จะรอดูว่า กกต. กับ ศาลรัฐธรรมนูญ จะหาทางยุบด้วยกลยุทธใด

31 ม.ค. 67   ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า  พรรคก้าวไกลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง  สั่งให้เลิกกระทำ
ก้าวไกลปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

ต่อมา  กกต. นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาใช้ในการเป็นหลักฐานการยุบพรรคก้าวไกล
ขณะนี้  เรื่องอยู่ในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

แต่การยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกลของ กกต. นั้น  ทำไม่ถูกระเบียบของ กกต. เอง
ซึ่งตามกฎหมายแล้ว  ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้องยุบพรรคก้าวไกล

แบบเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ด้วยเหตุการบวนการยื่นยุบพรรคไม่เป็นไปตามกฎหมาย
เพราะ กกต. ส่งคำร้องยุบพรรคเกินกว่า 15 วันตามที่กฎหมายกำหนด 
(15 วันคือบทเร่งรัดตามกฎหมาย ที่แม้ไม่ทำก็ไม่มีความผิด   ไม่ใช่บทบังคับ ที่หากไม่ทำจะมีความผิด
  แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็เอาเหตุ 15 วันมาเป็นเหตุผลในการยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์อย่างสวยงาม)

ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2566
ข้อ 7  กำหนดไว้ว่า  

...ต้องให้ผู้ถูกร้อง หรือพรรคการเมืองนั้น แล้วแต่กรณี มีโอกาสรับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ
   และมีโอกาสได้โต้แย้ง และแสดงพยานหลักฐานของตน...

แต่การยื่นยุบพรรคก้าวไกล   กกต.ไม่เคยแจ้งให้พรรคก้าวไกลทราบ   จึงเป็นการยื่นที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้องเช่นเดียวกับที่เคยยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นบรรทัดฐานทางกฎหมาย

แต่ที่นี่ประเทศไทย  ที่มีธงทิวปลิวไสวอยู่ตลอด  อะไรก็เกิดขึ้นได้
ผิดกฎหมาย กลายเป็นถูกกฎหมายก็ได้   ถูกกฎหมาย กลายเป็นผิดกฎหมายก็ได้

ลาก่อนพรรคก้าวไกล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่