พยานเล่านาที จนท.ไทย เตะชาวเมียนมา สั่งปลดรูป ‘ออง ซาน ซูจี’ ชี้ไร้หมายค้น-วอนตรวจสอบ
https://www.matichon.co.th/region/news_4622952
พยานเล่าเหตุการณ์ ชายใส่เสื้อปักอักษรกำนัน เตะชาวเมียนมาในห้องเช่าสั่งเอารูปอ่องซาน ซูจี และ ประธานาธิบดีเมียนมาออกจากผนังบ้าน เผยกำลังลุกจะไปปลดออก ถูกโดนเตะชายโครงอย่างแรง วอนตรวจสอบเป็นใคร
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก “ชาวเมียนมา” ที่อาศัยอยู่ในตำบลแม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. เพื่อนชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในห้องเช่าในหมู่บ้านแม่กุ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่กุ อ.แม่สอด ถูกบุคคลแต่งกายสวมเสื้อกั๊ก ปักอักษรหน้าอกเสื้ออ่านว่า “กำนัน” ได้เตะชายชาวเมียนมาคนหนึ่งในห้องเช่า ขณะที่ชายคนดังกล่าวพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชายอีกกลุ่มหนึ่ง เข้าไปตรวจค้นห้องเช่าโดยไม่มีหมายศาล และไม่มีหมายค้นใดๆ
ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้ว ได้เห็นชาวเมียนมาทั้งชาย และหญิงเป็นสามีภรรยาอยู่ในห้อง และพบภาพ นาง
ออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคการเมือง หรือพรรคเอ็นแอลดี. กับรูปประธานาธิบดีของเมียนมาที่ถูกรัฐประหารครั้งล่าสุดแขวนอยู่ผนังบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่บางคนได้สั่งให้เอาภาพผู้นำเมียนมาออกให้หมด และมีหญิงเมียนมาคนหนึ่งซึ่งเป็น ภรรยา ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ไทยว่า ถ้ามาตรวจอีกครั้งจะไม่มีภาพนี้อีกแล้วรับปากว่าจะเอาออกให้หมด จากนั้นหนุ่มชาวเมียนมาทราบชื่อคือ นาย
อู หน่าย กำลังจะลุกไปปลดภาพออกจากฝาผนัง แต่ชายที่สวมเสื้อกั๊กที่ยืนอยู่ได้เตะหนุ่มเมียนมาที่ชายโครงอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มเจ้าหน้าที่ก็กลับไป
และจากภาพ ตลอดจนคลิปวิดีโอที่แชร์ในโลกออนไลน์ พบว่าเป็นภาพเหตุการณ์จริงแต่ในภาพมีตำรวจ และทหารด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปในบ้านยืนอยู่ข้างนอก
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเมียนมาไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่า เอาภาพผู้นำของตนเองติดพนังในบ้านผิดกฎหมายไทยหรือไม่ และไม่พอใจที่ชายคนดังกล่าวใช้ความรุนแรง อยากให้เจ้าหน้าที่ไทยตรวจสอบว่า ชายที่ทำร้ายพวกเขาเป็นใคร เป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่
https://twitter.com/MayWongCNA/status/1800439825885168074
จับตา! ศาลรธน. ถก 3 ประเด็นร้อน คดียุบก้าวไกล-คุณสมบัตินายก-เลือกสว.ขัดรธน.หรือไม่.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8283160
จับตา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา 3 ประเด็นร้อน คดียุบพรรคก้าวไกล-ตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ แต่งตั้ง‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี-4 มาตราของกม.เลือก สว. ขัดรธน.หรือไม่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 มิ.ย.2567 องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมประจำสัปดาห์ โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกล ในคดีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ
กรณีการเสนอนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)
โดยวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ได้ส่งคำชี้แจง พร้อมกับคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวนพยานเพิ่มเติม เนื่องจากมีหลายประเด็นที่โต้แย้ง ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดีนี้ และ ารกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตัดสิทธิ กก.บห. ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ยื่นบัญชีพยานไว้หลายคน
มีรายงานว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ว่าจะให้มีการสืบพยานเพิ่มเติมตามคำขอของพรรคก้าวไกลหรือไม่ หากเห็นว่าต้องเปิดสืบพยานเพิ่มเติม ก็จะนัดวันสืบพยาน และแจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายทราบ เพื่อเตรียมพร้อมในการสืบพยาน
แต่หากเสียงข้างมากขององค์คณะตุลาการ เห็นว่า คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกล เพียงพอที่จะนำมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยแล้ว ก็จะนัดการประชุมขององค์คณะตุลาการอีกครั้งเพื่อทำคำวินิจฉัยส่วนตนและทำคำวินิจฉัยกลางต่อไป
นอกจากนี้ ต้องติดตามด้วยว่า องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะหยิบยกคำชี้แจงของ นาย
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี มาพิจารณาด้วยหรือไม่ จากกรณี 40 สว. ยื่นให้ศาลวินิจฉัยถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนายกฯ ได้ยื่นคำชี้แจงเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ต้องจับตาว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะหยิบยกกรณีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งของ กลุ่มผู้สมัคร สว. 2 คำร้อง ขึ้นหารือหรือไม่ กรณีที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีการเลือก สว. ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ศาลกำหนด และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลฯ ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้ส่งคำชี้แจงต่อศาลแล้วเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.
ผู้ค้าโอด ถ้าหวย 3 หลักออกมา กระทบลอตเตอรี่ขายยากแน่ ซ้ำไม่แก้ปัญหาหวยใต้ดิน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4623003
เสียงสะท้อนผู้ค้าลอตเตอรี่ โอด หากหวย 3 หลักออกมากระทบแน่นอน ซ้ำยังไม่ช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดิน
ภายหลังจาก ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือเอ็น 3 โดยผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักให้ครบ 3 หลัก และหลักซ้ำกันได้ เป็นสลากประเภทสมทบเงินรางวัลแต่ไม่เกิน 1 งวด โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะจัดสรรเงินร้อยละ 60 ของจำนวนสลากตัวเลข 3 หลักในแต่ละงวด
ซึ่งปัจจุบันสลากกินแบ่งที่เรารู้จักคือ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (แอล6) ซึ่งกำลังจะมีสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ 3 หลัก (เอ็น3) เพิ่มขึ้นมา ซึ่งซื้อหนึ่งครั้ง จะลุ้นได้ทั้ง 3 ตัวตรง, 2 ตัวตรง, 3 ตัวสลับเลข และรางวัลพิเศษ โดยหวยเอ็น3 ถ้าไม่ถูกรางวัลในงวดนี้ สามารถสะสมเงินรางวัลไปอีกงวดหนึ่งได้ แต่ได้แค่งวดเดียว
นาย
บัวรินทร์ พ่อค้าลอตเตอรี่ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เดี๋ยวนี้ขายล็อตเตอรี่ยากขึ้น เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจ คนซื้อน้อยลง ยิ่งงวดที่ผ่านมาล็อตเตอรี่เหลือเยอะ เพราะคนไม่มีเงิน ประกอบกับเปิดเทอมด้วย คนซื้อมีค่าใช้จ่ายมาก เลยทำให้ขายได้น้อยลง หากหวย 3 หลักออกมา ยังไงก็กระทบกับคนขายล็อตเตอรี่แน่นอน เพราะประชาชนสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า
บางคนไม่ต้องการลุ้นรางวัลใหญ่ ต้องการแค่รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ก็จะทำให้ประชาชนหันไปซื้อหวย 3 หลักแทน ซึ่งการขายล็อตเตอรี่แต่ละงวดลงทุนสูงมาก ยิ่งทุกวันนี้ขายลอตเตอรี่ก็ขายยากอยู่แล้ว เพราะคนก็หันไปซื้อหวยดิจิทัลมากขึ้น หากหวย 3 หลักออกมา ยังไงก็กระทบแน่นอน ไม่อยากให้มี ฝากไปถึงรัฐบาลอยากให้คิดถึงใจคนที่ค้าขายบ้าง
อีกเรื่องหนึ่งที่บอกว่าจะทำให้คนซื้อหวยใต้ดินน้อยลง ตรงนี้คิดว่าไม่น่าจะแก้ปัญหาได้.
JJNY : จนท.ไทยเตะเมียนมา สั่งปลดรูป‘ออง ซาน ซูจี’│จับตา! ศาลรธน.│ผู้ค้าโอด ถ้าหวย 3 หลักออก│แผ่นดินไหวเขย่าเกาหลีใต้
https://www.matichon.co.th/region/news_4622952
พยานเล่าเหตุการณ์ ชายใส่เสื้อปักอักษรกำนัน เตะชาวเมียนมาในห้องเช่าสั่งเอารูปอ่องซาน ซูจี และ ประธานาธิบดีเมียนมาออกจากผนังบ้าน เผยกำลังลุกจะไปปลดออก ถูกโดนเตะชายโครงอย่างแรง วอนตรวจสอบเป็นใคร
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก “ชาวเมียนมา” ที่อาศัยอยู่ในตำบลแม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. เพื่อนชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในห้องเช่าในหมู่บ้านแม่กุ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่กุ อ.แม่สอด ถูกบุคคลแต่งกายสวมเสื้อกั๊ก ปักอักษรหน้าอกเสื้ออ่านว่า “กำนัน” ได้เตะชายชาวเมียนมาคนหนึ่งในห้องเช่า ขณะที่ชายคนดังกล่าวพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชายอีกกลุ่มหนึ่ง เข้าไปตรวจค้นห้องเช่าโดยไม่มีหมายศาล และไม่มีหมายค้นใดๆ
ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้ว ได้เห็นชาวเมียนมาทั้งชาย และหญิงเป็นสามีภรรยาอยู่ในห้อง และพบภาพ นาง ออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคการเมือง หรือพรรคเอ็นแอลดี. กับรูปประธานาธิบดีของเมียนมาที่ถูกรัฐประหารครั้งล่าสุดแขวนอยู่ผนังบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่บางคนได้สั่งให้เอาภาพผู้นำเมียนมาออกให้หมด และมีหญิงเมียนมาคนหนึ่งซึ่งเป็น ภรรยา ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ไทยว่า ถ้ามาตรวจอีกครั้งจะไม่มีภาพนี้อีกแล้วรับปากว่าจะเอาออกให้หมด จากนั้นหนุ่มชาวเมียนมาทราบชื่อคือ นายอู หน่าย กำลังจะลุกไปปลดภาพออกจากฝาผนัง แต่ชายที่สวมเสื้อกั๊กที่ยืนอยู่ได้เตะหนุ่มเมียนมาที่ชายโครงอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มเจ้าหน้าที่ก็กลับไป
และจากภาพ ตลอดจนคลิปวิดีโอที่แชร์ในโลกออนไลน์ พบว่าเป็นภาพเหตุการณ์จริงแต่ในภาพมีตำรวจ และทหารด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปในบ้านยืนอยู่ข้างนอก
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเมียนมาไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่า เอาภาพผู้นำของตนเองติดพนังในบ้านผิดกฎหมายไทยหรือไม่ และไม่พอใจที่ชายคนดังกล่าวใช้ความรุนแรง อยากให้เจ้าหน้าที่ไทยตรวจสอบว่า ชายที่ทำร้ายพวกเขาเป็นใคร เป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่
https://twitter.com/MayWongCNA/status/1800439825885168074
จับตา! ศาลรธน. ถก 3 ประเด็นร้อน คดียุบก้าวไกล-คุณสมบัตินายก-เลือกสว.ขัดรธน.หรือไม่.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8283160
จับตา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา 3 ประเด็นร้อน คดียุบพรรคก้าวไกล-ตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ แต่งตั้ง‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี-4 มาตราของกม.เลือก สว. ขัดรธน.หรือไม่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 มิ.ย.2567 องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมประจำสัปดาห์ โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกล ในคดีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ
กรณีการเสนอนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)
โดยวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ได้ส่งคำชี้แจง พร้อมกับคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวนพยานเพิ่มเติม เนื่องจากมีหลายประเด็นที่โต้แย้ง ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดีนี้ และ ารกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตัดสิทธิ กก.บห. ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ยื่นบัญชีพยานไว้หลายคน
มีรายงานว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ว่าจะให้มีการสืบพยานเพิ่มเติมตามคำขอของพรรคก้าวไกลหรือไม่ หากเห็นว่าต้องเปิดสืบพยานเพิ่มเติม ก็จะนัดวันสืบพยาน และแจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายทราบ เพื่อเตรียมพร้อมในการสืบพยาน
แต่หากเสียงข้างมากขององค์คณะตุลาการ เห็นว่า คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกล เพียงพอที่จะนำมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยแล้ว ก็จะนัดการประชุมขององค์คณะตุลาการอีกครั้งเพื่อทำคำวินิจฉัยส่วนตนและทำคำวินิจฉัยกลางต่อไป
นอกจากนี้ ต้องติดตามด้วยว่า องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะหยิบยกคำชี้แจงของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี มาพิจารณาด้วยหรือไม่ จากกรณี 40 สว. ยื่นให้ศาลวินิจฉัยถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนายกฯ ได้ยื่นคำชี้แจงเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ต้องจับตาว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะหยิบยกกรณีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งของ กลุ่มผู้สมัคร สว. 2 คำร้อง ขึ้นหารือหรือไม่ กรณีที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีการเลือก สว. ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ศาลกำหนด และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลฯ ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้ส่งคำชี้แจงต่อศาลแล้วเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.
ผู้ค้าโอด ถ้าหวย 3 หลักออกมา กระทบลอตเตอรี่ขายยากแน่ ซ้ำไม่แก้ปัญหาหวยใต้ดิน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4623003
เสียงสะท้อนผู้ค้าลอตเตอรี่ โอด หากหวย 3 หลักออกมากระทบแน่นอน ซ้ำยังไม่ช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดิน
ภายหลังจาก ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือเอ็น 3 โดยผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักให้ครบ 3 หลัก และหลักซ้ำกันได้ เป็นสลากประเภทสมทบเงินรางวัลแต่ไม่เกิน 1 งวด โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะจัดสรรเงินร้อยละ 60 ของจำนวนสลากตัวเลข 3 หลักในแต่ละงวด
ซึ่งปัจจุบันสลากกินแบ่งที่เรารู้จักคือ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (แอล6) ซึ่งกำลังจะมีสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ 3 หลัก (เอ็น3) เพิ่มขึ้นมา ซึ่งซื้อหนึ่งครั้ง จะลุ้นได้ทั้ง 3 ตัวตรง, 2 ตัวตรง, 3 ตัวสลับเลข และรางวัลพิเศษ โดยหวยเอ็น3 ถ้าไม่ถูกรางวัลในงวดนี้ สามารถสะสมเงินรางวัลไปอีกงวดหนึ่งได้ แต่ได้แค่งวดเดียว
นายบัวรินทร์ พ่อค้าลอตเตอรี่ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เดี๋ยวนี้ขายล็อตเตอรี่ยากขึ้น เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจ คนซื้อน้อยลง ยิ่งงวดที่ผ่านมาล็อตเตอรี่เหลือเยอะ เพราะคนไม่มีเงิน ประกอบกับเปิดเทอมด้วย คนซื้อมีค่าใช้จ่ายมาก เลยทำให้ขายได้น้อยลง หากหวย 3 หลักออกมา ยังไงก็กระทบกับคนขายล็อตเตอรี่แน่นอน เพราะประชาชนสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า
บางคนไม่ต้องการลุ้นรางวัลใหญ่ ต้องการแค่รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ก็จะทำให้ประชาชนหันไปซื้อหวย 3 หลักแทน ซึ่งการขายล็อตเตอรี่แต่ละงวดลงทุนสูงมาก ยิ่งทุกวันนี้ขายลอตเตอรี่ก็ขายยากอยู่แล้ว เพราะคนก็หันไปซื้อหวยดิจิทัลมากขึ้น หากหวย 3 หลักออกมา ยังไงก็กระทบแน่นอน ไม่อยากให้มี ฝากไปถึงรัฐบาลอยากให้คิดถึงใจคนที่ค้าขายบ้าง
อีกเรื่องหนึ่งที่บอกว่าจะทำให้คนซื้อหวยใต้ดินน้อยลง ตรงนี้คิดว่าไม่น่าจะแก้ปัญหาได้.