หลังจากเรารักษามะเร็งเต้านมมาเกือบครบปี ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามการรักษา และเพิ่งไปทำ MRI เมื่อวันก่อน
(เราเขียนในกระทู้ "เมื่อมะเร็งมาเยี่ยมเยือน" "จะทำอย่างไร เมื่อได้รู้ว่าเป็นมะเร็ง" และ "ชีวิตที่ยังก้าวไป หลังจากเราได้รักษามะเร็ง"
การทำ MRI ต้องมีการฉีดสี ดังนั้นเราต้องเจาะเลือดตรวจค่าการทำงานของไตก่อน เพื่อแพทย์รังสีจะได้พิจารณาว่า เราฉีดสีได้หรือไม่
เมื่อไปเจาะเลือด ผลคือ เราหาเส้นเลือดง่ายขึ้นแล้ว แทงเข็มง่ายขึ้นและหลังจากเอาสำลีออกก็แทบไม่เห็นจุดเจาะเลือดเลย
ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักเทคนิกการแพทย์มีความชำนาญ แต่อีกส่วนคือจากตัวเราเอง
ก่อนหน้านี้เราตรวจร่างกายประจำปี โดนเจาะเลือดจนเขียวช้ำเหมือนกัน 3 รอบ ซึ่งปกติเราเป็นคนหาเส้นเลือดง่ายมาก
แต่หลังจากได้รับยาเคมีบำบัดแล้ว กลายเป็นคนที่หาเส้นเลือดยาก เส้นเลือดจม เส้นเลือดแข็งและเลือดน้อย
เราจึงต้องหาทางแก้ไขตัวเราเองก่อน โดยหาข้อมูล แล้วทดลองดูว่าจะเป็นไปได้หรือไม่
ซึ่งเราดีใจมากที่เมื่อวันก่อนถูกเจาะเลือดไม่มีปัญหาใดๆเลย
เราคิดว่าเรามาถูกทางแล้วก็เลยจะแบ่งปันวิธีการให้ทราบ เพื่อคนที่เส้นเลือดจมจากการได้ยาเคมีบำบัดจะทดลองนำไปใช้ค่ะ
วิธีการคือ 1.ออกกำลังกายใช้กล้ามเนื้อส่วน Biceps (Biceps brachii muscle) ตรงต้นแขนด้านหน้า
2.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและนวดกระตุ้นให้เส้นเลือดยืดหยุ่น 3.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
4.ควบคุมอาหารที่อาจจะมีผลให้เส้นเลือดแข็งตัว 5. ไม่นอนดึกและควรนอนหลับให้เพียงพอ
ลองมาดูกันในรายละเอียดค่ะ
1.ออกกำลังกายใช้กล้ามเนื้อส่วน Biceps โดย เราจะยกน้ำหนักในท่างอแขนขึ้นลงช้าๆ วันละ 10 ครั้ง - 20 ครั้ง
และค่อยๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากทำครบเดือน ตอนนี้เราพอใจที่ 4 kg.
ส่วนท่าอื่นๆแล้วแต่ความเหมาะสม อาจจะใช้ 3 kg. หรือ 2 kg. แล้วแต่ร่างกายยอมรับได้
บางวันก็ทำท่าแพลงค์แบบเหยียดแขนหรืองอแขนร่วมด้วย หรือสลับกัน (แถมด้วยงานบ้านและการทำกับข้าวที่ต้องยกกระทะหนักๆ 55)
2.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและนวดกระตุ้นให้เส้นเลือดยืดหยุ่น เรายืดเหยียดกล้ามเนื้อตามข้อต่อทุกส่วน
หลังตื่นนอนเกือบทุกเช้า (บางวันไม่ได้ทำเพราะต้องรีบไปทำอย่างอื่น)
และนวดแขนขาก่อนนอนทุกคืน รวมทั้งเวลาที่ว่างๆแล้วนึกขึ้นมาได้
3.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอทุกๆวัน อันนี้ช่วยระบบไหลเวียนเลือด และก่อนไปเจาะเลือดก็อย่าขาดน้ำ เพื่อให้เลือดไหลได้คล่อง
ปัจจุบันการงดน้ำไม่เคร่งครัดเหมือนแต่ก่อนแล้ว ยกเว้นต้องเจาะเลือดหาน้ำตาลหรือไขมันจึงจะงด ซึ่งเราว่ามันสมเหตุสมผล
(แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรพ. ด้วยนะ)
4.ควบคุมอาหารที่อาจจะมีผลให้เส้นเลือดแข็งตัว เช่น ไขมัน ของหวานต่างๆ พยายามรับประทานผลไม้ที่มีวิตะมินซีสูงๆ
ผักสวนครัวที่ช่วยลดความดัน หรือลดไขมัน จะช่วยทำให้ระบบเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น
5.ไม่นอนดึก และควรนอนหลับให้เพียงพอ โดยส่วนใหญ่เราพยายามไม่นอนเกิน 4 ทุ่มครึ่ง ยกเว้นเล่นโซเชียลฯ 555
เราสังเกตว่า ถ้าเรานอนเพียงพอ ริ้วรอยบนใบหน้าจะลดลง และขอบตาไม่เขียวด้วย แสดงว่าเลือดไหลเวียนดี อิอิ
ทั้งนี้ถ้าจะต้องไปเจาะเลือดเมื่อไหร่ ต้องจัดข้อ 2-5 อย่างเต็มที่ล่วงหน้าเลยอย่างน้อย 1 สัปดาห์
ส่วนข้อ 1 ควรทำทุกวันหรือบ่อยเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าปวดเมื่อยต้องงดไป 2-3 วันเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ
อีก 3-4 เดือน เราจะต้องเจาะเลือดตรวจร่างกายประจำปี ซึ่งต้องตรวจเยอะ จะดูว่าข้อ 1-5 จะช่วยเราได้อีกหรือไม่
(ความจริงเรามีข้อ 6 ด้วย แต่อุบไว้ก่อนดีกว่า เพราะอันนั้นมันขึ้นกับแต่ละคน ส่วนข้อ 1-5 ทำได้ทุกคนค่ะ)
เราคิดว่า เราน่าจะมาถูกทางแล้วนะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่คนที่มีปัญหาเส้นเลือดจมแบบเรา
ใครมีข้อแนะนำอย่างอื่น แบ่งปันกันได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แก้เส้นเลือดจม เราน่าจะมาถูกทางแล้ว
(เราเขียนในกระทู้ "เมื่อมะเร็งมาเยี่ยมเยือน" "จะทำอย่างไร เมื่อได้รู้ว่าเป็นมะเร็ง" และ "ชีวิตที่ยังก้าวไป หลังจากเราได้รักษามะเร็ง"
การทำ MRI ต้องมีการฉีดสี ดังนั้นเราต้องเจาะเลือดตรวจค่าการทำงานของไตก่อน เพื่อแพทย์รังสีจะได้พิจารณาว่า เราฉีดสีได้หรือไม่
เมื่อไปเจาะเลือด ผลคือ เราหาเส้นเลือดง่ายขึ้นแล้ว แทงเข็มง่ายขึ้นและหลังจากเอาสำลีออกก็แทบไม่เห็นจุดเจาะเลือดเลย
ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักเทคนิกการแพทย์มีความชำนาญ แต่อีกส่วนคือจากตัวเราเอง
ก่อนหน้านี้เราตรวจร่างกายประจำปี โดนเจาะเลือดจนเขียวช้ำเหมือนกัน 3 รอบ ซึ่งปกติเราเป็นคนหาเส้นเลือดง่ายมาก
แต่หลังจากได้รับยาเคมีบำบัดแล้ว กลายเป็นคนที่หาเส้นเลือดยาก เส้นเลือดจม เส้นเลือดแข็งและเลือดน้อย
เราจึงต้องหาทางแก้ไขตัวเราเองก่อน โดยหาข้อมูล แล้วทดลองดูว่าจะเป็นไปได้หรือไม่
ซึ่งเราดีใจมากที่เมื่อวันก่อนถูกเจาะเลือดไม่มีปัญหาใดๆเลย
เราคิดว่าเรามาถูกทางแล้วก็เลยจะแบ่งปันวิธีการให้ทราบ เพื่อคนที่เส้นเลือดจมจากการได้ยาเคมีบำบัดจะทดลองนำไปใช้ค่ะ
วิธีการคือ 1.ออกกำลังกายใช้กล้ามเนื้อส่วน Biceps (Biceps brachii muscle) ตรงต้นแขนด้านหน้า
2.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและนวดกระตุ้นให้เส้นเลือดยืดหยุ่น 3.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
4.ควบคุมอาหารที่อาจจะมีผลให้เส้นเลือดแข็งตัว 5. ไม่นอนดึกและควรนอนหลับให้เพียงพอ
ลองมาดูกันในรายละเอียดค่ะ
1.ออกกำลังกายใช้กล้ามเนื้อส่วน Biceps โดย เราจะยกน้ำหนักในท่างอแขนขึ้นลงช้าๆ วันละ 10 ครั้ง - 20 ครั้ง
และค่อยๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากทำครบเดือน ตอนนี้เราพอใจที่ 4 kg.
ส่วนท่าอื่นๆแล้วแต่ความเหมาะสม อาจจะใช้ 3 kg. หรือ 2 kg. แล้วแต่ร่างกายยอมรับได้
บางวันก็ทำท่าแพลงค์แบบเหยียดแขนหรืองอแขนร่วมด้วย หรือสลับกัน (แถมด้วยงานบ้านและการทำกับข้าวที่ต้องยกกระทะหนักๆ 55)
2.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและนวดกระตุ้นให้เส้นเลือดยืดหยุ่น เรายืดเหยียดกล้ามเนื้อตามข้อต่อทุกส่วน
หลังตื่นนอนเกือบทุกเช้า (บางวันไม่ได้ทำเพราะต้องรีบไปทำอย่างอื่น)
และนวดแขนขาก่อนนอนทุกคืน รวมทั้งเวลาที่ว่างๆแล้วนึกขึ้นมาได้
3.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอทุกๆวัน อันนี้ช่วยระบบไหลเวียนเลือด และก่อนไปเจาะเลือดก็อย่าขาดน้ำ เพื่อให้เลือดไหลได้คล่อง
ปัจจุบันการงดน้ำไม่เคร่งครัดเหมือนแต่ก่อนแล้ว ยกเว้นต้องเจาะเลือดหาน้ำตาลหรือไขมันจึงจะงด ซึ่งเราว่ามันสมเหตุสมผล
(แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรพ. ด้วยนะ)
4.ควบคุมอาหารที่อาจจะมีผลให้เส้นเลือดแข็งตัว เช่น ไขมัน ของหวานต่างๆ พยายามรับประทานผลไม้ที่มีวิตะมินซีสูงๆ
ผักสวนครัวที่ช่วยลดความดัน หรือลดไขมัน จะช่วยทำให้ระบบเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น
5.ไม่นอนดึก และควรนอนหลับให้เพียงพอ โดยส่วนใหญ่เราพยายามไม่นอนเกิน 4 ทุ่มครึ่ง ยกเว้นเล่นโซเชียลฯ 555
เราสังเกตว่า ถ้าเรานอนเพียงพอ ริ้วรอยบนใบหน้าจะลดลง และขอบตาไม่เขียวด้วย แสดงว่าเลือดไหลเวียนดี อิอิ
ทั้งนี้ถ้าจะต้องไปเจาะเลือดเมื่อไหร่ ต้องจัดข้อ 2-5 อย่างเต็มที่ล่วงหน้าเลยอย่างน้อย 1 สัปดาห์
ส่วนข้อ 1 ควรทำทุกวันหรือบ่อยเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าปวดเมื่อยต้องงดไป 2-3 วันเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ
อีก 3-4 เดือน เราจะต้องเจาะเลือดตรวจร่างกายประจำปี ซึ่งต้องตรวจเยอะ จะดูว่าข้อ 1-5 จะช่วยเราได้อีกหรือไม่
(ความจริงเรามีข้อ 6 ด้วย แต่อุบไว้ก่อนดีกว่า เพราะอันนั้นมันขึ้นกับแต่ละคน ส่วนข้อ 1-5 ทำได้ทุกคนค่ะ)
เราคิดว่า เราน่าจะมาถูกทางแล้วนะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่คนที่มีปัญหาเส้นเลือดจมแบบเรา
ใครมีข้อแนะนำอย่างอื่น แบ่งปันกันได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ