ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัวไหมนะครับ รู้สึกว่ามนต์เสน่ห์ของมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ เช่นฟุตบอลโลก หรือบอลยูโร มันหายไป ไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน หรือว่าเราแก่ จนมองว่ามันไม่คึกคักเหมือนที่เรายังเป็นวัยรุ่น ย้อนกลับไปสมัยฟุตบอลโลกปี 98 บอลยูโร 2000 หรือบอลโลกที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจับมือกันเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2002 (ตอนนั้น จขกท.ยังเรียนที่ราม บอลโลกเตะกันช่วงกลางวัน รามเปิดหอประชุมให้นักศึกษาดูบอลโลกกันเลยทีเดียว)
สมัยก่อนเวลามีบอลโลกหรือบอลยูโรที ไม่ว่าทีวี หรือหนังสือพิมพ์ มีกิจกรรมให้แฟนบอลเล่นมากมาย หลากหลาย ที่ชัดเจนที่สุดก็จะเป็นกิจกรรมทายผลบอลของไทยรัฐ ไปรษณียบัตรแต่ละทีเป็นร้อยล้านฉบับ คนมีส่วนร่วม สปอนเซอร์ก็มากมาย
ตามร้านผับ บาร์ ร้านอาหาร ก็มีทีวีจอยักษ์ให้แฟนบอลไปร่วมเชียร์ เด็กเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับ ต่างใส่เสื้อทีมบอลที่เข้าร่วมการแข่งขั้นครั้งนั้นๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งพนักงานตามห้าง ก็ยังใส่เสื้อทีมบอล
พอมาช่วงหลังๆนี้ รู้สึกบรรยากาศต่างๆมันเริ่มเปลี่ยนไป ขนาดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแต่ละครั้ง ยังต้องลุ้นจนทัวนาเม้นต์จะเริ่มถึงรู้ว่าเราจะได้ดูการถ่ายทอดสดหรือเปล่า ไม่นับรวมถึงกิจกรรมต่างๆที่ไม่คึกคักเหมือนเดิม
คิดว่าเป็นเพราะอะไรทำให้บรรยากาศต่างๆมันเปลี่ยนไป หรือทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนไป ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ จขกท.คิดไปเองคนเดียว ร่วมแชร์และย้อนความทรงจำกันได้ครับ
มนต์เสน่ห์ของมหกรรมกีฬาที่หายไป?
สมัยก่อนเวลามีบอลโลกหรือบอลยูโรที ไม่ว่าทีวี หรือหนังสือพิมพ์ มีกิจกรรมให้แฟนบอลเล่นมากมาย หลากหลาย ที่ชัดเจนที่สุดก็จะเป็นกิจกรรมทายผลบอลของไทยรัฐ ไปรษณียบัตรแต่ละทีเป็นร้อยล้านฉบับ คนมีส่วนร่วม สปอนเซอร์ก็มากมาย
ตามร้านผับ บาร์ ร้านอาหาร ก็มีทีวีจอยักษ์ให้แฟนบอลไปร่วมเชียร์ เด็กเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับ ต่างใส่เสื้อทีมบอลที่เข้าร่วมการแข่งขั้นครั้งนั้นๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งพนักงานตามห้าง ก็ยังใส่เสื้อทีมบอล
พอมาช่วงหลังๆนี้ รู้สึกบรรยากาศต่างๆมันเริ่มเปลี่ยนไป ขนาดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแต่ละครั้ง ยังต้องลุ้นจนทัวนาเม้นต์จะเริ่มถึงรู้ว่าเราจะได้ดูการถ่ายทอดสดหรือเปล่า ไม่นับรวมถึงกิจกรรมต่างๆที่ไม่คึกคักเหมือนเดิม
คิดว่าเป็นเพราะอะไรทำให้บรรยากาศต่างๆมันเปลี่ยนไป หรือทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนไป ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ จขกท.คิดไปเองคนเดียว ร่วมแชร์และย้อนความทรงจำกันได้ครับ