คือว่าเราเป็นแม่คน​ ตัวทำงานขายของอยู่ที่กรุงเทพ​ แต่ลูกสาวอยู่ปวช1ที่ชลบุรีจริงๆลูกสาวจะต่อม.ปลายที่กรุงเทพแต่ย้ายไป​ ให้ลูกเรียนที่ชลบุรีเพราะคิดว่าสังคมน่าจะดีกว่าอยากให้ลูกมีเพื่อนใหม่​ พอมาปี2​ คุณยายที่ดูบอกว่าลูกเริ่มไม่ไปโรงเรียน​ มีอาการเหม่อลอย​ และจ้องแต่โทรศัพท์​คุยกับเพื่อนที่กรุงเทพทุกวัน(เพื่อนสนิทที่แม่รู้จัก)​ แถมเริ่มมีการหอบข้าวไปทานเองเพราะบอกว่าไม่อยากไปนั่งกินที่โรงอาหารกับคนอื่น(ปัญหานี้ครูก็เคยบอกค่ะว่าน้องกินข้าวแต่ในห้องไม่ออกไปไหน)​ ต่อมาลูกเริ่มเปิดใจบอกว่าโดนเพื่อนแซะด่า​ แบบไม่รู้สาเหตุเราจึงคิดว่าเล็กน้อยพอผ่านไปไม่นาน​ ลูกเราทักมาบอกว่า​ อยากลาออก​ค่ะ​ *ตอนนั้นลูกอยู่ชลบุรีแต่แม่กับพ่ออยู่กรุงเทพ​ น้องอยู่กับน้าและยาย*​ ตกใจมากว่าเกิดไรขึ้นไม่เคยได้ยินคำนี้​ และน้องโทรหาพ่อเขาว่า​ อยากกลับบ้าน​(กทม)​อยากตายร้องไห้​ คนเป็นแม่ได้ยินก็โมโหค่ะ​ เลยรีบไปชลบุรีไปหาที่ปรึกษา​ สุดท้ายรู้เรื่องทั้งหมดแบบชัดเจน​ ต้นเหตุคือ​ ลูกสาวเป็นคนเงียบพูดน้อยไม่พูดคำหยาบเลยสักนิดและตั้งใจเรียน​ ต่อหน้าคนในครอบครัวน้องก็จะเป็นคนแบบนั้นค่ะไม่มีด้านมืดอะไรเลย​ เรื่องแฟนน้องไม่สนใจผู้ชายเลยสักนิดแม้แม่จะไม่ได้ห้าม​ น้องเอาตัวรอดเป็นค่ะอยู่คนเดียวได้​ ทีนี้ลูกสาวชอบโพสต์รูปรถพ่อ(รถหรูค่ะ)​ ลงรูปไปเที่ยวสไตล์ลูกคุณหนูเที่ยวคาเฟ่สมัย​นี้เรียกว่าเทสดี555+ลูกสาวน่าตาลูกครึ่งค่ะสวยขาวทำให้เพื่อนในห้องอิจฉาและเอาไปนินทาเสียๆหายๆค่ะ​ น้องมีหลักฐานที่เก็บไว้ว่าเพื่อนลงสตอรี่ด่าว่าไรบ้าง​ และมีสมุดจดบันทึกด้วยนะคะว่าเพื่อนนิสัยไม่ดีขี้นินทาคนอื่นทำให้เพื่อนเด็กหน้าห้องไม่มีค่านะคะแบบนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว​ คนที่ด่าน้องแม่ขอพูดเลยนะคะ​ นิสัยหัวโจกค่ะ​ เคยดูหนังกันมั้ย​ จะมีนางร้ายชอบด่าคนอื่นและเพื่อนๆคนอื่นก็จะไหล่ตามน้ำเกาะกลุ่มกันนินทาเพื่อนคนอื่นแถมเป็นตัวตึงของชั้นเรียนคนโปรดของที่ปรึกษา​ ไม่ได้จะบอกว่าลูกสาวเป็นนางเอกนะคะ​ แต่ลูกสาวไม่ได้ทำไรผิดเลยไม่เคยว่าเพื่อนไรพูดกูยังไม่เคย**นิสัยแม่กับลูกไม่เหมือนกันนะคะ​ แม่เป็นคนแรงๆค่ะด่าหยาบได้แต่ลูกสาวน้องเขาโตมากับยายและป้าเขาค่ะจะนิ่มๆอ่อนโยน**และวันที่น้องไปลาออกอาจารย์​ที่ปรึกษาได้ทำการเรียกเพื่อนพวกนั้นมาประชุมเพื่อจะเคลียใจ​ แต่หัวโจก​ หรือต้นเหตุที่มาด่าแซะลูกสาวเข้ามาและยืนกอดอกและมองค้อนต่อหน้าแม่เลยค่ะจริงๆนะคะนิสัยแย่มารยาทไม่มีออกมาหมดเลยค่ะ แม่ก็มอง​ ที่ปรึกษาถึงได้พูดว่าให้ยืนดีๆ​
จากนั้นพูดคุยกันซึ่งที่ปรึกษาบอกว่าให้ลูกสาวพูดว่าทำไม​อยากลาออกทำไมถึงแบบนั้นแต่ที่ปรึกษาไม่เป็นกลางเลยค่ะ​ ไม่ฟังที่ลูกสาวพูดเลย​ แถมยังเริ่มมีปากเสียงและเข้าข้างฝ่ายนั้น(เข้าใจว่าอยากเก็บลูกสิทธิ​ไว้เนาะ)​ จนลูกสาวพูดว่า​ หนูรักเพื่อนทุกคนแต่เพื่อนในห้องกับเอาหนูไปว่าเสียๆหายๆลงไอจี*ลูกมีเพื่อนสนิทนะคะแต่เพื่อนสนิทขี้กลัวเลยไม่ได้ช่วยพูดอะไร* และคนในห้องก็รุมพูดว่าลูกสาวเป็นคนคิดไปเองเพื่อนในห้องก็ปกติ​ เพื่อนแซะลงสตอรี่ไม่เอ่ยชื่อแต่ทำไมถึงคิดว่าเป็นตัวเอง(ล่าสุดก็สารภาพว่าแซะเพราะอิจฉา)​ จะหาว่าลูกสาวแม่ผิดนั้นแหละค่ะ​ แต่เรื่องที่แซะมันเรื่องราวของลูกสาวเลยค่ะไม่เอ่ยชื่อแต่ชัดเจนอะว่าแซะใคร​ พอคุยไม่ลงตัวอาจารย์​ก็ตัดจบไล่ให้ลาออกไปๆๆ​ ทุกวันนี้ลูกสาวมีชีวิตดีขึ้นเยอ่ะค่ะ​ เป็นประสบการณ์​ที่ทำให้เห็นว่า​ เพื่อนที่ดีคือเพื่อนสนิทคนเก่า555ทุกวันนี้เพื่อนสนิทลูกสาวเป็นลูกครึ่งเหมือนกันน่าตาสวยด้วยลูกสาวไม่ต้องสนใจเพื่อนที่ไม่แคร์เราอีกแล้ว​และสอนให้ลูกสาวสู้คนค่ะเพราะอนาคตต้องเจอคนหลายประเภท​