หนังเทอม 3 ทำให้อยากแชร์เรื่องเล่าขนหัวลุก ในรั้วมหาวิทยาลัย (ของเรา)

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกท่าน 
เมื่อวานเราได้ไปดูเทอม 3 มา ไม่ได้มารีวิวหนังนะคะ 
หนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงประสบการณ์สยองขวัญที่ได้พบเจอมาด้วยตัวเอง สมัยเรียนอยู่ปี 4 ถ้านับย้อนไปก็น่าจะมากกว่า 5 ปี

หนังเรื่องนี้ ทำให้เราอยากจะแชร์ประสบการณ์ของเราบ้าง เรื่องก็มีอยู่ว่า เราสอบติดได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน กทม. ชีวิตในรั้วมหาลัยของเราโดยรวมถือว่าดี เพื่อนๆในสาขาค่อนข้างสามัคคีและช่วยเหลือกันจนเรียนจบ เป็นความทรงจำที่ดีมาจนถึงวันนี้ ในช่วงปีหนึ่งเราก็จะมีกิจกรรมที่ต้องอยู่เย็นบ่อยๆ แต่ส่วนมากไปไหนมาไหนก็จะมีเพื่อนไปด้วยตลอด เท่าที่จำได้ก็ไม่ได้เจออะไรที่ทำให้ขนหัวลุก จนขึ้นปี 2  ปี 3 ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีมาตลอด ไม่เคยเจออะไรในรั้วมหาวิทยาลัยเลย จนเราขึ้นปี 4 งานทำโปรเจค งานทำสัมมนาก็มา เราเรียนสายวิทย์ ตึกที่ต้องไปเรียนบ่อยที่สุด จนแทบจะอยู่ประจำแล้ว คือ ตึกแพทย์เก่า ส่วนมากอยู่เย็นแทบทุกวัน แต่ก็ยังไม่เคยเจออะไร เพราะตัวติดเพื่อนตลอด 555 ไปไหนไปกัน จนกระทั่งย่างเข้าเทอม 2  

วันนั้นหลังจากเรียนช่วงบ่ายเสร็จแล้ว ก็ยังคงต้องทำงานกลุ่มจนเย็น มีกัน 4-5 คน พวกเราเลือกที่จะนั่งที่ชั้น 1 ตึกแพทย์ที่ประจำของเรา ทำไปทำมา เวลาล่วงเลยมาจนเย็น แสงอาทิตย์น้อยลงมากแล้ว ที่ชอบเรียกกันว่าเวลาโพล้เพล้ กำลังจะมืด มองนาฬิกาเป็นเวลา 18.00 น. พอดีเป๊ะ อยู่ๆ ก็รู้สึกปวดเข้าห้องน้ำ เลยชวนเพื่อนไปด้วย ห้องน้ำจะอยู่ชั้น 2 ต้องเดินขึ้นไป จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกด้วย รองเท้าเราเลอะดินนิดหน่อย พอชวนกันได้สองสามคน ก็พากันเดินขึ้นชั้น 2 เพื่อไปเข้าห้องน้ำ  บรรยากาศตอนนั้นคือโพล้เพล้ วังเวงและเงียบสนิท แล้วในห้องน้ำชั้น 2 มักจะมีห้องน้ำเสียปิดตายอยู่ห้องนึง ที่เรารู้สึกว่ามันน่ากลัว แต่ทำไงได้มันคือห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดแล้ว 

เมื่อทุกคนเข้าเสร็จ กำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ เราก็บอกเพื่อนว่า ให้ไปก่อนได้เลย เดี๋ยวเราตามลงไปทีหลัง เพื่อนก็โอเค แล้วพากันลงไปก่อน เหลือแค่เราคนเดียวกับบรรยากาศที่แสนวังเวง แต่เราจำเป็นต้องอยู่ก่อน เพราะจะทำความสะอาดรองเท้าที่เปื้อนเศษดินทรายนิดหน่อย ตอนนั้นเราไม่ถึงกับว่ากลัว แค่รู้สึกวังเวงไปหน่อย เราก็เริ่มถอดรองเท้า หยิบขึ้นมาทำความสะอาด เอาทิชชูเช็ดเศษดินออก เราเอารองเท้าวางบนเคาเตอร์หน้ากระจกแล้วรีบเช็ดที่สุดเท่าที่จะรีบได้ และเอาทิชชู่ทำความสะอาดเคาเตอร์หลังจากเช็ดเสร็จด้วย เพื่อไม่ให้สกปรก ขณะที่เราเช็ดรองเท้าข้างสุดท้าย ใจเราก็คิดไปว่า เอ เราเอารองเท้ามาวางบนเคาเตอร์แบบนี้จะมีใครว่าเราไหมนะ คือเกรงใจแม่บ้าน แต่เราก็พยายามเช็ดเคาเตอร์ให้สะอาดที่สุดแล้ว

พอเราคิดจบเท่านั้นแหละ

เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นว่า ช่ ว ย ย ย ย ด้ ว ย ย ย ย.......

ด้วยน้ำเสียงยานๆ ยาวๆ ยืดๆ เหมือนในหนัง

ตอนแรกเรายังไม่กลัวมาก เพราะเราคิดว่าเพื่อนแกล้งชัวร์ ก็รีบออกมาดูข้างนอก กะว่าต้องเจอเพื่อนแอบอยู่แน่นอน  วิ่งออกมาหน้าห้องน้ำ ภาพที่เห็นคือ  ...ว่างเปล่า... ไม่มีใครเลยสักคน เท่านั้นแหละรีบวิ่งลงมาข้างล่างเลย รีบมาหาเพื่อน ถามว่าใครไปแกล้งเรามั้ย ใครไปส่งเสียงแถวนั้นมั๊ย ทุกคนงง อึ้ง แบบเธอเล่นอะไร 😂

คือ ตอนนั้นอึ้งทุกคน เราก็อึ้ง เลยชวนเพื่อนขึ้นมาดูใหม่ จะไปหาแม่บ้านเผื่อแม่บ้านพุดเล่นกัน ไปถึงห้องน้ำชั้น 2 จะมีประตูห้องแม่บ้านอยู่หน้าห้องน้ำ เลยเคาะถามว่า แม่บ้านได้พูดอะไรมั้ยคะ หรือมีใครพูดคำว่า ช่วยด้วยมั้ย แม่บ้านคือทำหน้า งง แล้วบอกไม่ได้พูด และไม่ได้ยินใครพูดเลย  

ความรู้สึกตอนนั้นคือ กูโดนแล้ว 
😭😭 จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก....

เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอจังๆขนาดนี้ ช็อกเลย
 จากนั้นทุกคน แยกย้ายกลับบ้าน ใครจะอยู่อ่ะเนอะ

พอกลับถึงบ้าน เจอพ่อแม่ รีบเล่าให้พ่อแม่ฟัง จากนั้นก็โทรไปเล่าให้เพื่อนสนิทสมัยมัธยมฟังอีกคน คือ น่ากลัวมากสำหรับเราในตอนนั้น 

หลังจากนั้นเราก็กินข้าว อาบน้ำอาบท่า เข้านอน 
ตามปกติ มารู้สึกตัวอีกทีตอนกลางดึก รู้สึกว่ามีใครมาบีบคอเราอยู่คือบีบแน่นมาก พยายามลืมตา จนในที่สุดก็ลืมตาได้ เห็นเป็นผู้หญิงผมยาว แต่เห็นหน้าไม่ชัด ความรู้สึกตอนนั้นคือกลัวมาก ได้แต่นึกถึงพ่อกับแม่ สวดมนต์ได้นิดหน่อยตอนนั้นไม่มีสติแล้ว คือยังไงก็ไม่ยอมปล่อย เราเลยตัดสินใจเด็ดขาดว่า เอาวะ ไหนๆก็อยากบีบ ก็บีบให้เต็มที่เลยนะคะ ตายเป็นตาย แล้วตัดสินใจหลับมั้นยังงั้นแหละ  จนรู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว 

วันต่อมา เราก็ไปเรียนตามปกติ หลังจากวันนั้นก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนนั้นอีกเลย และที่สำคัญเราและเพื่อนๆไม่เข้าห้องน้ำชั้น 2 อีกนับแต่นั้นมา 

เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อความสนุก คึกคะนอง หรือใดใดที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง 
เราแค่อยากให้คนได้รับรู้ในวงกว้างมากขึ้น อย่างน้อยคนที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องก็ตาม ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว อาจทำบุญให้พี่เขาบ้าง  เป็นการเปิดโอกาสให้พี่เขาได้รับบุญจากคนอื่นๆ และขอขมาไว้ ณ ที่นี้ว่ามีเจตนาดี ไม่มีเจตนาลบหลู่แต่อย่างใด

บุญใดหากเกิดจากการเล่าในครั้งนี้ขอให้ถึงแก่ดวงวิญญาณที่เกี่ยวข้องทั้งหมดค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สิ่งลี้ลับ (mystery)
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่