เธอ.. ถ้าเธอโฟกัสผิดจุด เธออาจจะพลาดผู้ชายอย่าง "สรุจ จุฑาเทพ" ไปเลยนะ เรื่องอายุเอาไว้ก่อน

1. ฉลาด สุขุมนุ่มลึก มีเสน่ห์ ฐานะการเงินมั่นคง : ความผู้ดีแบบมั่งคั่ง คือ บุคลิกของสรุจ เป็นลูกคนเดียว หลานคนเดียวของวังอรุณรัศมิ์ คงไม่ต้องบอกความร่ำรวยของต้นตระกลูคุณสรุจหรอกนะ



2. พึ่งพาได้ : ทุกครั้งที่มีปัญหา สรุจคือแสงสว่างที่ปลายอุโมง พรชีวาหนีก็ช่วยตามหา ชีวันใจร้อนไปตามหาพี่สาวคนเดียวแต่ดันไปเจอนักเลงก็ได้สรุจเป็นคนมาช่วยไว้ทัน(ขนาดอยู่คนละเมืองไม่มี GPS สรุจก็หาเจอ ไหวพริบดีมากพ่อคุณ) ชีวันเล่นซนจนร่วงลงมาจากชะง่อนหินก็มีสรุจที่เข้ามารับไว้ทันจนไหล่หลุด ชีวันรู้สึกผิดที่ทำเขาเจ็บ แต่คุณสรุจก็ปลอบเพื่อไม่ให้รู้สึกผิด ด้วยคำพูดที่ชวนเขินหนักมาก "ไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะสิ่งที่ฉันได้รับ มันคุ้มค่าแล้ว" 

***คนอ่านถาม : ได้รับอะไรเหรอค่ะคุณสรุจ เพราะเท่าที่เห็นคือจ้องตา พูดหยอกล้อกัน***


3. สนับสนุนความฝันของเรา : เมื่อเราเรียนศิลปะ ก็พาไปดูพิธิภัณฑ์เกือบทั้งโรม ยังค่ะ ยังไม่พอ... ทวดอ่อนให้กลับเมื่อไทยเพราะวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง แต่... คุณสรุจไม่ให้กลับ อยากให้เรียนในสิ่งที่รัก จึงเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง คอยชื่นชมผลงาน เรานั่งอยู่ใกล้ตอนที่วาดภาพวิวสวยๆ นำภาพวาดที่ชีวันวาดภาพส่งมาให้แทนคำขอบคุณที่คุณสรุจซื้อกระดาษยี่ห้อดีที่ศิลปินดังนิยมใช้มาให้ ไปแขวนไว้บนผนังห้องรับแขกที่บ้านพักของคุณสรุจ

***เราสังเกตว่า ที่คุณสรุจพาชีวันไปปิคนิค ก็เพราะรู้ชีวันชอบวาดภาพวิวสวย ภาพที่ส่งมาให้ก็เป็นวิวซะส่วนใหญ่ ดังนั้น เมื่อชอบว่าวิวสวยๆ ก็พาไปที่สถานที่สวยๆให้วาดรูปได้ตามใจชอบ***



4. เอาอกเอาใจอยู่ห่างๆ : สปอยทุกอย่างแบบนักการฑูต งานบ้านไม่ให้ทำ (บอกว่าจ้างแม่บ้านมาแล้ว ถ้าไปทำ = ช่วยแม่บ้านไม่ได้ช่วยงานเขา) ทำอาหารฝรั่งและอาหารอิตาลีให้ทาน พาไปปิคนิคที่สวนสาธารณะ 
      เอาภาพที่เราวาดส่งมาให้ใส่กรอบติดไว้ที่ห้องรับแขก ไปทำงานเห็นสมุดวาดเขียนก็นึกถึงเราแล้วซื้อมาฝากด้วยนะ 
      สารพัดตั๋วที่ส่งมาให้ เพื่อให้ได้เที่ยวในที่ที่อยากเที่ยว(ซึ่งตอนนั้นทุกอย่างแพงเป็นสองเท่า พิษเศรษฐกิจไม่ได้มีผลต่อเงินในกระเป๋าสรุจ) ยอมในสิ่งที่ตัวเองถือมากๆในหลายๆเรื่อง 
      แม้กระทั่ง พักในโรงแรมที่ชีวันอยากใหัพัก เพียงเพราะชีวันไม่สบายใจถ้าเขาต้องสิ้นเปลื้องเพราะเธออีก (แต่ชีวันค่ะ คนนี้เขารวยมากนะ)
      ให้เก็บกุญแจบ้านไว้ และตอนที่ยืมกุญเเจรถเขาไปเปิดเอาของ สรุจให้เก็บกุญแจรถไว้เลย  (พูดเข้าใจง่าย คือ เขาไม่มีความลับ พื้นที่ส่วนตัวเข้ามาได้เต็มที่)
      เข้าใจผิดแค่ไหนก็ดูแลไม่ห่าง เเดดร้อนก็เอาหมวกตัวเองให้ใส่ ใส่ใจห่วงใยกลัวล้ม 
      

5. สอนให้คิดเสมอ : ทำผิดก็บอกว่า “ทุกการผิดพลาดให้เธอโตขึ้น” สอนในการมองคนว่า “คนที่ดีก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำเรื่องไม่ดี ส่วนควรไม่ดีก็ใช่ว่าจะทำเรื่องไม่ดีเสมอไป บางครั้งแค่ทำพลาด” เรียกว่า สอนเราได้ในทุกๆเหตุการณ์ที่เจอ และชื่นชมวิธีคิดของเราว่าเป็นเด็กฉลาด และจิตใจดี เป็นการชมต่อหน้าให้เรารู้ว่าเขาชมนะ
     

6. ถือตัวมาก : ไม่ใช่ใครที่จะไปสัมผัสเนื้อตัวของเขาได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่ใช้ญาติหรือคนสนิท สัมผัสทีรังสีเย็นชาแผ่กระจายออกมาจนอีกฝ่ายสะดุ้ง จนต้องเอามือออกทันที ดังนั้น เรื่องผู้หญิงคือไว้ใจได้ การนอกใจจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับเขาเเน่ เพราะเสียศักดิ์ศรี

    กับพรชีวา ยิ่งกว่ามวยคู่เอก เจอกันแต่ละทีไรไม่ฟาดฟันกันก็บุญแล้ว คนฉลาดถือตัวมาเจอกัน ยกกำลังสองได้เลยเรื่องความถือตัว ไม่มีใครยอมใครจริงๆ คนนั่งหน้าเชิด อีกคนก็พร้อมตอบโต้แบบนักการฑูต พูดแต่ละทีนี้แทบปรี๊ดแทน

  "ชีวันบอกให้ผมมาที่นี่เหมือนกัน แต่คนที่มากลับเป็นคุณ"
  "เป็นผู้หญิงไทย เล่นตัวไว้บ้างก็ถูกแล้ว"
  "อยากให้ผมพูดจริงเหรอ" 
  "ผมเป็นผู้ชายให้ผู้หญิงขนของจะดีเหรอ" 
   "เป็นพระเอกมีขอเสียไม่ได้เหรอ ผมเชื่อว่าคนเรามีสองด้าน มุมที่เป็นจริงกับมุมที่แสดงให้คนอื่นเห็น หรือคุณว่าไม่ใช่"

      ***ยกเว้น.....ชีวัน อะไรที่ถือ สรุจได้โยนทิ้งไปหมดแล้ว อะไรที่ทำกับชีวาก็ตรงข้ามหมดเช่นกัน ยอมให้นอนหลับซบไหล่ ทั้งอุ้มเข้านอน ตกใจขวัญเสียก็กอดคุณสรุจได้ แล้วคุณสรุจก็กอดตอบปลอบโยนเราด้วยนะ สิทธิพิเศษมีแค่ชีวันที่ได้รับ***
     

7. ใจเย็น : ไม่ว่าเราจะอยู่ในอารมณ์แบบไหน คุณสรุจใจเย็นคอยรับฟังเสมอ ไม่เคยเร่งรัด แต่นั่งรออย่างใจเย็น ถ้าร้องให้อยู่ก็ร้องให้พอ น้ำมูก น้าหู น้ำตาเลอะเสี้อเขา เขายังไม่ว่าอะไรเลย แค่นั่งรอ เราพร้อมพูดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั่นแต่นั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆนั่นแหละ

***ยกเว้น เรื่องที่เกี่ยวกับการเข้าใจผิดระหว่างเรา อันนี้เขาไม่ใจเย็นแน่ๆ เข้าใจผิดเรื่องพ่อของลูกพรชีวา สรุจเคลียร์จบภายในวันเดียว วันเดียวเท่านั้น ไม่รอ และไม่ปล่อยให้เข้าใจผิด***

***พฤติกรรมเปลี่ยน เขาก็รู้ ไม่ร่าเริ่งเหมือนเดิมก็ถามเหตุผลอย่างใจเย็น แต่ถ้าตอบไม่ตรงตามที่รู้สึกคุณสรุจก็จะไม่เย็นเหมือนกัน เคลียร์ให้ชัด***
    

8. ให้เกียรติ : ทั้งเล่มมีจูบแค่สองครั้ง และครั้งแรกที่จูบเพราะไปขอให้เขาแต่งงานกับพี่สาว และจูบตอนที่ชีวันยอมเป็นคู่หมั้นและพร้อมจะแต่งงานกับเขาแล้ว(แถมจูบจมูก+หอมแก้ม มาด้วย) แต่มีแค่นั้น แค่นั้นเลยจริงๆ

คุณสรุจกับชีวันมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองเยอะมาก แต่สรุจไม่ทำอะไรเกินเลย เขาเป็นสุภาพบุรุษมาก แต่ทั้งสองคนก็รู้กันดีแหละว่า “เราสองคนรักกันแล้วนะ” มองตาก็เข้าใจกันแล้วช่วงนั้น ซึ่งชีวันตกหลุมรักคุณสรุจหนักมาก แค่เห็นคุณสรุจเดิน ยิ้ม พูดคุย มีเสียงหัวเราะ ชีวันก็มีความสุข

     

9. แม้ว่าคุณสรุจจะหมั้นชีวันโดยที่ชีวันไม่รู้ : แต่ว่าสุดท้ายแล้ว ถ้าชีวันไม่อยากแต่งก็ยกเลิกได้ เขายอมรับทุกการตัดสินใจของชีวัน แต่... เดี๋ยวกันค่ะ คุณสรุจเป็นผู้ชายฉลาดมาก การหมั้นก็เหมือนการกำจัดคู่แข่งออกไปก่อน ให้ผู้หญิงโฟกัสแค่เรื่องเรียน  และตัวเองก็เปย์ชีวันแบบกระหน่ำตลอด 2 ปี เปย์เป็นล้านแล้วมานั่งรอให้ชีวันตัดสินว่าจะเลือกเขาเป็นสามีไหม (ถามตัวเองกันซิ ว่าไม่แต่งกับคุณสรุจจริงๆเหรอ)
     

10.หล่อและมีเสน่ห์ : รูปลักษณ์ภายนอกยังไงก็สำคัญ ยิ่งหนุ่มหล่อหน้าตาดี ลุคผู้ชายวัย 30 กว่าๆ มีเสน่ห์จริงๆนะ ซึ่งความหล่อของคุณสรุจทุกคนการันตี ชีวันยังบอก “หล่อไม่แพ้หนุ่มอิตาลี” ขนาดชีวาที่ไม่ค่อยชอบสรุจยังยอมรับว่าสรุจหล่อ คนในสถานฑูตก็รู้ว่าคุณสรุจหล่อมาก นอกจากความหล่อแล้วความสุภาพ มีมารยาทกับทุกคน แต่ความสุภาพก็แฝงไปด้วยความน่ากลัวนะ สุภาพแบบน่าเกรงขาม

ดังนั้น อายุที่ห่างกัน 14 ปี ไม่ใช่ปัญหา ถ้าจะพกคุณสมบัติมาขนาดนี้ เราพร้อมพับข้อจำกัดนี้ไว้ในลิ้นชักค่ะ 
     

นี่แหละคือคำตอบ สรุจคือสเปค

ขอบคุณข้อมูลเจ้าของทวิตนี้ที่อนุญาตนะคะ
https://x.com/booksufriends/status/1786796894670459105?s=61&t=Ddc44OYsPSUtPy6l8WzNFQ