เราอายุ 33 ปี อยู่กับสามีและมีลูก 1 คน สามคนพ่อแม่ลูกรักกันดี แต่จะมักจะมีปัญหากับที่บ้านของเราอยู่บ่อยๆ ขอแบ่งให้อ่านเป็นข้อๆนะ
1. ตอนเราท้องเมื่ออายุ 25 ปี เรายอมรับว่ายังไม่พร้อมเพราะตอนนั้นเงินเดือนน้อยส่วนสามีก็มีรายได้ไม่มาก แต่โดนที่บ้านบังคับให้เราซื้อบ้านโดยให้ซื้อหลังที่แม่ต้องการและพ่อกับน้องๆบอกจะช่วยผ่อน + ให้ซื้อรถยนต์ด้วย ถ้าไม่ซื้อลูกที่เกิดมาจะลำบาก ซึ่งเราก็ซื้อบ้าน+รถยนต์พร้อมกันทำให้หนี้สินก้อนใหญ่(ระยะยาว)เพิ่มขึ้นมาแบบกระทันหัน
2. เราทำงานอยู่ปริมณฑล แต่บ้านเราอยู่ ตจว. และบ้านที่ซื้อก็อยู่ ตจว.ทำให้เรามีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และค่าเช่าห้อง
3. แม่คิดว่าเราไม่มีความสามารถในการเลี้ยงลูกได้ มักใช้คำพูดดูถูกตลอด และให้เราส่งเงินให้ที่บ้านบอกค่าใช้จ่ายเยอะ ยังเอาลูกมาเป็นภาระอีก
4.บ้านที่บอกว่าซื้อแล้วจะช่วยผ่อน ช่วยแค่ 3 เดือน หลังจากนั้นเรารับภาระเองเต็มๆ เพราะน้องบอกว่าผ่อนไปก็เป็นชื่อของเราอยู่ดี ทั้งๆที่ทุกคนก็อยู่บ้านเราแท้ๆ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยนิดหน่อยก็ยังดี
5.หลังจากลาคลอดแล้วกลับมาทำงาน เราคิดถึงลูกมากๆ เดินทางกลับ ตจว.ทุกสัปดาห์ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้น
6.แม่ช่วยเลี้ยงลูกเราแบบดี ดีเกินนนน ของใช้ต่างๆ นม แพมเพิส ใช้อย่างดีทุกอย่าง ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เฉพาะต่างๆเกี่ยวกับลูก สัปดาห์ละประมาณ 5,000 บาทได้
7. เงินค่าใช้จ่ายต่างๆ เรากับสามีหาไม่ทันจนจำเป็นต้องกดบัตรเครดิตมาใช้ยอดกว่า 300,000 บาท ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี เราเป็นหนี้รวมเกือบ 3 ล้าน ผ่อนต่อเดือนไม่ต้องพูดถึงเลย รายได้ 2 คนไม่พอผ่อน
8. สามีเราต้องทำงานหนักขึ้น เราต้องทำงานพาร์ทไทม์ โดยไม่มีวันหยุดทั้ง 2 คน มีช่วงหนึ่งสามีมีประสบอุบัติเหตุ ทำงานไม่ได้หลายวัน ทำให้ช่วงสัปดาห์นั้นไม่มีเงินส่งกลับบ้าน เราก็โดนด่า
9. เรากับสามีอดทนจนดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่แม่เราก็ยังไม่พอใจ ด่าเราอยู่ตลอด และบ่นว่าไม่มีคนเลี้ยงลูก เราจึงตัดสินใจลาออกจากงานกลับ ตจว.หางานทำ และเลี้ยงลูก
10. เรากลับมาบ้านที่เราซื้อ(กลับมาแค่เรา สามียังไม่มา) แต่ไม่มีแม้แต่ที่จะนอน พอมาอยู่ก็ได้เห็นความจริงว่าไม่มีใครยินดีต้อนรับเราเลย ทำเหมือนเรากลับมาเป็นภาระ เราเลยทะเลาะกันกับที่บ้านรุนแรงจนมีคนเจ็บตัว และไล่ทุกคนออก
11. คนที่เคยอยู่บ้านเรา ย้ายออกไปเช่าบ้านหลังเยื้องๆกัน พร้อมเอาลูกเราไปเลี้ยงด้วย บอกว่าเราไม่มีเวลาเลี้ยงลูก ไม่มีปัญญาดูแลหรอก
12. เราได้งานใหม่เป็นงาน รพ. ต้องขึ้นเวรตลอดเลยไม่มีเวลาเลี้ยงลูกจริงๆ จากนั้สามีเราก็มาอยู่ด้วยกัน ทำให้มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเล็กน้อย แต่ด้วยภาระหนี้สิน เรากับสามีต้องทำงานเกือบทุกวัน แทบไม่หยุด ส่วนจนผ่านไป 4 ปี หนี้บัตรเครดิตจาก 300,000 ก็เหลือ 30,000 งวดรถก็เหลือแต่ 8 งวด
13. เราทะเลาะกับแม่ตลอด บอกว่าที่เราต้องลำบาก เพราะเราดันหาผัวทั้งโง่ ทั้งจน มีปัญญาแค่นี้ ก็เลยหาได้แค่นี้
14. แม่ชอบกำกับทุกอย่างในชีวิตเราให้ทำตามที่แม่บอก ซึ่งเราอึดอัด เราโตแล้ว เราคิดเองได้ แต่แม่ชอบใช้ความเหนือกว่าเรื่องอำนาจทางการเงินมาทำให้เราดูเป็นคนโง่ เอาจริงๆเราไม่ชอบ ทั้งที่ไม่ใช่ว่าเราไม่มีเงิน แต่เราต้องประหยัดเพราะเราไม่อยากกลับไปยืนในจุดที่เคยลำบากมากๆอีก
15. ถึงตอนนี้จะอยู่คนละบ้าน แต่แม่ก็ยังมาจู่จี้ มากำกับในทุกเรื่องที่ทำ แม้กระทั้งเรื่องซักผ้า ล้างจาน การตื่น การนอน การเข้าห้องน้ำ มันเหนื่อย อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
16. แม่กับเรามีมุมมองในการสอนลูกเราที่ไม่เหมือนกันเลย ทำให้ลูกเราจะกลัวแม่ของเราตลอด ไม่กล้าทำอะไรเลยเพราะกลัวแม่ของเราจะว่า เราสงสารลูกมาก ยิ่งเวลาทะเลาะกับเรา แม่จะตีเราแล้วลูกเราก็เห็น เราเสียใจ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย
17. เราคุยกับสามีว่าอยากย้ายไปอยู่ที่อื่น อยากขายบ้าน ไปในที่ที่เราสบายใจ ใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่โดนครอบงำ เอาลูกไปด้วย แต่ยังมีภาระงวดรถอีกแค่ 8 งวด คงค้องรอให้จบภาระก่อน จะได้สบายตัว สบายใจ
......แบบนี้ จะดีจริงๆใช่มั้ย
ขอรักตัวเองมากกว่ารักครอบครัวจะผิดมั้ย?
1. ตอนเราท้องเมื่ออายุ 25 ปี เรายอมรับว่ายังไม่พร้อมเพราะตอนนั้นเงินเดือนน้อยส่วนสามีก็มีรายได้ไม่มาก แต่โดนที่บ้านบังคับให้เราซื้อบ้านโดยให้ซื้อหลังที่แม่ต้องการและพ่อกับน้องๆบอกจะช่วยผ่อน + ให้ซื้อรถยนต์ด้วย ถ้าไม่ซื้อลูกที่เกิดมาจะลำบาก ซึ่งเราก็ซื้อบ้าน+รถยนต์พร้อมกันทำให้หนี้สินก้อนใหญ่(ระยะยาว)เพิ่มขึ้นมาแบบกระทันหัน
2. เราทำงานอยู่ปริมณฑล แต่บ้านเราอยู่ ตจว. และบ้านที่ซื้อก็อยู่ ตจว.ทำให้เรามีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และค่าเช่าห้อง
3. แม่คิดว่าเราไม่มีความสามารถในการเลี้ยงลูกได้ มักใช้คำพูดดูถูกตลอด และให้เราส่งเงินให้ที่บ้านบอกค่าใช้จ่ายเยอะ ยังเอาลูกมาเป็นภาระอีก
4.บ้านที่บอกว่าซื้อแล้วจะช่วยผ่อน ช่วยแค่ 3 เดือน หลังจากนั้นเรารับภาระเองเต็มๆ เพราะน้องบอกว่าผ่อนไปก็เป็นชื่อของเราอยู่ดี ทั้งๆที่ทุกคนก็อยู่บ้านเราแท้ๆ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยนิดหน่อยก็ยังดี
5.หลังจากลาคลอดแล้วกลับมาทำงาน เราคิดถึงลูกมากๆ เดินทางกลับ ตจว.ทุกสัปดาห์ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้น
6.แม่ช่วยเลี้ยงลูกเราแบบดี ดีเกินนนน ของใช้ต่างๆ นม แพมเพิส ใช้อย่างดีทุกอย่าง ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เฉพาะต่างๆเกี่ยวกับลูก สัปดาห์ละประมาณ 5,000 บาทได้
7. เงินค่าใช้จ่ายต่างๆ เรากับสามีหาไม่ทันจนจำเป็นต้องกดบัตรเครดิตมาใช้ยอดกว่า 300,000 บาท ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี เราเป็นหนี้รวมเกือบ 3 ล้าน ผ่อนต่อเดือนไม่ต้องพูดถึงเลย รายได้ 2 คนไม่พอผ่อน
8. สามีเราต้องทำงานหนักขึ้น เราต้องทำงานพาร์ทไทม์ โดยไม่มีวันหยุดทั้ง 2 คน มีช่วงหนึ่งสามีมีประสบอุบัติเหตุ ทำงานไม่ได้หลายวัน ทำให้ช่วงสัปดาห์นั้นไม่มีเงินส่งกลับบ้าน เราก็โดนด่า
9. เรากับสามีอดทนจนดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่แม่เราก็ยังไม่พอใจ ด่าเราอยู่ตลอด และบ่นว่าไม่มีคนเลี้ยงลูก เราจึงตัดสินใจลาออกจากงานกลับ ตจว.หางานทำ และเลี้ยงลูก
10. เรากลับมาบ้านที่เราซื้อ(กลับมาแค่เรา สามียังไม่มา) แต่ไม่มีแม้แต่ที่จะนอน พอมาอยู่ก็ได้เห็นความจริงว่าไม่มีใครยินดีต้อนรับเราเลย ทำเหมือนเรากลับมาเป็นภาระ เราเลยทะเลาะกันกับที่บ้านรุนแรงจนมีคนเจ็บตัว และไล่ทุกคนออก
11. คนที่เคยอยู่บ้านเรา ย้ายออกไปเช่าบ้านหลังเยื้องๆกัน พร้อมเอาลูกเราไปเลี้ยงด้วย บอกว่าเราไม่มีเวลาเลี้ยงลูก ไม่มีปัญญาดูแลหรอก
12. เราได้งานใหม่เป็นงาน รพ. ต้องขึ้นเวรตลอดเลยไม่มีเวลาเลี้ยงลูกจริงๆ จากนั้สามีเราก็มาอยู่ด้วยกัน ทำให้มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเล็กน้อย แต่ด้วยภาระหนี้สิน เรากับสามีต้องทำงานเกือบทุกวัน แทบไม่หยุด ส่วนจนผ่านไป 4 ปี หนี้บัตรเครดิตจาก 300,000 ก็เหลือ 30,000 งวดรถก็เหลือแต่ 8 งวด
13. เราทะเลาะกับแม่ตลอด บอกว่าที่เราต้องลำบาก เพราะเราดันหาผัวทั้งโง่ ทั้งจน มีปัญญาแค่นี้ ก็เลยหาได้แค่นี้
14. แม่ชอบกำกับทุกอย่างในชีวิตเราให้ทำตามที่แม่บอก ซึ่งเราอึดอัด เราโตแล้ว เราคิดเองได้ แต่แม่ชอบใช้ความเหนือกว่าเรื่องอำนาจทางการเงินมาทำให้เราดูเป็นคนโง่ เอาจริงๆเราไม่ชอบ ทั้งที่ไม่ใช่ว่าเราไม่มีเงิน แต่เราต้องประหยัดเพราะเราไม่อยากกลับไปยืนในจุดที่เคยลำบากมากๆอีก
15. ถึงตอนนี้จะอยู่คนละบ้าน แต่แม่ก็ยังมาจู่จี้ มากำกับในทุกเรื่องที่ทำ แม้กระทั้งเรื่องซักผ้า ล้างจาน การตื่น การนอน การเข้าห้องน้ำ มันเหนื่อย อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
16. แม่กับเรามีมุมมองในการสอนลูกเราที่ไม่เหมือนกันเลย ทำให้ลูกเราจะกลัวแม่ของเราตลอด ไม่กล้าทำอะไรเลยเพราะกลัวแม่ของเราจะว่า เราสงสารลูกมาก ยิ่งเวลาทะเลาะกับเรา แม่จะตีเราแล้วลูกเราก็เห็น เราเสียใจ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย
17. เราคุยกับสามีว่าอยากย้ายไปอยู่ที่อื่น อยากขายบ้าน ไปในที่ที่เราสบายใจ ใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่โดนครอบงำ เอาลูกไปด้วย แต่ยังมีภาระงวดรถอีกแค่ 8 งวด คงค้องรอให้จบภาระก่อน จะได้สบายตัว สบายใจ
......แบบนี้ จะดีจริงๆใช่มั้ย