ช่วยอ่านและให้ข้อมูลผมหน่อยนะครับ🥺🙏


  คือผมมีเรื่องอยากถามครับ ย้อนไปประมาณวันที่ 18 ธันวาคม ปีที่แล้ว ผมได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง(เป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน)วันนั้นกินเลี้ยงผมเมา เลยมีอะไรกัน

จากนั้น ประมาณวันที่ 2 มีนา ผมมีอาการคันปลายอวัยวะเพศ ผมไปหาหมอ หมอให้ยาแก้ผื่นมา ไม่นานก็หาย พอหายได้ประมาณ 3 วันผมเริ่มมีอาการปวดปลายองคชาต เวลาแข็งตัว แล้วก็มีน้ำใสๆไหลออกปลายองคชาต
(ฉี่หรือเยี่ยวปกติไม่แสบไม่คัน)

ผ่านไปอีก2-3วัน ผมเริ่มปวดอัณฑะข้างขวาปวดท้องน้อยและปวดเอวฝั่งขวา พอผมไปหาหมออีกที ผมก็อาการทุกอย่างให้หมอฟัง จากหมอก็ตรวจเยี่ยวและตรวจเลือด ผลตรวจออกมาปกติทุกอย่าง เยี่ยวไม่มีหนอง เลือดไม่มีเชื้อ หมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อผมมา ผมกินยาตามหมอสั่ง และนัดผมไปตรวจอีกวันที่ 17 หลังสงกรานต์ ผมไม่มีอาการปวดท้องน้อย(หลังกินยา) แต่ยังคงปวดอัณฑะขวาเเละปวดหลังอยู่ หมอก็ให้ยามากินอีก 7 วัน มันก็ยังปวดอยู่

  พอมันยังปวดอยู่ผมจึงกลับบ้านไปรักษาตัว(ผมทำงานต่างจังหวัด) จากนั้นผมก็เล่าอาการที่เป็นให้หมอคลินิกฟัง และเล่าที่หมอให้ยามากิน หมอคลินิกบอกว่าผมน่าจะเป็นหนองในเทียม(แต่ทำไมผมเยี่ยวแล้วไม่แสบ)
หมอก็ฉีดยาให้ผมและให้กินยาต่ออีก 7 วัน
จากนั้นอาการก็ดีขึ้น พอกินยาจนหมด มันดีขึ้นแต่มันไม่หาย ยังมีอาการหน่วงๆตรงอัณฑะอยู่ และเอวก็ยังปวด แต่ปวดน้อยลงกว่าเดิม

  ผมก็เลยกลับไปหาหมออีก เล่าอาการที่ยังเหลืออยู่ให้หมอฟัง หมอว่าเชื้อน่าจะเหลืออยู่
จึงให้ยาผมมากินอีก 7 วัน จนตอนนี้เหลือยากินอยู่ 1 วัน ยาก็จะหมด แต่มันยังมีอาการหน่วงๆที่อัณฑะอยู่(แต่ก็ไม่หน่วงเท่าตอนแรก)


ผมอยากรู้ว่าผมเป็นอะไร ถ้าเป็นหนองในเที่ยม เท่าที่รู้มาว่า 1-2 อาทิตย์หาย แต่ทำไมผมเป็นนานจัง รวมๆแล้วผมเป็นมา 2 เดือนแล้ว  หรือว่าร่างกายผมดื้อยาแล้ว เป็นนานแบบนี้ ผมก็กลัวจะเป็นหมัน ยิ่งตัวคนเดียว(ผมมีพี่แท้ๆ 1 แต่พี่เสียแล้ว) ผมอยากรู้ว่าผมเป็นอะไร🙏 ทำไมมันหายยากกว่าคนอื่น