เตือนภัยมิจฉาชีพ เชียงใหม่ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของธุรกิจมีเงินหลายล้าน

เตือนภัยมิจฉาชีพเชียงใหม่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ เจ้าของบาร์ เจ้าของเต๊นท์รถ
เราได้รู้จักกับมิจฉาชีพรายนี้และตกลงคบกันโดยที่ไม่รู้ว่าเขาคือมิจฉาชีพ 
มิจฉาชีพรายนี้อ้างตัวว่าชื่อบ.
ได้พาเราไปดูธุรกิจส่วนตัว(บาร์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่) โดยอ้างว่าได้ลงทุนทำธุรกิจนี้ร่วมกับพี่สาวต่างพ่อ
จากนั้นพี่บ.ได้แอบอ้างตัวเป็นพี่สาวของตนเอง โดยการสร้างแอคเคาท์ไลน์ขึ้นมาหนึ่งแอคเคาท์เพื่อให้เราเชื่อใจว่าได้คุยกับคนในครอบครัวเขาอยู่จริงๆ พี่บ.ได้สร้างไลน์กรุ๊ปครอบครัวขึ้นมา
มีเรา พี่สาวของเขา และพี่บ. สามคนคุยกันสนุกสนานปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งเราเกิดความสงสัยเกี่ยวกับแอคเคาท์ไลน์ของพี่สาวพี่บ.ว่าทำไมรูปภาพที่ส่งมามันเหมือนเป็นรูปที่ถ่ายจากกล้องมือถือรุ่นเดียวกันกับที่พี่บ.ส่งมาเป๊ะเลย เราเคยเจอกับคนที่พี่บ.อ้างว่าเป็นพี่สาวคนละพ่อตัวจริงพี่แกใช้โทรศัพท์ios แต่รูปที่ส่งมาเหมือนเป็นรูปที่ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์แอนดรอย หลายครั้งที่พี่สาวพี่บ.บอกให้เราวิดีโอคอลไปหา พอเรากดคอลไปก็กลายเป็นพี่บ.ถือกล้องอยู่ตลอด ไม่ได้คุยกับพี่สาวพี่บ.สักที มีแค่หันกล้องให้ดูบ้างบางครั้ง เราเลยสงสัยว่าตกลงแล้วไลน์นี้ใครเป็นเจ้าของกันแน่ จนในที่สุดก็มาความแตกเอาตอนที่เขามีเรื่องคดีความต้องขึ้นโรงขึ้นศาล มีคนโทรมาทวงหนี้จนทำให้เขาต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เขาอ้างว่าที่เปลี่ยนเพราะว่ามีเลข99นำหน้าแล้วจะโชคดี พอเขาเปลี่ยนเบอร์เลยทำให้ไลน์ที่อ้างว่าเป็นของพี่สาวก็หายไปเลยทันที 
แล้วเราก็ได้มารู้ทีหลังว่าบาร์ที่เขาเคยพาไปดู ที่ได้อ้างว่าลงทุนทำกับพี่สาว ความจริงแล้วบาร์นั้นดาราช่องมากสีคนหนึ่งเป็นคนลงทุน โดยมีพี่สาวของเขาเป็นคนบริหารจัดการร้าน พอเรื่องนี้จบไปก็มีอีกเรื่องที่เราสงสัยในตัวพี่บ. คือความจริงแล้วพี่บ.ไม่ได้ชื่อบ.แต่พี่บ.มีชื่อเล่นจริงๆอีกชื่อนึง 
สุดท้ายเราก็ได้รู้ชื่อเล่นจริงๆของเขาจากการที่คนรอบตัวเรียก แล้วเขาเคยให้เรารับโทรศัพท์แทนโดยให้เรียกเขาด้วยชื่อเล่นที่เป็นชื่อเล่นจริงๆไม่ใช่ชื่อบ. เขาอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงต้องใช้ชื่อนี้แต่เราบอกตามตรงเลยว่าไม่ค่อยเชื่อ เขามีชื่อเล่นปลอมๆด้วยกัน2ชื่อ คือชื่อบ. และชื่อกก. แต่ความจริงแล้วเขาชื่อน. เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องมีชื่อปลอม
จนเราก็เพิ่งได้มารู้ทีหลังอีกทีว่าพี่บ.มีคดีติดตัว ตอนแรกที่รู้พี่บ.บอกกับเราว่าเป็นคดีแพ่ง ซึ่งเราก็เชื่อตามนั้นด้วยเห็นว่าพี่บ.ทำธุรกิจหลายอย่าง คงมีเรื่องเงินที่คุยกันไม่ลงตัวก็เลยเกิดการฟ้องร้องกัน 
พี่บ.บอกว่าต้องชดใช้ให้โจทย์เป็นเงินประมาณแสนสองแสน พอไม่กี่วันถัดมาบอกว่าสี่แสน อีกไม่กี่วันถัดมาบอกว่าหกแสน จนล่าสุดที่ต้องไปขึ้นศาล พี่บ.บอกเราว่าจำนวนเงินที่ต้องคืนให้โจทก์ทั้งสิ้นก็ประมาณหนึ่งล้าน พี่บ.ได้ส่งหมายศาลให้เราดู มีชื่อโจทก์ โจทก์ร่วม และจำเลย 
พอเห็นชื่อจำเลยเราก็พึ่งมารู้อีกเรื่องว่าเขาผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้วโดยที่เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเราเลย เขาไม่เคยบอกว่าเปลี่ยนทำไม เราพยายามถามก็บอกแค่ว่าพระทักก็เลยเปลี่ยน แต่เราเดาว่าน่าจะเปลี่ยนหนีอะไรสักอย่าง จนวันที่ไปขึ้นศาลเขาก็เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิม
เราถามพี่บ.ว่าคดีที่ต้องไปขึ้นศาลเกี่ยวกับอะไร พี่บ.บอกว่า เกี่ยวกับการสร้างบ้านโครงการนึงในจังหวัดเชียงใหม่ พี่บ.บอกกับเราว่าเขาไม่ได้ผิดแต่คนฟ้องร้องร้อนเงินจะเอาเงินก้อนไปลงทุนทำอะไรสักอย่าง ตรงนี้เราก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดแค่ว่าถ้าถึงกับฟ้องร้องกันเป็นคดีอาญาแล้วโจทก์เขาจะผิดจริงหรือ 
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพี่บ.ก็ได้มาปรับทุกข์กับเราว่าโดนเพื่อนที่ค้ารถมือสองด้วยกันโกงจากการที่เขาให้เพื่อนนำเงินไปจ่ายให้เจ้าของรถ แต่เพื่อนไม่ได้นำเงินนั้นไปจ่ายให้เจ้าของรถ และเพื่อนได้หนีไปอยู่ที่จังหวัดระยอง พี่บ.บอกว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนฟ้องร้องกัน เขาก็พยายามหาเงินทุกทางเพื่อนำไปให้กับเจ้าของรถที่ขายรถให้ เขาเล่าว่าจ่ายไปแล้วครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือที่โดนเพื่อนโกงไปจะต้องหามาชดใช้ให้ทันภายในสิ้นเดือนพฤษภา เราก็แนะนำว่าให้เอาทองไปขาย หรือขายที่ก็ได้ มีอะไรบ้างที่พอจะขายได้ก็ขายไปก่อนพอขายรถออกเราค่อยซื้อมาใหม่ แล้วพี่บ.ก็ได้เอาทองไปจำนำได้เงินมา80,000 ที่เหลือก็ได้มีการหยิบยืมจากคนอื่น แล้วก็ได้มีการถามจะยืมจากเรา แต่เราก็ไม่ได้ให้ยืมไป ตอนนั้นเราก็ยังไม่มีให้เหมือนกันเราก็ต้องเก็บไว้ใช้ 
ล่าสุดวันที่12มิถุนาที่ผ่านมาก็เพิ่งได้รู้ความจริงอีกอย่างหนึ่งว่า พี่บ.ต้องเอาเงิน1แสนบาทไปประกันตัวคดีที่เคยเล่าให้ฟัง เราก็เลยประติดประต่อเรื่องเองได้ว่า สรุปแล้วเรื่องโดนเพื่อนโกงเงินหนึ่งแสนอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงแต่แต่งขึ้นมาหลอกให้เราเชื่อเผื่อว่าเราจะได้ให้ยืมเงิน พออ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนก็อาจจะงงว่าแล้วเราเสียหายตรงไหน เงินก็ไม่ให้เขายืมไปทำไมถึงเรียกเขาว่ามิจฉาชีพ เดี๋ยวจะขยายความในส่วนนี้ให้ เรื่องธุรกิจบาร์เล่าไปแล้วเต๊นท์รถเล่าไปแล้วเหลือร้านคาเฟ่เบเกอรี่ พี่บ.ได้พาเราไปดูอีกธุรกิจนึงที่เป็นร้านคาเฟ่ที่ขายพวกกาแฟเบเกอรี่ พี่บ.บอกกับเราว่าเป็นเจ้าของร้านนี้ ผ่านไปไม่นานอยู่ๆก็หลุดพูดออกมาว่าเงินที่ได้กำไรต้องแบ่งให้หุ้นส่วนด้วย เราก็เลยสงสัยว่าไหนบอกว่าเป็นของตัวเองทำไมต้องแบ่งให้หุ้นส่วนอีก แล้วหุ้นส่วนเป็นใคร ตอนที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันพี่บ.เป็นคนจ่ายเงินออกเงินให้เรา90% แล้วเราเคยเห็นผ่านตาว่าบัญชีที่พี่บ.ใช้จ่ายเงินค่าของกินค่าอะไรต่างๆตอนจ่ายให้เรา พี่บ.ใช้บัญชีร้านคาเฟ่เบเกอรี่ที่จดทะเบียนเป็นหจก. ตอนนั้นเราก็สงสัยว่าทำไมชื่อหจก.ถึงเป็นชื่อนี้ แต่ไม่ได้ตามสืบ จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราก็ได้
นำชื่อหจก.ไปเสริช ได้เลขทะเบียนมา เราเลยเอาเลขทะเบียนไปเสริชในในdbdอีกที ก็เลยได้เห็นว่าใครเป็นผู้ถือหุ้นบ้าง ใครลงทุนเท่าไรบ้าง แล้วก็เลยได้ข้อมูลมาว่าพี่คนที่ลงทุนมากที่สุดมีนามสกุลตรงกับชื่อหจก.เป๊ะ เราก็เลยเอามาถามพี่บ.ว่า ตกลงยังไงใครเป็นเจ้าของกันแน่ พี่บ.บอกว่าเงินลงทุนทั้งหมดเป็นของเขาแต่ว่าจำเป็นต้องใช้หุ้นส่วน3คนในการจดจัดตั้งหจก. แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเชื่อได้ เราเลยถามกลับไปว่าถ้ามันเป็นของพี่ทำไมไม่เป็นชื่อพี่คนแรก เขาก็อารมณ์เสียใส่บอกว่าตอนนี้เขาเป็นคนลงนามสิทธิประโยชน์และดูแลหจก.นี้เพียงผู้เดียวเพราะว่าจบกับหุ้นส่วนไม่สวย พยายามจะคัดชื่อหุ้นส่วนออกจากหจก.แต่หุ้นส่วนไม่ยอม เรียกค่าบัตรประชาชนใบละ5แสนบาท ซึ่งเราก็ไม่ได้เชื่ออีกเหมือนกัน 
หลังจากเหตุการณ์ที่เราสงสัยในเรื่องร้านคาเฟ่ผ่านไปไม่กี่วัน พี่บ.ก็ได้โทรมาคุยกับเราว่าเดี๋ยวจะโอนเงินมาให้นะ ประมาณ40,000 จะเอาไว้ซื้อรถเข้าเต๊นท์ เราสงสัยก็เลยถามไปว่าปกติก็ซื้อเองแล้วทำไมทีนี้ต้องโอนมาผ่านบัญชีเรา พี่บ.ก็เลยบอกว่างั้นไม่โอนแล้ว แล้วก็ไม่ได้โอนมาจริงๆ หลังจากวันที่พี่บ.บอกจะโอนเงินมาให้เรา พี่บ.ก็โทรมาคุยกับเราตามปกติ แล้วบอกกับเราว่าตอนนี้กำลังทำเรื่องพาสปอร์ต เลยถามว่าทำไปทำไม เขาบอกว่าเผื่อจะไปเที่ยวหาพี่สาวที่อยู่ต่างประเทศ แต่พอไปทำก็ว่าทำไม่ได้ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย2แสน ต้องรอพี่สาวเขาโอนมาให้ก่อน เราก็สงสัยอีกว่านึกยังไงทำไมถึงอยากไปต่างประเทศเอาตอนนี้ เขาก็บอกไม่รู้แค่อยากไปก็ลองไปทำดู แต่คงยังไม่ไปตอนนี้อาจจะไปตอนหลังแต่งงานกับเรา จนล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนาที่ผ่านมาเขาได้โทรมาบอกกับเราว่าเขาอาจจะไม่ได้คุยกับเราอีกต่อไป เขาอาจจะติดคุกภายในวันที่12มิถุนา ถ้าหากว่าหาเงินไปประกันตัวไม่ได้ เราก็เลยประติดประต่อเรื่องได้เองว่าที่อยู่ๆเขาก็อยากไปต่างประเทศขึ้นมาก็อาจจะเพราะว่าหนีคดี หลังจากวันนั้นมาเราก็ทะเลาะกันบ่อยและหนัก หนักมากจนเราด่าเขาแรงมากๆในที่สุดก็บอกเลิกเขาไป และบล็อคทุกช่องทางการติดต่อ พอตกเย็นเรานึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกเรื่องที่ไม่ได้ด่าเลยปลดบล็อคออก 
กำลังจะพิมส่งไป แต่เรามีธุระก่อนก็เลยยังพิมไม่เสร็จ เขาก็เลยส่งรูปมาว่าตอนนี้เขากำลังเดินทางมาหาเรา แต่รูปมันแตกๆเหมือนไปแคปมาจากโทรศัพท์รุ่นเก่าๆ เราก็คิดว่าเขาคงโกหกไปเอารูปคนอื่นมาส่งให้ดู แล้วเขาก็ส่งมาเพิ่มอีกรูปแต่พอเราเอาไปเสริชมันเป็นรูปรีวิวร้านอาหารจากเพจๆหนึ่ง แต่มีอีกรูปนึงที่พี่บ.เป็นคนถ่ายเอง 
แล้วเขาก็ส่งรูปมาให้ดูว่าอยู่กับพี่ผู้ชายคนนึงกำลังขับรถ ส่งรูปมาให้ดูว่าอยู่ร้านคาเฟ่ของเพื่อน ส่งโลเคชั่นมาให้ว่าอยู่ตรงไหนแต่โลที่ส่งมามันเปิดไม่ได้ บอกว่าให้เรารอเดี๋ยวจะเข้ามารับ ให้ส่งโลเคชั่นไปเราก็ส่ง ซึ่งร้านคาเฟ่ที่เขาอ้างว่ากินกาแฟอยู่ที่นั่นมันห่างจากเราแค่ประมาณ20กม. แต่สุดท้ายเขาก็โทรมาบอกว่าเขาไม่อยากมาแล้วเพราะไม่อยากทะเลาะกับเรา เรานั่งรอ1ชั่วโมง เพียงเพราะเห็นใจคนที่พาเขามา เพราะว่าระยะทางมันไกลมาก เราเกรงใจก็เลยรอ แต่สุดท้ายก็มาพบว่ารูปทุกรูปที่ส่งมาให้เราดูว่าอยู่ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากเรามากมันไม่ตรงกันกับบรรยากาศในคาเฟ่จริง คือเขาเอารูปที่เคยไปคาเฟ่ที่เชียงใหม่มาส่งให้เรา แต่เราไม่ได้อยู่เชียงใหม่แล้วคาเฟ่ที่เขาบอกก็ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ ตอนนั้นเราไม่ทันได้สังเกตก็เลยเชื่อว่าเขาอยู่คาเฟ่ใกล้ๆกับเรา 
เรารอจนร้อนทนไม่ไหวอากาศมันอบอ้าว เราก็เลยโทรไปถามอีกรอบว่าตกลงจะมามั้ยถ้าไม่มาจะไปหาเองให้ส่งโลเคชั่นมาแต่เขาไม่ยอมส่งมา สุดท้ายก็ได้มารู้ว่าเขาไม่ได้มาหาเราจริงๆ
เรื่องก็มีคร่าวๆประมาณนี้ แต่มีรายละเอียดอีกเยอะมากๆที่เล่าไม่หมด เราเพียงอยากจะเตือนภัยว่าอย่าหลงกลมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบสายเปย์ มีเงินให้เราใช้จ่ายได้ตลอด จะโอนเงินมาผ่านบัญชีเราห้ามไปหลงเชื่อเด็ดขาด เขาอาจจะไปเอาเงินคนอื่น เงินลงทุนร่วมกันมาให้เราใช้ก็ได้ ตอนนี้มิจฉาชีพคนนี้ประกันตัวเองออกมาสู้คดี แต่เราคิดว่าก็คงได้จำคุกอีกไม่นานเพราะว่ามิจฉาชีพคนนี้สร้างเรื่องโกหกหลายเรื่อง โกหกจนเหมือนคนเป็นโรคจิตที่โกหกไปเรื่อยจนเชื่อว่าเรื่องที่ตัวเองแต่งขึ้นมาโกหกนั้นเป็นเรื่องจริง โกหกจนจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง ใครพบเจอมิจฉาชีพคนนี้ทำท่าว่าจะจีบอย่าหลงไปเชื่อเด็ดขาดมันไม่มีอะไรติดตัว ตอนนี้ทั้งตัวมีแต่หนี้กับคดี ตอนนี้มันยังรับทำเบอเกอรี่คีโตขายอยู่ที่เชียงใหม่ ค้ารถมือสองอยู่เหมือนเดิม ชาวเชียงใหม่โปรดระวัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่