คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
รายได้ของเจ้าของกระทู้ที่ได้รับจากการทำงานในฐานะที่ปรึกษา ถือเป็นเงินได้จากการรับทำงานให้ เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 ภายในวันที่ 8 เม.ย. ของปีถัดไป และหักค่าใช้จ่ายเหมาได้สูงสุดเพียง 100,000 บาท และหักค่าลดหย่อนส่วนตัวอีก 6 หมื่น ถ้ามีค่าลดหย่อนอื่นๆ ก็หักได้เหมือนเช่นตอนได้รับเงินเดือนประจำเลยครับ
ส่วนใหญ่ บริษัททั่วไปมักจะหักภาษี ณ ที่จ่ายของค่าที่ปรึกษาไว้ในอัตรา 3% ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะจริงๆ แล้วควรจะต้องหักในอัตราก้าวหน้า
พอหัก ณ ที่จ่ายไว้เพียง 3% ก็จะทำให้คุณมีภาระต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นในตอนยื่นภาษีปลายปี ก็อย่าลืมกันเงินบางส่วนไว้เสียภาษีด้วย
ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีของคุณ ถือว่ามีรายได้จากการให้บริการ ถ้ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี ก็ต้องจดเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วันนับแต่วันที่รายได้เกิน 1.8 ล้าน
วิธีดูว่ารายได้เกิน 1.8 ล้านหรือไม่ ให้ใช้เกณฑ์เงินสด เพราะรายได้บริการ tax point เกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระค่าบริการ
ทีนี้ พอจด VAT แล้ว คุณจะมีหน้าที่ที่สำคัญมากในฐานะผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ห้ามพลาดเด็ดขาด คือ หน้าที่ในการออกใบกำกับภาษีให้ตรงกับจุด tax point (ออกช้าไม่ได้เด็ดขาด แต่ออกก่อนได้) ดังนั้น วันที่ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร ถือว่าได้รับชำระเงินค่าบริการแล้ว tax point เกิดขึ้น คุณมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่มีข้อความครบถ้วนตามมาตรา 86/4 (1) - (8) ทันที การออกใบกำกับภาษี สามารถออกด้วยโปรแกรม Excel ทั้งฉบับก็ได้
หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือ การยื่นแบบ ภ.พ. 30 ทุกเดือน โดยต้องยื่นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือถ้าสมัครยื่นออนไลน์ ก็ขยายไปอีก 8 วัน คือไปยื่นภายในวันที่ 23
หน้าที่อื่นๆ ก็คือ การจัดทำรายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขายเป็นรายเดือน
ส่วนใหญ่ บริษัททั่วไปมักจะหักภาษี ณ ที่จ่ายของค่าที่ปรึกษาไว้ในอัตรา 3% ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะจริงๆ แล้วควรจะต้องหักในอัตราก้าวหน้า
พอหัก ณ ที่จ่ายไว้เพียง 3% ก็จะทำให้คุณมีภาระต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นในตอนยื่นภาษีปลายปี ก็อย่าลืมกันเงินบางส่วนไว้เสียภาษีด้วย
ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีของคุณ ถือว่ามีรายได้จากการให้บริการ ถ้ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี ก็ต้องจดเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วันนับแต่วันที่รายได้เกิน 1.8 ล้าน
วิธีดูว่ารายได้เกิน 1.8 ล้านหรือไม่ ให้ใช้เกณฑ์เงินสด เพราะรายได้บริการ tax point เกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระค่าบริการ
ทีนี้ พอจด VAT แล้ว คุณจะมีหน้าที่ที่สำคัญมากในฐานะผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ห้ามพลาดเด็ดขาด คือ หน้าที่ในการออกใบกำกับภาษีให้ตรงกับจุด tax point (ออกช้าไม่ได้เด็ดขาด แต่ออกก่อนได้) ดังนั้น วันที่ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร ถือว่าได้รับชำระเงินค่าบริการแล้ว tax point เกิดขึ้น คุณมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่มีข้อความครบถ้วนตามมาตรา 86/4 (1) - (8) ทันที การออกใบกำกับภาษี สามารถออกด้วยโปรแกรม Excel ทั้งฉบับก็ได้
หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือ การยื่นแบบ ภ.พ. 30 ทุกเดือน โดยต้องยื่นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือถ้าสมัครยื่นออนไลน์ ก็ขยายไปอีก 8 วัน คือไปยื่นภายในวันที่ 23
หน้าที่อื่นๆ ก็คือ การจัดทำรายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขายเป็นรายเดือน
แสดงความคิดเห็น
บุคคลธรรมดาจด VAT ต้องเสียภาษีอย่างไรครับ
ภาษีที่เกิดขึ้นแต่ละเดือนเป็นอย่างไรครับ และตอนปลายปียื่นแบบภาษีต้องใช้ ภงด อะไร และมีอัตราการเสียภาษีอย่างไรครับ รบกวนช่วยยกตัวอย่างคำนวณให้หน่อยครับ