช้านั่งรถไป Podgorica มอนเตเนโกร ถึงราวก่อนเที่ยง
17เที่ยวเมืองเช้ากลับเย็น Kotor - Montenegro
18 เก็บตกเมืองpodgorica อีกวัน ค่ำๆ ไปท่ารถ นั่งรถบัสไปเบลเกรด ค้างคืนบนรถ
19-20 Belgrade,
21 ไปNovisad - Serbia ไปเช้ากลับเย็น
22 เก็บตกเบลเกรดวันสุดท้าย
23 เช้านั่งรถไป Zagreb ถึงบ่ายโมง เที่ยวตัวเมือง
24 ไปอุทยานแห่งชาติพลิวิเช่ เช้ากลับเย็น แบบนั่งบัสไปเอง
25 รถไปSplit นอน 1 คืน
26 Dubrovnik - Croatia 1 คืน
27 ดูบรอฟนิกอีกวัน ตอนเย็นบินไรอั้นแอร์ไปโปแลนด์ต่อ
28 Krakow - Poland เดินเที่ยวตัวเมือง
29 ไปพิพิธภัณฑ์ โรงงานของชินเลอร์ และเหมืองเกลือที่ใหญ่สุดฝนโลก
30 ไปค่ายกักกันเอาท์วิช แบบนั่งรถทัวร์ไปเอง เช้ากลับเย็น
ตอนค่ำไปสถานีรถไฟออก 4 ทุ่ม เพื่อไปมิวนิค
31 ถึงMunich ตอนสายๆ หมดแรง เดินเที่ยวตัวเมืองได้นิดหน่อย
32 ไปsalzburgเช้ากลับเย็นจากมิวนิค เพราะตั๋ว 49 ยูโร ครอบคลุมขึ้นได้เลย
33 ไปนอยชไวน์สไตน์ แบบเช้ากลับเย็น
34-38 อยู่มิวนิค เนื่องจากแวะมาหาญาติ ปล่อยเพื่อนรวมแก๊งไปเที่ยวที่อื่น
39 ไป rosenham เช้ากลับเย็น
40 ไป chiemsee เช้ากลับเย็น
41 regenberg เช้ากลับเย็น
42 ไปเอาท์เลงที่อยู่นอกเมืองสตุทการ์ท
43 ไป innsbruck แบบเช้ากลับเย็น โดยรถบัส
44นั่งรถจากมิวนิคไปเวียนนา
45vienna - Austria
46 ไปสนามบิน
47 ถึงกทม


นี่คือวิวกลางเมืองลูเซิร์น

ค่าใช้จ่าย 
ค่าเครื่องบิน MH 2400+Turkish airlins 25000 + ryan air 8000
Flixbus นั่งทั้งหมด 9 ครั้ง ราคารวมประมาณ 7000 บาท
ค่าที่พัก เนื่องจากเราไป 4 คน และส่วนมากพักอพาร์ทเม้น จึงมีค่าที่พักค่อนข้างถูก แต่ต้องใช้ห้องน้ำ1ห้อง 4 คนอะนะ บางแห่ง ตกคืนละ 20 ยูโรต่อคน บางแห่งคืนละ 60 ยูโรต่อคน และเรามีที่พักฟรีที่มิวนิค จึงประหยัดตรงนี้ลงไปทั้งสิ้น 10 คืนด้วยกัน เบ็ดเสร็จจ่ายค่าที่พักไปประมาณ 60000 บาท
ค่าอาหาร เนื่องจากนอนอพาร์ทเม้น จึงมีการทำอาหารกินเอง โดยเฉพาะมื้อเช้าทุกวัน และมื้อค่ำในบางครั้ง มื้อกลางวันกินร้านอาหาร ค่าอาหารกับค่ารถในแต่ละเมือง รวมค่าเข้าสถานที่ ใช้จ่ายเงินสด เราพกไปจ่ายรวมทั้งหมด 2000ยูโร 
ค่าวีซ่าและประกันการเดินทางรวมๆ ประมาณ 7000 บาท

เบ็ดเสร็จทั้งทริปจ่ายไปไม่ถึง 2 แสนบาท 

มิลานแบบไม่มีคนทำยังไง - ก็ไปตอน 7โมงเช้าสิคะ

สำหรับสัมภาระการเดินทาง เตอกิช ให้โหลดได้ ไม่เกิน2 ชิ้น รวมกันไม่เกิน 30 กิโลกรัม
ตลอดทริปก็คือ มีกระเป๋าลาก ขนาด 29 นิ้วคนละใบ กับเป้ 1 ใบ เท่านี้ ก็ลากใหญ่โตเหนื่อยพอควร แต่ก็สนุกดี
และได้พบว่าในหลายเมืองที่ไม่มีลิฟ ที่สถานีรถไฟเช่นปารีส มีคนใจดีที่เดินผ่านไปมา อาสามาช่วยเรายกกระเป๋าขึ้นลงบันได้ให้ตลอดทาง 
ผู้หญิงกับกระเป๋าใบใหญ่ไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น เราว่าเราไหวอยู่นะ

ส่วนเรื่องเงิน แลกไปแต่ยูโร ซึ่งตลอดเดือนครึ่งที่เราไปเงินไม่ลงเลย เรทอยู่ที่ 39.3-39.8 ตลอดทริป 
นับว่าโหดมาก แต่ไม่มีทางเลือก 


โบส์ถกรีกออโธดอกซ์ แห่งเมือง Podgorica ใหญ่โต สงบ และสวยงาม 


มุมวิวป้อมปราการจากดูบรอฟนิก แห่งเกมออฟโธรน

ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ก่อน
ถ้ามีคนสนใจ จะมาเล่ารายละเอียดทีละเมืองวันต่อวันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน..
ชื่อสินค้า:   เที่ยวยุโรป 45 วันแบบเตรียมตัวน้อย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่