ข่าวช่อง One
https://www.facebook.com/share/p/gK9K4Y13fjDU9ji1
โผล่อีกราย! เซลสาวร้องสื่อ ออกรถ EV ป้ายแดงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ใช้ไม่เกิน 2 เดือน ยางฉีก 2 เส้น แต่เข้าใจว่าตัวเองขับไม่ระวัง พอมาวันที่ 14 พฤษภาคม ขับจากบางนา มางามวงศ์วาน ระหว่างทางระบบขึ้นจำกัดการใช้งาน เลยนำเข้าศูนย์บริการย่านราชพฤกษ์ พนักงานถามขับลุยน้ำมาหรือเปล่า เลยแจ้งไปว่า ขับผ่านน้ำท่วมปกติ เพราะคันอื่นก็ขับกันได้ ก่อนรับรถออกจากศูนย์ได้แป๊บเดียว จอไฟเตือนขึ้นเหมือนเดิม เร่งเครื่องไม่ขึ้น ต้องเอาเข้าศูนย์อีกรอบ พนักงานแจ้งว่า น่าจะเป็นเพราะแบตรั่ว อาจเป็นเคสแรกของประเทศไทย แต่เดี๋ยวจะเปลี่ยนให้ อาจเป็นเพราะการผลิต
.
ต่อมาวันที่ 24 พฤษภาคม ทางศูนย์บริการย่านราชพฤกษ์แจ้งว่า เปลี่ยนแบตให้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากพบหนูกัด ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ถ้าหนูกัดสายไฟยังพอเข้าใจได้ แต่ไปค้นดูในกลุ่มรถยนต์ยี่ห้อนี้ก็พบว่า เคยมีโดนหนูกัดจริงๆ ทางนั้นเลยให้แจ้งประกันภัยเพื่อมาดูมูลค่าความเสียหาย ก่อนที่เวลาต่อมาศูนย์บริการย่านราชพฤกษ์จะแจ้งว่าไม่รับเคลมใดๆ ให้ลูกค้าทำการย้ายศูนย์ วันที่ 27 พฤษภาคม จึงย้ายมาศูนย์บริการย่านบางนา ก่อนที่ศูนย์นี้จะแจ้งว่า อาจจะต้องคืนทุน แต่ถ้าเปลี่ยนแบตทางประกันจะคิดค่าใช้จ่ายประมาณ 2 พันกว่าบาท เนื่องจากประกันภัยระบุว่า เป็นส่วนต่างของการซ่อมรถที่เกิน 70% ซึ่งตนเองก็เลือกที่จะเปลี่ยนแบต ไม่เลือกคืนทุน เพราคำนวณส่วนต่างแล้วหากคืนทุนแม้จะสบายใจกว่า แต่ต้องขาดทุนเป็นแสนจากดอกเบี้ย-เงินดาวน์
.
ทั้งนี้ทางเจ้าของรถผู้เสียหายบอกว่า ที่ไม่โอเค คือตนเองไม่ได้ใช้งานโดยประมาท แต่ต้องมานั่งแบกรับความเสี่ยงโดยเฉพาะปัญหาหนูกัดแบตเตอรี่ ซึ่งต่อมาทราบว่ามีการออกแผ่นเหล็กอุปกรณ์เสริมเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว แต่ลูกค้าก็ต้องเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายเองอยู่ที่ประมาณหมื่นกว่าบาท
.
ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า แม้ว่ารถที่ตนเองออกมาจะแถมประกันภัย 2 ปี ประกันคุณภาพรถถึง 8 ปี แต่เมื่อเจอปัญหานี้ทำให้หวั่นใจ เพราะปกติป้ายแดง 5 ปีไม่ควรจะมีปัญหา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นกระทบต่ออาชีพการทำงานด้วย เพราะทางศูนย์บริการไม่มีรถสำรองให้ นอกจากนี้ประกันภัยรถ EV รูปแบบใหม่ ยังลดมูลค่าแบตลงทุกปี ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะได้รถกลับมาใช้เมื่อใด
.
#สำนักข่าววันนิวส์
อีกราย ! สาวบ่นอุบหนูกัดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
https://www.facebook.com/share/p/gK9K4Y13fjDU9ji1
โผล่อีกราย! เซลสาวร้องสื่อ ออกรถ EV ป้ายแดงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ใช้ไม่เกิน 2 เดือน ยางฉีก 2 เส้น แต่เข้าใจว่าตัวเองขับไม่ระวัง พอมาวันที่ 14 พฤษภาคม ขับจากบางนา มางามวงศ์วาน ระหว่างทางระบบขึ้นจำกัดการใช้งาน เลยนำเข้าศูนย์บริการย่านราชพฤกษ์ พนักงานถามขับลุยน้ำมาหรือเปล่า เลยแจ้งไปว่า ขับผ่านน้ำท่วมปกติ เพราะคันอื่นก็ขับกันได้ ก่อนรับรถออกจากศูนย์ได้แป๊บเดียว จอไฟเตือนขึ้นเหมือนเดิม เร่งเครื่องไม่ขึ้น ต้องเอาเข้าศูนย์อีกรอบ พนักงานแจ้งว่า น่าจะเป็นเพราะแบตรั่ว อาจเป็นเคสแรกของประเทศไทย แต่เดี๋ยวจะเปลี่ยนให้ อาจเป็นเพราะการผลิต
.
ต่อมาวันที่ 24 พฤษภาคม ทางศูนย์บริการย่านราชพฤกษ์แจ้งว่า เปลี่ยนแบตให้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากพบหนูกัด ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ถ้าหนูกัดสายไฟยังพอเข้าใจได้ แต่ไปค้นดูในกลุ่มรถยนต์ยี่ห้อนี้ก็พบว่า เคยมีโดนหนูกัดจริงๆ ทางนั้นเลยให้แจ้งประกันภัยเพื่อมาดูมูลค่าความเสียหาย ก่อนที่เวลาต่อมาศูนย์บริการย่านราชพฤกษ์จะแจ้งว่าไม่รับเคลมใดๆ ให้ลูกค้าทำการย้ายศูนย์ วันที่ 27 พฤษภาคม จึงย้ายมาศูนย์บริการย่านบางนา ก่อนที่ศูนย์นี้จะแจ้งว่า อาจจะต้องคืนทุน แต่ถ้าเปลี่ยนแบตทางประกันจะคิดค่าใช้จ่ายประมาณ 2 พันกว่าบาท เนื่องจากประกันภัยระบุว่า เป็นส่วนต่างของการซ่อมรถที่เกิน 70% ซึ่งตนเองก็เลือกที่จะเปลี่ยนแบต ไม่เลือกคืนทุน เพราคำนวณส่วนต่างแล้วหากคืนทุนแม้จะสบายใจกว่า แต่ต้องขาดทุนเป็นแสนจากดอกเบี้ย-เงินดาวน์
.
ทั้งนี้ทางเจ้าของรถผู้เสียหายบอกว่า ที่ไม่โอเค คือตนเองไม่ได้ใช้งานโดยประมาท แต่ต้องมานั่งแบกรับความเสี่ยงโดยเฉพาะปัญหาหนูกัดแบตเตอรี่ ซึ่งต่อมาทราบว่ามีการออกแผ่นเหล็กอุปกรณ์เสริมเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว แต่ลูกค้าก็ต้องเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายเองอยู่ที่ประมาณหมื่นกว่าบาท
.
ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า แม้ว่ารถที่ตนเองออกมาจะแถมประกันภัย 2 ปี ประกันคุณภาพรถถึง 8 ปี แต่เมื่อเจอปัญหานี้ทำให้หวั่นใจ เพราะปกติป้ายแดง 5 ปีไม่ควรจะมีปัญหา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นกระทบต่ออาชีพการทำงานด้วย เพราะทางศูนย์บริการไม่มีรถสำรองให้ นอกจากนี้ประกันภัยรถ EV รูปแบบใหม่ ยังลดมูลค่าแบตลงทุกปี ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะได้รถกลับมาใช้เมื่อใด
.
#สำนักข่าววันนิวส์