...หรือแม้กระทั่งใส่ชุดชั้นในผู้หญิง และชอบที่จะถูกร่วมทางทวารก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นเกย์หรือชายรักชายด้วยนะ...
คือเมื่อวานไปเจอกระทู้ที่คุณผู้หญิงมาปรับทุกข์ว่า สามีของเขาชอบใส่ชุดชั้นในผู้หญิงมี sex ด้วยหรือใส่นอน แล้วมีคน 90% ไปตอบว่า สามีน่าจะเป็นชายรักชายหรือเป็นเกย์
ก็นึกได้ว่า ในสังคมอาจจะผูกโยงเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกัน เลยอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง เพื่อบอกเล่าว่า
รสนิยมการแต่งกายหรือแม้แต่การร่วมเพศ เป็นคนละเรื่องกับเพศสภาพหรือเพศวิถีครับ
ผมอายุรุ่น 30 กว่าๆ มีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด แฟนคนปัจจุบันอายุรุ่น 20 ปลาย ๆ คบกันมาได้ 6 ปีแล้ว
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือผมมีรูปร่างออกท้วม สัดส่วนไขมันสูงถึง 28% ทำให้มีหน้าอกย้วยๆ คือถึงจะดูภายนอกไม่อ้วนมาก แต่ใส่เสื้อเชิ้ตทำงานแบบพอดีตัวแล้ว ก็จะเห็นว่าหน้าอกจะเผละดูไม่ดี งานที่ทำถ้าแต่งตัวดีหน่อยก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือพอสมควร
วันนึงก็พบโดยบังเอิญว่า ถ้าใส่สปอร์ตบราของแฟนแล้ว หน้าอกจะกระชับได้รูป ใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวได้ดีมากๆ ก็เลยลองใส่สปอร์ตบรากับเสื้อเชิ้ตสีเข้มไปทำงาน ก็ไม่มีใครดูออก แต่ดูดีขึ้นจริง
ทีนี้ ก็เลยติดการใส่สปอร์ตบรา หรือเสื้อกล้ามกึ่งบราของผู้หญิงไปทำงานครับ ดีที่ว่าที่ทำงานไม่มีเครื่องแบบตายตัว และส่วนใหญ่ถ้าไปประชุมภายนอกก็ต่องใส่สูททับ เลยเลือกแต่งตัวที่มองไม่เห็นเสื้อข้างในได้
จากนั้น ผมก็พบว่า ผมชอบเนื้อผ้าและรูปทรงแบบกางเกงในของผู้หญิงมากกว่ากางเกงในผู้ชาย ที่นับวันจะนิยมแนวบ็อกเซอร์มีขาหรือไม่ก็ขอบใหญ่ๆ มากขึ้น จากนั้นผมก็ใส่กางเกงในผู้หญิงที่เป็นผ้าไลครา รูปร่างเป็นแบบบิกินีธรรมดาๆ สีขาวสีครีมมาตลอด
นั่นเป็นจุดเริ่มต้น
ก่อนที่ผมจะเริ่มยอมรับว่า จริงๆ ผมก็ชอบใส่ชุดชั้นในของผู้หญิง เรื่องการใส่สปอร์ตบราแล้วแต่งตัวได้ดูดีขึ้น หรือกางเกงในใส่สบาย อาจจะเป็นผลพลอยได้ แต่ผมมีความสุข ความฟินที่ได้ใส่ชุดชั้นในผู้หญิง
เมื่อผมยอมรับกับตัวเองได้ ผมก็ซื้อชุดชั้นในผู้หญิงมาใส่จริงจังขึ้น ทั้งยกทรงจริงจัง หลายแบบหลายสไตล์ รวมถึงกางเกงใน เสื้อกล้าม เสื้อซับ โดยที่แฟนไม่รู้ (ยกเว้นเรื่องใส่สปอร์ตบราเท่านั้นที่เขารู้)
ผมเริ่มดูแลร่างกายให้ดีขึ้น เริ่มออกกำลังกาย ระวังเรื่องอาหาร เพื่อให้ร่างกายกระชับขึ้นจะได้ใส่ชุดชั้นในผู้หญิงได้สวยๆ เพราะชุดชั้นในผู้หญิงแบบที่ชอบมันเหมาะกับคนตัวไม่ใหญ่ หน้าอกไม่ใหญ่มาก
ผมก็เริ่มโกนหนวดทุกวัน กำจัดขนตามขาและรักแร้ รวมถึงทำทรงผมให้มันดูกำกวมว่าเหมือนผู้หญิงผมสั้นหรือผู้ชายผมยาวหน่อยก็ได้
ผมใช้ชีวิตแบบนั้นเกือบปี และในช่วงนั้นก็เข้าใจว่าตัวเองค้นพบตัวเองว่ากลายเป็นเกย์หรือผู้ชายข้ามเพศ
ผมเลยลองตรวจสอบตัวเอง ด้วยการไปซาวนาและสปาเกย์ ซึ่งได้รับบริการตั้งแต่การนวดทางทวารไปถึงการสอดใส่
แล้วก็พบว่าผมติดใจในการถูกเล่นและร่วมเพศทางทวาร
ในตอนนั้น ผมเข้าใจว่าผมเป็นเกย์ไปแล้ว ผมนึกว่าผมมาค้นพบตัวเองในวัยสามสิบกว่า แต่ก็ไม่ได้อะไรนะ ยอมรับตัวเองได้
จนมาตัดสินใจสารภาพทุกเรื่องแล้วขอเลิกกับแฟน เพราะรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเขา
แต่จริงๆ ระหว่างนั้นผมก็ยังคบหากับแฟน แล้วก็ยังมีอะไรกับแฟนด้วยการสอดใส่ตามปกติ สำเร็จความใคร่ตามปกติ และเอาเข้าจริง เวลาที่เลือกดูสื่อลามก ผมก็มีอารมณ์กับสื่อลามกผู้หญิง ซึ่งอันนี้บอกตามตรงว่า ความรู้สึกของผมนั้นก็ยังไม่ชัดเจน
แฟนผมตอนแรกก็ตกใจ แต่เธอก็ตั้งสติได้ และก็เป็นแฟนผมนั่นแหละครับ ที่เรียกให้ผมทบทวนว่า ผมต้องการอะไรกันแน่
ผมก็เลยทบทวนตัวเองร่วมกันกับแฟน ผ่านการร่วมรักกัน โดยแฟนถามผมตรงๆ ว่า ผมอยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร ขอให้บอกมาทุกอย่าง ไม่ต้องเกรงใจ อย่าอาย เราจะสำรวจเรื่องนี้ไปด้วยกัน
สรุปคือ แฟนก็เลยเล่นทวารให้ผมด้วยปากและนิ้ว ก่อนจะเป็นฝ่ายให้ผมอยู่ด้านล่างแล้วขึ้นผมเอง และจากนั้นความสัมพันธ์ของเราก็เป็นอย่างนั้น โดยในทุกวันนี้ถ้าจะมีอะไรกัน เธอก็จะเล่นทวารให้ผม เป็นฝ่ายขึ้น ส่วนผมก็ทั้งสอดใส่และใช้ปากหรือทำอะไรจนเธอเสร็จ
ถึงตอนนี้เราก็ยังคบกัน และรอว่าเมื่อไรที่เธอคิดว่าถึงเวลา เราก็คงจะแต่งงานกัน
ในที่สุดผมก็เลิกหานิยามว่าผมเป็นเพศสภาพอะไร ผมเป็นแค่ "คน" ที่ไม่ต้องนิยามว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ที่ชอบสวมชุดชั้นในผู้หญิง ชอบการกระตุ้นและร่วมเพศทางทวาร โดนคนที่จะมาทำเป็นใครก็ได้ไม่เกี่ยง จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ แต่จริงๆ ผมชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนิดหน่อย และผมก็รักแผนผมคนที่เป็นผู้หญิงคนนี้มากครับ
ก็หวังว่าเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังไปทั้งหมดนี้ จะทำให้คุณที่อดทนอ่านมาได้เข้าใจความแตกต่างของรสนิยมเรื่องการแต่งตัว การร่วมเพศ กับเรื่องเพศสภาพนะครับ จะได้ไม่เหมาว่า ผู้ชายชอบแต่งหญิง = เกย์หรือกระเทย
ป.ลิง ถ้าใครคิดว่ามาแต่งเรื่อง ก็ย้อนดูการตั้งกระทู้ผมได้เลยครับ ผมไม่ลงทุนสมัครไว้สามปีมาตั้งกระทู้เป็นช่วงเวลาไว้เพื่อจะมาแต่งนิยายหรอกครับ
ผู้ชายที่ชอบใส่ชุดชั้นในผู้หญิง ชอบแต่งหญิง ไม่ได้แปลว่าเป็นชายรักชายเสมอไปนะ
คือเมื่อวานไปเจอกระทู้ที่คุณผู้หญิงมาปรับทุกข์ว่า สามีของเขาชอบใส่ชุดชั้นในผู้หญิงมี sex ด้วยหรือใส่นอน แล้วมีคน 90% ไปตอบว่า สามีน่าจะเป็นชายรักชายหรือเป็นเกย์
ก็นึกได้ว่า ในสังคมอาจจะผูกโยงเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกัน เลยอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง เพื่อบอกเล่าว่า รสนิยมการแต่งกายหรือแม้แต่การร่วมเพศ เป็นคนละเรื่องกับเพศสภาพหรือเพศวิถีครับ
ผมอายุรุ่น 30 กว่าๆ มีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด แฟนคนปัจจุบันอายุรุ่น 20 ปลาย ๆ คบกันมาได้ 6 ปีแล้ว
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือผมมีรูปร่างออกท้วม สัดส่วนไขมันสูงถึง 28% ทำให้มีหน้าอกย้วยๆ คือถึงจะดูภายนอกไม่อ้วนมาก แต่ใส่เสื้อเชิ้ตทำงานแบบพอดีตัวแล้ว ก็จะเห็นว่าหน้าอกจะเผละดูไม่ดี งานที่ทำถ้าแต่งตัวดีหน่อยก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือพอสมควร
วันนึงก็พบโดยบังเอิญว่า ถ้าใส่สปอร์ตบราของแฟนแล้ว หน้าอกจะกระชับได้รูป ใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวได้ดีมากๆ ก็เลยลองใส่สปอร์ตบรากับเสื้อเชิ้ตสีเข้มไปทำงาน ก็ไม่มีใครดูออก แต่ดูดีขึ้นจริง
ทีนี้ ก็เลยติดการใส่สปอร์ตบรา หรือเสื้อกล้ามกึ่งบราของผู้หญิงไปทำงานครับ ดีที่ว่าที่ทำงานไม่มีเครื่องแบบตายตัว และส่วนใหญ่ถ้าไปประชุมภายนอกก็ต่องใส่สูททับ เลยเลือกแต่งตัวที่มองไม่เห็นเสื้อข้างในได้
จากนั้น ผมก็พบว่า ผมชอบเนื้อผ้าและรูปทรงแบบกางเกงในของผู้หญิงมากกว่ากางเกงในผู้ชาย ที่นับวันจะนิยมแนวบ็อกเซอร์มีขาหรือไม่ก็ขอบใหญ่ๆ มากขึ้น จากนั้นผมก็ใส่กางเกงในผู้หญิงที่เป็นผ้าไลครา รูปร่างเป็นแบบบิกินีธรรมดาๆ สีขาวสีครีมมาตลอด
นั่นเป็นจุดเริ่มต้น
ก่อนที่ผมจะเริ่มยอมรับว่า จริงๆ ผมก็ชอบใส่ชุดชั้นในของผู้หญิง เรื่องการใส่สปอร์ตบราแล้วแต่งตัวได้ดูดีขึ้น หรือกางเกงในใส่สบาย อาจจะเป็นผลพลอยได้ แต่ผมมีความสุข ความฟินที่ได้ใส่ชุดชั้นในผู้หญิง
เมื่อผมยอมรับกับตัวเองได้ ผมก็ซื้อชุดชั้นในผู้หญิงมาใส่จริงจังขึ้น ทั้งยกทรงจริงจัง หลายแบบหลายสไตล์ รวมถึงกางเกงใน เสื้อกล้าม เสื้อซับ โดยที่แฟนไม่รู้ (ยกเว้นเรื่องใส่สปอร์ตบราเท่านั้นที่เขารู้)
ผมเริ่มดูแลร่างกายให้ดีขึ้น เริ่มออกกำลังกาย ระวังเรื่องอาหาร เพื่อให้ร่างกายกระชับขึ้นจะได้ใส่ชุดชั้นในผู้หญิงได้สวยๆ เพราะชุดชั้นในผู้หญิงแบบที่ชอบมันเหมาะกับคนตัวไม่ใหญ่ หน้าอกไม่ใหญ่มาก
ผมก็เริ่มโกนหนวดทุกวัน กำจัดขนตามขาและรักแร้ รวมถึงทำทรงผมให้มันดูกำกวมว่าเหมือนผู้หญิงผมสั้นหรือผู้ชายผมยาวหน่อยก็ได้
ผมใช้ชีวิตแบบนั้นเกือบปี และในช่วงนั้นก็เข้าใจว่าตัวเองค้นพบตัวเองว่ากลายเป็นเกย์หรือผู้ชายข้ามเพศ
ผมเลยลองตรวจสอบตัวเอง ด้วยการไปซาวนาและสปาเกย์ ซึ่งได้รับบริการตั้งแต่การนวดทางทวารไปถึงการสอดใส่
แล้วก็พบว่าผมติดใจในการถูกเล่นและร่วมเพศทางทวาร
ในตอนนั้น ผมเข้าใจว่าผมเป็นเกย์ไปแล้ว ผมนึกว่าผมมาค้นพบตัวเองในวัยสามสิบกว่า แต่ก็ไม่ได้อะไรนะ ยอมรับตัวเองได้
จนมาตัดสินใจสารภาพทุกเรื่องแล้วขอเลิกกับแฟน เพราะรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเขา
แต่จริงๆ ระหว่างนั้นผมก็ยังคบหากับแฟน แล้วก็ยังมีอะไรกับแฟนด้วยการสอดใส่ตามปกติ สำเร็จความใคร่ตามปกติ และเอาเข้าจริง เวลาที่เลือกดูสื่อลามก ผมก็มีอารมณ์กับสื่อลามกผู้หญิง ซึ่งอันนี้บอกตามตรงว่า ความรู้สึกของผมนั้นก็ยังไม่ชัดเจน
แฟนผมตอนแรกก็ตกใจ แต่เธอก็ตั้งสติได้ และก็เป็นแฟนผมนั่นแหละครับ ที่เรียกให้ผมทบทวนว่า ผมต้องการอะไรกันแน่
ผมก็เลยทบทวนตัวเองร่วมกันกับแฟน ผ่านการร่วมรักกัน โดยแฟนถามผมตรงๆ ว่า ผมอยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร ขอให้บอกมาทุกอย่าง ไม่ต้องเกรงใจ อย่าอาย เราจะสำรวจเรื่องนี้ไปด้วยกัน
สรุปคือ แฟนก็เลยเล่นทวารให้ผมด้วยปากและนิ้ว ก่อนจะเป็นฝ่ายให้ผมอยู่ด้านล่างแล้วขึ้นผมเอง และจากนั้นความสัมพันธ์ของเราก็เป็นอย่างนั้น โดยในทุกวันนี้ถ้าจะมีอะไรกัน เธอก็จะเล่นทวารให้ผม เป็นฝ่ายขึ้น ส่วนผมก็ทั้งสอดใส่และใช้ปากหรือทำอะไรจนเธอเสร็จ
ถึงตอนนี้เราก็ยังคบกัน และรอว่าเมื่อไรที่เธอคิดว่าถึงเวลา เราก็คงจะแต่งงานกัน
ในที่สุดผมก็เลิกหานิยามว่าผมเป็นเพศสภาพอะไร ผมเป็นแค่ "คน" ที่ไม่ต้องนิยามว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ที่ชอบสวมชุดชั้นในผู้หญิง ชอบการกระตุ้นและร่วมเพศทางทวาร โดนคนที่จะมาทำเป็นใครก็ได้ไม่เกี่ยง จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ แต่จริงๆ ผมชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนิดหน่อย และผมก็รักแผนผมคนที่เป็นผู้หญิงคนนี้มากครับ
ก็หวังว่าเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังไปทั้งหมดนี้ จะทำให้คุณที่อดทนอ่านมาได้เข้าใจความแตกต่างของรสนิยมเรื่องการแต่งตัว การร่วมเพศ กับเรื่องเพศสภาพนะครับ จะได้ไม่เหมาว่า ผู้ชายชอบแต่งหญิง = เกย์หรือกระเทย
ป.ลิง ถ้าใครคิดว่ามาแต่งเรื่อง ก็ย้อนดูการตั้งกระทู้ผมได้เลยครับ ผมไม่ลงทุนสมัครไว้สามปีมาตั้งกระทู้เป็นช่วงเวลาไว้เพื่อจะมาแต่งนิยายหรอกครับ