ในฐานะที่ นักร้องสาว คริสติน่า อากีล่าร์ เป็นหนึ่งในตัวแม่ตัวมัมของชาว LGBTQIAN+ ที่เพิ่งจะได้เฉลิมฉลองเรื่องผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อวานนี้ แถมยังมีการหยิบเอาเพลงระดับตำนานอย่าง ‘ประวัติศาสตร์’ มาเป็นหนึ่งในเพลงที่ร่วมฉลองหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของกฎหมายไทย งานนี้เมื่อเจอหน้า คริสติน่า ในงานแถลงข่าวโครงการ Her Awards UNFPA THAILAND 2024 ที่ EmQuartier ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
กฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านแล้วในฐานะที่เป็นตัวแม่ของชาว LGBTQIAN+ มีความรู้สึกยังไงบ้าง?
“ก็อย่างที่ติ๊นาโพสต์ในสตอรี่ก็คือ มันเป็นเหมือนจุดหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่ามันไม่มีการยอมรับกลุ่ม ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น มันเป็นเหมือนจุดหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่ามันมีการยอมรับกลุ่ม LGBTQ นี้ แล้วติ๊นาเชื่อว่ามันจะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ตามมาเพื่อที่จะเป็นเหมือนกฎหมายเกี่ยวกับการปกป้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรสเท่าเทียมหรือเรื่องอื่น นาคิดว่ามันจะมีกฎหมายอื่นออกมาเพื่อที่จะซัพพอร์ตตรงนี้”
จริงๆ คนก็เฮกันมากเพราะรอมาหลายปี เราดีใจไปกับเขาด้วยไหม?
” ดีใจมากเพราะว่าติ๊นาก็ถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มน้องๆ พี่ๆ ที่เป็น LGBTQ นะคะ ก็มีการได้พูดคุยกันว่าจริงๆ แล้วการสมรสนี้บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นการคอนเฟิร์มตัวตนของเขา บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่อำนวยความสะดวกเวลาที่คู่ของเราบางทีไม่สบายหรืออะไรบางทีต้องรอพ่อรอแม่ คือแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนที่ให้ความสำคัญของการสมรสเท่าเทียมกันตรงนี้ แต่ว่ายังไงก็แล้วแต่มันเป็นสิทธิของทุกคนที่สามารถเลือกได้ว่าฉันอยากจะแต่งกับคนนี้หรือแต่งกับผู้ชายหรือแต่งกับผู้หญิง ติ๊นาคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้โลกเรามันเปลี่ยนแล้วก็ต้องเข้าเพลงประวัติศาสตร์นิดนึง (หัวเราะ) แต่เพลงนี้ถ้ามองย้อนไปมันแต่งมาเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วแล้ววันนี้มันถูกนำเอามาใช้ในการฉลองจริงๆ ก็ดีใจมากๆ ค่ะ เอาจริงๆ ติ๊นาเชื่อว่าสมรสเท่าเทียมจริงๆ แล้วมันเป็นเหมือนแค่อย่างหนึ่งที่จะยอมรับถึงตัวตนมากกว่า ติ๊นามองว่าบางคนอาจจะ ความสัมพันธ์ไม่เหมือนกันแต่อย่างน้อยไม่ทำให้เห็นว่าสังคมเรามีการเปลี่ยนแล้ว มีการพัฒนาหรือมีการให้ความสำคัญของคนกลุ่มนี้ อย่างติ๊นาทำงานเราดูแลคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มจริงๆ เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันชายหรือหญิงหรือกลุ่มไหนก็แล้วแต่ ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกชีวิตตัวเองว่า เขาอยากจะทำอะไร อยากจะเป็นอะไร หรือจะอยู่กับใคร เขาจะคบกับใครจะรักกับใคร มันคือสิทธิมนุษยชนจริงๆ นะคะก็ดีใจมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็แสดงความยินดีกับน้องๆ พี่ๆ ทุกคนด้วยค่ะ”
เพลงกลับมาเป็นไวรัลอีกครั้งแบบนี้จะมีเวอร์ชั่นพิเศษอะไรไหม?
“เวอร์ชั่นพิเศษหรอคะ (หัวเราะ) ในคอนเสิร์ตก็ยังร้องเพลงนี้อยู่นะ อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นเพลงโปรดของของติ๊นาด้วย เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราร้องเพลงนี้ จะค่อนข้างที่จะมีความสุขและอินกับเพลงนี้มากและดีใจมากๆ ขอบคุณมากๆ ที่ให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ฉลองวาระสำคัญ (เวลาเปิดเพลงนี้ก็จะมีพลัง?) ใช่ พลังให้กับตัวเองด้วยนะคะ พลังให้กับติ๊นาเองด้วยเวลาที่ทำงานหรืออะไรก็แล้วแต่มันเป็นเพลงที่ปลุกให้เราฮึดขึ้นมา“
รู้สึกยังไงที่มีคนเอาเพลงเราไปคัฟเวอร์เยอะๆ?
“ก็ดีใจนะ คนที่ดีใจมากกว่านั้นก็คือคนแต่งเพลงเพราะว่าเราเป็นคนถ่ายทอดแต่คนที่เขาทำเพลงเขาก็น่าจะดีใจมากๆ ที่เลือกเพลงเขามาค่ะ”
จะมีคอนเสิร์ตอีกเมื่อไหร่?
”คอนเสิร์ตเดี่ยวคงต้องพักก่อนค่ะตอนนี้ติ๊นาขึ้นคอนเสิร์ตทุกเดือนเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็เลยกำลังคิดว่าคอนเสิร์ตเยอะมากปีนี้ปีหน้าจะว่างไหม แต่ละช่วงที่เกิดขึ้นมันก็แตกต่างกันไปเพราะอย่างล่าสุดที่กำลังเตรียมอยู่ก็คือ เดอะ คลาสเสจ เดือนกรกฎา อีกทีนึงก็จะมี เฮอ คอนเสิร์ต เดือนกันยา แล้วก็จะมี แดนซ์อารีน่า เดือนตุลาเราก็จะมีอีกคอนเสิร์ตหนึ่งเดือนพฤศจิกาปีนี้เต็มแล้วค่ะไม่ไหวแล้ว อย่าพึ่งเบื่อนะคะ”
มีงานคอนเสิร์ตยาวขนาดนี้ต้องฟิตซ้อมตัวเองยังไงบ้าง?
“ก็ต้องดูแลสุขภาพนิดหนึ่งนะ ด้วยความที่เป็นภูมิแพ้ อย่างวันนี้ติ๊นามาก็เริ่มเสียงแหบแล้วเพราะว่าแพ้ฝุ่นก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ต้องออกกำลัง ดูแลรูปร่างอะไรหลายสิ่งหลายอย่างให้เราแข็งแรงที่สุด”
กังวลไหมช่วงนี้สภาพอากาศก็ไม่ค่อยดีด้วย?
“ใช่ค่ะ ช่วงต้นปีติ๊นาก็ค่อนข้างที่จะป่วยบ่อยนิดหนึ่ง จะเป็นเรื่องของภูมิแพ้อะไรนี่แหละ คุณหมอก็เลยให้อัดยาแก้แพ้เลย ทุกวันนี้ก็กินยาแก้แพ้ตลอด แล้วความที่เราเป็นภูมิแพ้, กรดไหลย้อน, ไซนัส เลยยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ คุณหมอบอกจริงๆ เราออกไปข้างนอกเจอคนเยอะๆ ก็ต้องใส่แมสก์เพราะว่าฝุ่นเยอะมากด้วยอากาศ ณ ปัจจุบันนี้มันไม่ค่อยบริสุทธิ์เท่าไหร่ ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองเช่นกันนะคะ”
#มติชนออนไลน์ #ChristinaAguilarFanPage
"ติ๊นา-คริสติน่า" ร่วมยินดีผ่านกม.สมรสเท่าเทียม ปลื้มใช้เพลง ‘ประวัติศาสตร์’ เฉลิมฉลอง...
ในฐานะที่ นักร้องสาว คริสติน่า อากีล่าร์ เป็นหนึ่งในตัวแม่ตัวมัมของชาว LGBTQIAN+ ที่เพิ่งจะได้เฉลิมฉลองเรื่องผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อวานนี้ แถมยังมีการหยิบเอาเพลงระดับตำนานอย่าง ‘ประวัติศาสตร์’ มาเป็นหนึ่งในเพลงที่ร่วมฉลองหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของกฎหมายไทย งานนี้เมื่อเจอหน้า คริสติน่า ในงานแถลงข่าวโครงการ Her Awards UNFPA THAILAND 2024 ที่ EmQuartier ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
กฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านแล้วในฐานะที่เป็นตัวแม่ของชาว LGBTQIAN+ มีความรู้สึกยังไงบ้าง?
“ก็อย่างที่ติ๊นาโพสต์ในสตอรี่ก็คือ มันเป็นเหมือนจุดหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่ามันไม่มีการยอมรับกลุ่ม ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น มันเป็นเหมือนจุดหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่ามันมีการยอมรับกลุ่ม LGBTQ นี้ แล้วติ๊นาเชื่อว่ามันจะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ตามมาเพื่อที่จะเป็นเหมือนกฎหมายเกี่ยวกับการปกป้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรสเท่าเทียมหรือเรื่องอื่น นาคิดว่ามันจะมีกฎหมายอื่นออกมาเพื่อที่จะซัพพอร์ตตรงนี้”
จริงๆ คนก็เฮกันมากเพราะรอมาหลายปี เราดีใจไปกับเขาด้วยไหม?
” ดีใจมากเพราะว่าติ๊นาก็ถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มน้องๆ พี่ๆ ที่เป็น LGBTQ นะคะ ก็มีการได้พูดคุยกันว่าจริงๆ แล้วการสมรสนี้บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นการคอนเฟิร์มตัวตนของเขา บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่อำนวยความสะดวกเวลาที่คู่ของเราบางทีไม่สบายหรืออะไรบางทีต้องรอพ่อรอแม่ คือแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนที่ให้ความสำคัญของการสมรสเท่าเทียมกันตรงนี้ แต่ว่ายังไงก็แล้วแต่มันเป็นสิทธิของทุกคนที่สามารถเลือกได้ว่าฉันอยากจะแต่งกับคนนี้หรือแต่งกับผู้ชายหรือแต่งกับผู้หญิง ติ๊นาคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้โลกเรามันเปลี่ยนแล้วก็ต้องเข้าเพลงประวัติศาสตร์นิดนึง (หัวเราะ) แต่เพลงนี้ถ้ามองย้อนไปมันแต่งมาเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วแล้ววันนี้มันถูกนำเอามาใช้ในการฉลองจริงๆ ก็ดีใจมากๆ ค่ะ เอาจริงๆ ติ๊นาเชื่อว่าสมรสเท่าเทียมจริงๆ แล้วมันเป็นเหมือนแค่อย่างหนึ่งที่จะยอมรับถึงตัวตนมากกว่า ติ๊นามองว่าบางคนอาจจะ ความสัมพันธ์ไม่เหมือนกันแต่อย่างน้อยไม่ทำให้เห็นว่าสังคมเรามีการเปลี่ยนแล้ว มีการพัฒนาหรือมีการให้ความสำคัญของคนกลุ่มนี้ อย่างติ๊นาทำงานเราดูแลคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มจริงๆ เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันชายหรือหญิงหรือกลุ่มไหนก็แล้วแต่ ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกชีวิตตัวเองว่า เขาอยากจะทำอะไร อยากจะเป็นอะไร หรือจะอยู่กับใคร เขาจะคบกับใครจะรักกับใคร มันคือสิทธิมนุษยชนจริงๆ นะคะก็ดีใจมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็แสดงความยินดีกับน้องๆ พี่ๆ ทุกคนด้วยค่ะ”
เพลงกลับมาเป็นไวรัลอีกครั้งแบบนี้จะมีเวอร์ชั่นพิเศษอะไรไหม?
“เวอร์ชั่นพิเศษหรอคะ (หัวเราะ) ในคอนเสิร์ตก็ยังร้องเพลงนี้อยู่นะ อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นเพลงโปรดของของติ๊นาด้วย เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราร้องเพลงนี้ จะค่อนข้างที่จะมีความสุขและอินกับเพลงนี้มากและดีใจมากๆ ขอบคุณมากๆ ที่ให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ฉลองวาระสำคัญ (เวลาเปิดเพลงนี้ก็จะมีพลัง?) ใช่ พลังให้กับตัวเองด้วยนะคะ พลังให้กับติ๊นาเองด้วยเวลาที่ทำงานหรืออะไรก็แล้วแต่มันเป็นเพลงที่ปลุกให้เราฮึดขึ้นมา“
รู้สึกยังไงที่มีคนเอาเพลงเราไปคัฟเวอร์เยอะๆ?
“ก็ดีใจนะ คนที่ดีใจมากกว่านั้นก็คือคนแต่งเพลงเพราะว่าเราเป็นคนถ่ายทอดแต่คนที่เขาทำเพลงเขาก็น่าจะดีใจมากๆ ที่เลือกเพลงเขามาค่ะ”
จะมีคอนเสิร์ตอีกเมื่อไหร่?
”คอนเสิร์ตเดี่ยวคงต้องพักก่อนค่ะตอนนี้ติ๊นาขึ้นคอนเสิร์ตทุกเดือนเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็เลยกำลังคิดว่าคอนเสิร์ตเยอะมากปีนี้ปีหน้าจะว่างไหม แต่ละช่วงที่เกิดขึ้นมันก็แตกต่างกันไปเพราะอย่างล่าสุดที่กำลังเตรียมอยู่ก็คือ เดอะ คลาสเสจ เดือนกรกฎา อีกทีนึงก็จะมี เฮอ คอนเสิร์ต เดือนกันยา แล้วก็จะมี แดนซ์อารีน่า เดือนตุลาเราก็จะมีอีกคอนเสิร์ตหนึ่งเดือนพฤศจิกาปีนี้เต็มแล้วค่ะไม่ไหวแล้ว อย่าพึ่งเบื่อนะคะ”
มีงานคอนเสิร์ตยาวขนาดนี้ต้องฟิตซ้อมตัวเองยังไงบ้าง?
“ก็ต้องดูแลสุขภาพนิดหนึ่งนะ ด้วยความที่เป็นภูมิแพ้ อย่างวันนี้ติ๊นามาก็เริ่มเสียงแหบแล้วเพราะว่าแพ้ฝุ่นก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ต้องออกกำลัง ดูแลรูปร่างอะไรหลายสิ่งหลายอย่างให้เราแข็งแรงที่สุด”
กังวลไหมช่วงนี้สภาพอากาศก็ไม่ค่อยดีด้วย?
“ใช่ค่ะ ช่วงต้นปีติ๊นาก็ค่อนข้างที่จะป่วยบ่อยนิดหนึ่ง จะเป็นเรื่องของภูมิแพ้อะไรนี่แหละ คุณหมอก็เลยให้อัดยาแก้แพ้เลย ทุกวันนี้ก็กินยาแก้แพ้ตลอด แล้วความที่เราเป็นภูมิแพ้, กรดไหลย้อน, ไซนัส เลยยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ คุณหมอบอกจริงๆ เราออกไปข้างนอกเจอคนเยอะๆ ก็ต้องใส่แมสก์เพราะว่าฝุ่นเยอะมากด้วยอากาศ ณ ปัจจุบันนี้มันไม่ค่อยบริสุทธิ์เท่าไหร่ ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองเช่นกันนะคะ”