setinvestnow.com/th/knowledge/article/82-investhow-setindex-rebound
เปิดอีก 1 ประเด็น
ตัวเล็งทำตลาดพังไวขึ้น ... หรือฟื้นไวขึ้น
กรณีศึกษา การต่อสู้กับ Short Sell จนเจ้าของกิจการ ล้มละลายเอง
Piggly Wiggly เป็นเครือข่ายร้านซูเปอร์มาร์เก็ตของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเปิดสาขาแรกในปี 1916 ที่รัฐเทนเนสซี และก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า Clarence Saunders พ่อค้าขายของชำชาวอเมริกัน
ที่สหรัฐอเมริกาในสมัยก่อนนั้น เมื่อลูกค้าจะมาซื้อของในร้านขายของ ส่วนมากลูกค้าจะต้องจดรายการสินค้าที่ตนเองต้องการซื้อให้กับพนักงาน แล้วพนักงานจะเดินไปในร้านเพื่อเอาสินค้ามาให้
ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้คุณ Saunders มองเห็นโอกาส ว่าร้านค้าที่ทำแบบนี้ จะมีต้นทุนในการบริหารร้านที่สูง เพราะต้องเสียเงินจ้างพนักงานหลายคนถ้าลูกค้ามาใช้บริการมาก
ดังนั้น เมื่อเขามาเปิดร้าน Piggly Wiggly
เขาจึงเปลี่ยนวิธีการขายแบบดั้งเดิมที่ร้านทั่วไปทำกันมานาน โดยการอนุญาตให้ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาช็อปปิงและหยิบสินค้าได้ด้วยตัวเองภายในร้าน
วิธีนี้ทำให้ร้านของเขามีต้นทุนในการดำเนินการต่ำกว่าร้านอื่น ๆ ขายสินค้าได้ถูกกว่าร้านอื่น ๆ จนทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการกันมาก และส่งผลให้ร้านของเขามีกำไรมากขึ้นไปด้วย
ด้วยแนวทางนี้ ทำให้คุณ Saunders
เปรียบเสมือนผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
ภายในระยะเวลาแค่ 5 ปี คุณ Saunders มีร้าน Piggly Wiggly ทั้งร้านของบริษัทเองและร้านแฟรนไชส์มากกว่า 600 สาขา กระจายไปทั่ว 40 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา
ความสำเร็จของ Piggly Wiggly ถือเป็น “ปรากฏการณ์”
จนทำให้ร้านขายของชำอื่น ๆ ได้เปลี่ยนมาใช้วิธีการเดียวกับ Piggly Wiggly
คือเป็น Self-serving Store หรือร้านค้าที่บริการตนเองตั้งแต่ในช่วงนั้นเป็นต้นมา
Piggly Wiggly ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ในปี 1922
และหนึ่งในเรื่องราวสุดคลาสสิกในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกากำลังเปิดฉากขึ้น..
แม้ธุรกิจของบริษัทจะไปได้ดีก่อนหน้านี้
แต่ในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กำลังซื้อของหลายคนเริ่มมีปัญหา
และร้านแฟรนไชส์ของ Piggly Wiggly หลายแห่งก็เริ่มขายไม่ดี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงเกิดข่าวแพร่สะพัดว่า กำไรของบริษัทจะลดลง
บรรดานักลงทุนก็คิดว่า มันถึงเวลาแล้วที่คนถือหุ้นตัวนี้อยู่ จำเป็นจะต้องขายหุ้น Piggly Wiggly ออกไป ก่อนที่ผลประกอบการของบริษัทจะแย่ลงในอนาคต
ส่วนคนที่ไม่มีหุ้น วิธีการที่จะทำกำไรจากหุ้น Piggly Wiggly ที่คาดว่าราคาจะลดลงในอนาคต
ก็คือการยืมหุ้นของคนอื่นมาขายก่อน ในตอนที่ราคาหุ้นยังสูงอยู่ แล้วค่อยมาซื้อคืนทีหลังเมื่อราคาปรับตัวลดลงมา ซึ่งทั้งหมดที่ว่านี้คือ กระบวนการ Short Sell..
หุ้นของ Piggly Wiggly เริ่มโดน Short Sell หนักขึ้น และราคาหุ้นก็เริ่มปรับตัวลดลง
คุณ Saunders ในฐานะเจ้าของบริษัท เขาไม่พอใจอย่างมาก กับกลุ่มนักลงทุนที่ทำการ Short Sell หุ้นของบริษัทเขา
เขาจึงหาวิธีต่อสู้ ด้วยการไปกู้ยืมธนาคารเป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,700 ล้านบาทในปัจจุบัน เมื่อปรับด้วยเงินเฟ้อ) แล้วเอาเงินไปซื้อหุ้น Piggly Wiggly เพื่อพยุงไม่ให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงไปมากกว่านี้
หุ้น Piggly Wiggly ถูกนักลงทุนทำ Short Sell จนราคาร่วงลงไปถึง 39 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
คุณ Saunders ใช้เงินที่กู้ยืมมาไล่ซื้อหุ้น จนราคาพุ่งไปถึง 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่หุ้นถูก Short Sell
เรื่องนี้ทำให้ในช่วงหนึ่ง เขาถือหุ้น Piggly Wiggly เป็นสัดส่วนสูงถึง 99% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท..
วิธีการที่คุณ Saunders ทำนี้ เรียกว่า “Short Squeeze”
ซึ่งเป็นการบีบนักลงทุน ให้เลิก Short Sell หุ้นของบริษัท
ตามเข้าไปอ่าน
https://www.longtunman.com/30488
Memphis, Tennessee
Its first outlet opened in 1916 in Memphis, Tennessee, and is notable as the first true self-service grocery store, and the originator of various familiar supermarket features such as checkout stands, individual item price marking and shopping carts. The company headquarters is in Keene, New Hampshire.
*** (ภาพ)
กางสถิติ SET Index ใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะฟื้นจากวิกฤต
setinvestnow.com/th/knowledge/article/82-investhow-setindex-rebound
เปิดอีก 1 ประเด็น
ตัวเล็งทำตลาดพังไวขึ้น ... หรือฟื้นไวขึ้น
กรณีศึกษา การต่อสู้กับ Short Sell จนเจ้าของกิจการ ล้มละลายเอง
Piggly Wiggly เป็นเครือข่ายร้านซูเปอร์มาร์เก็ตของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเปิดสาขาแรกในปี 1916 ที่รัฐเทนเนสซี และก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า Clarence Saunders พ่อค้าขายของชำชาวอเมริกัน
ที่สหรัฐอเมริกาในสมัยก่อนนั้น เมื่อลูกค้าจะมาซื้อของในร้านขายของ ส่วนมากลูกค้าจะต้องจดรายการสินค้าที่ตนเองต้องการซื้อให้กับพนักงาน แล้วพนักงานจะเดินไปในร้านเพื่อเอาสินค้ามาให้
ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้คุณ Saunders มองเห็นโอกาส ว่าร้านค้าที่ทำแบบนี้ จะมีต้นทุนในการบริหารร้านที่สูง เพราะต้องเสียเงินจ้างพนักงานหลายคนถ้าลูกค้ามาใช้บริการมาก
ดังนั้น เมื่อเขามาเปิดร้าน Piggly Wiggly
เขาจึงเปลี่ยนวิธีการขายแบบดั้งเดิมที่ร้านทั่วไปทำกันมานาน โดยการอนุญาตให้ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาช็อปปิงและหยิบสินค้าได้ด้วยตัวเองภายในร้าน
วิธีนี้ทำให้ร้านของเขามีต้นทุนในการดำเนินการต่ำกว่าร้านอื่น ๆ ขายสินค้าได้ถูกกว่าร้านอื่น ๆ จนทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการกันมาก และส่งผลให้ร้านของเขามีกำไรมากขึ้นไปด้วย
ด้วยแนวทางนี้ ทำให้คุณ Saunders
เปรียบเสมือนผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
ภายในระยะเวลาแค่ 5 ปี คุณ Saunders มีร้าน Piggly Wiggly ทั้งร้านของบริษัทเองและร้านแฟรนไชส์มากกว่า 600 สาขา กระจายไปทั่ว 40 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา
ความสำเร็จของ Piggly Wiggly ถือเป็น “ปรากฏการณ์”
จนทำให้ร้านขายของชำอื่น ๆ ได้เปลี่ยนมาใช้วิธีการเดียวกับ Piggly Wiggly
คือเป็น Self-serving Store หรือร้านค้าที่บริการตนเองตั้งแต่ในช่วงนั้นเป็นต้นมา
Piggly Wiggly ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ในปี 1922
และหนึ่งในเรื่องราวสุดคลาสสิกในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกากำลังเปิดฉากขึ้น..
แม้ธุรกิจของบริษัทจะไปได้ดีก่อนหน้านี้
แต่ในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กำลังซื้อของหลายคนเริ่มมีปัญหา
และร้านแฟรนไชส์ของ Piggly Wiggly หลายแห่งก็เริ่มขายไม่ดี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงเกิดข่าวแพร่สะพัดว่า กำไรของบริษัทจะลดลง
บรรดานักลงทุนก็คิดว่า มันถึงเวลาแล้วที่คนถือหุ้นตัวนี้อยู่ จำเป็นจะต้องขายหุ้น Piggly Wiggly ออกไป ก่อนที่ผลประกอบการของบริษัทจะแย่ลงในอนาคต
ส่วนคนที่ไม่มีหุ้น วิธีการที่จะทำกำไรจากหุ้น Piggly Wiggly ที่คาดว่าราคาจะลดลงในอนาคต
ก็คือการยืมหุ้นของคนอื่นมาขายก่อน ในตอนที่ราคาหุ้นยังสูงอยู่ แล้วค่อยมาซื้อคืนทีหลังเมื่อราคาปรับตัวลดลงมา ซึ่งทั้งหมดที่ว่านี้คือ กระบวนการ Short Sell..
หุ้นของ Piggly Wiggly เริ่มโดน Short Sell หนักขึ้น และราคาหุ้นก็เริ่มปรับตัวลดลง
คุณ Saunders ในฐานะเจ้าของบริษัท เขาไม่พอใจอย่างมาก กับกลุ่มนักลงทุนที่ทำการ Short Sell หุ้นของบริษัทเขา
เขาจึงหาวิธีต่อสู้ ด้วยการไปกู้ยืมธนาคารเป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,700 ล้านบาทในปัจจุบัน เมื่อปรับด้วยเงินเฟ้อ) แล้วเอาเงินไปซื้อหุ้น Piggly Wiggly เพื่อพยุงไม่ให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงไปมากกว่านี้
หุ้น Piggly Wiggly ถูกนักลงทุนทำ Short Sell จนราคาร่วงลงไปถึง 39 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
คุณ Saunders ใช้เงินที่กู้ยืมมาไล่ซื้อหุ้น จนราคาพุ่งไปถึง 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่หุ้นถูก Short Sell
เรื่องนี้ทำให้ในช่วงหนึ่ง เขาถือหุ้น Piggly Wiggly เป็นสัดส่วนสูงถึง 99% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท..
วิธีการที่คุณ Saunders ทำนี้ เรียกว่า “Short Squeeze”
ซึ่งเป็นการบีบนักลงทุน ให้เลิก Short Sell หุ้นของบริษัท
ตามเข้าไปอ่าน https://www.longtunman.com/30488
Memphis, Tennessee
Its first outlet opened in 1916 in Memphis, Tennessee, and is notable as the first true self-service grocery store, and the originator of various familiar supermarket features such as checkout stands, individual item price marking and shopping carts. The company headquarters is in Keene, New Hampshire.
*** (ภาพ)