..เมื่อเย็นวันก่อนที่ลูกสาวมาเยี่ยม นางก็ถามว่า .."หุ้นKBANK จะซื้อกลับได้หรือยังอ่ะพ่อ.."
..อาแปะก็ให้คำแนะนำไปกว้างๆว่า ราคาหลังปันผลก็ร่วงลงมาหลายบาทแล้ว บลาๆๆๆ พร้อมกับแนะนำราคาตั้งซื้อที่เหมาะสมไป..
..ลูกสาวอาแปะก็เป็นหนึ่งในรายย่อยจำนวนมากมายที่รอซื้อหุ้นอยู่นะครับ ความจริงนางก็มีเงินไม่มาก และอาแปะเชื่อว่ารายย่อยจำนวนมากก็มีเงินไม่มาก แต่เมื่อรวมๆกันทั้งประเทศ อาแปะว่าจำนวนเงินรวมของรายย่อยสุทธิก็มากโขอยู่..
..เงินรายย่อยในประเทศ อาแปะ
อนุมานจากจำนวนเงินฝากบัญชีออมทรัพย์รวมกับบัญชีเงินฝากประจำสามเดือน ทั้งประเทศก็ตกอยู่ราวๆ 14 ล้านล้านบาท..
....ในจำนวนเงินฝาก 14 ล้านล้านบาทนี้ สมมุติว่ามีรายย่อยต้องการแบ่งมาลงทุนกับหุ้นสัก 10% ก็น่าจะมีเม็ดเงินของรายย่อยมือใหม่รอซื้อหุ้นที่ 1.4 ล้านล้านบาท อันนี้ยังไม่รวมเม็ดเงินเทาๆที่ไม่รู้ตัวเลขนะครับ..
อาแปะอนุมานเรียกเงินส่วนนี้ว่า "
กองรายย่อย....นะครับ
...ส่วนอันนีคือขนาดกองทุนรวมทั้งหมดของไทย..มีมูลค่าสินทรัพย์ 4.6 ล้านล้านบาท..
..ส่วนอันนี้ คือขนาดสินทรัพย์ของ สนง.ประกันสังคม มูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท..
รวมสามกองในมโนทัศนของอาแปะมีเม็ดเงินราวๆ 8.5 ล้านล้านบาท ก็ประมาณครึ่งของGDP ประเทศไทย...หนะครับ
(กองรายย่อย1.4 ล้านล้านบาท + กองทุนรวมทั้งประเทศ 4.6 ล้านล้านบาท + กองประกันสังคม 2.5 ล้านล้านบาท)
....ทั้งหลายทั้งปวง อาแปะก็ไม่รู้ว่า เงินของกองทุนประกันสังคม กับเงินของกองทุนต่างๆไปจมอยู่ในหุ้นต่างๆและตราสารหนี้ต่างๆเท่าไหร่.? แต่ก็น่าจะหมุนเวียนอยู่ในตลาดทุนนี่แหละครับ...
....ด้วยขนาดเม็ดเงินระดับนี้ อาแปะจึงไม่กังวลใจเลยหากฝรั่งจะเทขายหุ้นไทย ..เพราะตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ อาแปะเชื่อว่ากองทุนต่างๆจะไม่ร่วมมือต่างชาติเทขายหุ้นแน่ๆ ก็จะมีซื้อบ้าง-ขายบ้างสลับกันไป ...เห็นด้วยไหมครับ.?
..อันนี้ยังไม่รวมเม็ดเงินสดของรายย่อยที่แช่อยู่กับโบรกเกอร์ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย อาแปะเองก็มีเงินสดแช่อยู่กับโบรกรอซื้อหุ้นอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ของอาแปะน้อยมากๆ ได้ดอกเบี้ยจากโบรกเดือนละไม่กี่บาทเอง...หนะครับ..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิ..
อาแปะลองรวบรวมมูลค่าสินทรัพย์ของกองเงินทุนต่างๆในประเทศแล้ว ไม่วิตกเลยหากฝรั่งจะเทหุ้นไทย..
..อาแปะก็ให้คำแนะนำไปกว้างๆว่า ราคาหลังปันผลก็ร่วงลงมาหลายบาทแล้ว บลาๆๆๆ พร้อมกับแนะนำราคาตั้งซื้อที่เหมาะสมไป..
..ลูกสาวอาแปะก็เป็นหนึ่งในรายย่อยจำนวนมากมายที่รอซื้อหุ้นอยู่นะครับ ความจริงนางก็มีเงินไม่มาก และอาแปะเชื่อว่ารายย่อยจำนวนมากก็มีเงินไม่มาก แต่เมื่อรวมๆกันทั้งประเทศ อาแปะว่าจำนวนเงินรวมของรายย่อยสุทธิก็มากโขอยู่..
..เงินรายย่อยในประเทศ อาแปะอนุมานจากจำนวนเงินฝากบัญชีออมทรัพย์รวมกับบัญชีเงินฝากประจำสามเดือน ทั้งประเทศก็ตกอยู่ราวๆ 14 ล้านล้านบาท..
....ในจำนวนเงินฝาก 14 ล้านล้านบาทนี้ สมมุติว่ามีรายย่อยต้องการแบ่งมาลงทุนกับหุ้นสัก 10% ก็น่าจะมีเม็ดเงินของรายย่อยมือใหม่รอซื้อหุ้นที่ 1.4 ล้านล้านบาท อันนี้ยังไม่รวมเม็ดเงินเทาๆที่ไม่รู้ตัวเลขนะครับ..
อาแปะอนุมานเรียกเงินส่วนนี้ว่า "กองรายย่อย....นะครับ
...ส่วนอันนีคือขนาดกองทุนรวมทั้งหมดของไทย..มีมูลค่าสินทรัพย์ 4.6 ล้านล้านบาท..
..ส่วนอันนี้ คือขนาดสินทรัพย์ของ สนง.ประกันสังคม มูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท..
รวมสามกองในมโนทัศนของอาแปะมีเม็ดเงินราวๆ 8.5 ล้านล้านบาท ก็ประมาณครึ่งของGDP ประเทศไทย...หนะครับ
(กองรายย่อย1.4 ล้านล้านบาท + กองทุนรวมทั้งประเทศ 4.6 ล้านล้านบาท + กองประกันสังคม 2.5 ล้านล้านบาท)
....ทั้งหลายทั้งปวง อาแปะก็ไม่รู้ว่า เงินของกองทุนประกันสังคม กับเงินของกองทุนต่างๆไปจมอยู่ในหุ้นต่างๆและตราสารหนี้ต่างๆเท่าไหร่.? แต่ก็น่าจะหมุนเวียนอยู่ในตลาดทุนนี่แหละครับ...
....ด้วยขนาดเม็ดเงินระดับนี้ อาแปะจึงไม่กังวลใจเลยหากฝรั่งจะเทขายหุ้นไทย ..เพราะตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ อาแปะเชื่อว่ากองทุนต่างๆจะไม่ร่วมมือต่างชาติเทขายหุ้นแน่ๆ ก็จะมีซื้อบ้าง-ขายบ้างสลับกันไป ...เห็นด้วยไหมครับ.?
..อันนี้ยังไม่รวมเม็ดเงินสดของรายย่อยที่แช่อยู่กับโบรกเกอร์ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย อาแปะเองก็มีเงินสดแช่อยู่กับโบรกรอซื้อหุ้นอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ของอาแปะน้อยมากๆ ได้ดอกเบี้ยจากโบรกเดือนละไม่กี่บาทเอง...หนะครับ..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิ..