ผมยังเชื่อว่าตลาดไทยเหมาะกับการเล่นเป็นรอบ มากกว่าถือยาวแบบสมัยก่อน
โดยรอบนี้จะขอนำเสนอหุ้นรายตัว ที่มีงบการเงินและstoryที่น่าสนใจให้ดูกันครับ
1.เป็นหุ้นรับเหมาแบบพิเศษเฉพาะทาง รับงานโครงการขุดเจาะน้ำมัน, ลูกค้าที่รับอยู่ตอนนี้คือTOP ที่ส่งงานมาให้เรื่อยๆ
2.จากงบQ1 และการให้ข่าวของผู้บริหาร พบว่าbacklogเข้ามาเรื่อยๆ และเป็นงานที่ได้ราคาค่อนข้างดี เพราะทางลูกค้าเคยให้เจ้าอื่นทำ และพบว่างานมีปัญหา เลยต้องส่งมาให้ทางบริษัทนี้ทำ
https://www.youtube.com/watch?v=rqfSwsEUOHU
3.บริษัทนี้ มักมีindicatorคือพวก สินค้าคงเหลือ หรือสินค้าเพื่อการผลิต ถ้าเริ่มสูง, แปลว่าเริ่มสต็อกเพื่อไว้ทำงานในไตรมาสถัดๆไป (เป็นแค่แนวโน้มไม่ใช่fact100%)
4.เทรดที่PE, PBVที่ต่ำกว่าค่าในอดีตช่วงที่ได้งานเยอะปี 2020-2021
5.บริษัทมีหนี้น้อย มีรายการเงินสดและเทียบเท่าประมาณ800กว่าล้าน หนี้สินหมุนเวียนประมาณ600กว่าล้าน ส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ2พันล้าน, งบQ1ที่ผ่านมามีเงินสดจากกิจการดำเนินงาน เข้ามาประมาณเกือบ400ล้าน
งบกระแสเงินสด
6.การรับรู้รายได้จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นไปจนเกือบงานจะจบ ซึ่งน่าจะส่งผลไปถึงต้นปีหน้า หรือประมาณQ1-Q2/2025 โดยคาดหวังว่าเป็นหุ้นแนวเติบโตระยะสั้น
RISK
งานไม่สามารถส่งมอบได้, ตลาดหุ้นไม่สนใจหุ้นแนวพวกนี้อีกแล้ว, สภาพคล่องที่น้อยเกินไป
S****A หุ้นรับเหมาพิเศษ ที่งบดูมีแนวโน้มน่าสนใจในปี2024
โดยรอบนี้จะขอนำเสนอหุ้นรายตัว ที่มีงบการเงินและstoryที่น่าสนใจให้ดูกันครับ
1.เป็นหุ้นรับเหมาแบบพิเศษเฉพาะทาง รับงานโครงการขุดเจาะน้ำมัน, ลูกค้าที่รับอยู่ตอนนี้คือTOP ที่ส่งงานมาให้เรื่อยๆ
2.จากงบQ1 และการให้ข่าวของผู้บริหาร พบว่าbacklogเข้ามาเรื่อยๆ และเป็นงานที่ได้ราคาค่อนข้างดี เพราะทางลูกค้าเคยให้เจ้าอื่นทำ และพบว่างานมีปัญหา เลยต้องส่งมาให้ทางบริษัทนี้ทำ https://www.youtube.com/watch?v=rqfSwsEUOHU
3.บริษัทนี้ มักมีindicatorคือพวก สินค้าคงเหลือ หรือสินค้าเพื่อการผลิต ถ้าเริ่มสูง, แปลว่าเริ่มสต็อกเพื่อไว้ทำงานในไตรมาสถัดๆไป (เป็นแค่แนวโน้มไม่ใช่fact100%)
4.เทรดที่PE, PBVที่ต่ำกว่าค่าในอดีตช่วงที่ได้งานเยอะปี 2020-2021
5.บริษัทมีหนี้น้อย มีรายการเงินสดและเทียบเท่าประมาณ800กว่าล้าน หนี้สินหมุนเวียนประมาณ600กว่าล้าน ส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ2พันล้าน, งบQ1ที่ผ่านมามีเงินสดจากกิจการดำเนินงาน เข้ามาประมาณเกือบ400ล้าน
งบกระแสเงินสด
6.การรับรู้รายได้จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นไปจนเกือบงานจะจบ ซึ่งน่าจะส่งผลไปถึงต้นปีหน้า หรือประมาณQ1-Q2/2025 โดยคาดหวังว่าเป็นหุ้นแนวเติบโตระยะสั้น
RISK
งานไม่สามารถส่งมอบได้, ตลาดหุ้นไม่สนใจหุ้นแนวพวกนี้อีกแล้ว, สภาพคล่องที่น้อยเกินไป