นี่คือ ละครแมส ที่เหมาะกับคนในวงกว้าง ไม่ใช่ละครเฉพาะกลุ่มแต่อย่างใด
เรื่องนี้ นักแสดงสมทบ เล่นออกมาได้ดึงดูดมาก
คุมโทนคาเรกเตอร์ได้ดี ไม่ให้เรารู้ว่า คนนี้ดี หรือ เลว เฉดกำลังดี
ดูเหมือนคนจริงที่มีการศึกษา มีมโนสำนึก แต่ขณะเดียวกัน ก็อยู่ในเกมส์ชีวิต
-พีท ทองเจือ รับบท ปิติ
-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบท นนทกร
-รฐา โพธิ์งาม รับบท ดวงเดือน
-ภัทรภณ โตอุ่น รับบท ธีรเดช
สี่คนนี้ คือ เค้าตีโจทก์แตก แล้วเวลา Battle กัน
เข้าซีนกัน ดูเป็น Golden Moment มากๆ
เช่น หญิง-พี่แท่ง หญิง-มิ้นส์ หญิง-พี่พีท
ส่วนนักแสดงประกอบอื่นๆ ก็ถ่ายทอดความหลากหลายของคนในออฟฟิศได้ดี
ด้วยฝีมือการแสดงและการกำกับ ที่ดูแล้วลื่นไหล
พี่ดวงเดือน ดู complex เดาทางยากหน่อย คือ ดุ ใจดี รักตัวเองมากอยู่ แบบลูกน้องแอบเซ้นส์
หลายคนก็อาจจะเคยทนกับเจ้านายแนวนี้แบบไม่จบไม่สิ้น
ในภาพรวม เรื่องนี้ หญิงรฐา เล่นออกมาแบบ
ใช้สมอง ตีความมาแล้ว ดูเป็นการแสดงที่ฉลาด
และช่องสาม ควรสร้างนักแสดงแบบนี้ เพราะเขาจะไม่ทำให้ละครขาดทุน
เข้าสู่วงการด้วยฝีมือ การคัดนักแสดงไม่ควรอยู่ในอิทธิพลของผู้จัดการดารา
นักแสดงสมทบ ต้องเก่ง นักแสดงนำ ต้องดูดคนดูได้ เพราะมีซีนมากที่สุด
พีท เป็นบอสที่เร้าใจดี มีเหลี่ยมคม คุมเกมส์ บ้าหน่อยๆ แฟชั่นได้ ทำให้บทนี้ดูไม่จืดเลย
แท่ง สายตาขี้ขลาดขี้กลัว แต่เปี่ยมด้วยการคิดถึงคนอื่น มาตรฐานฝีมือพี่แท่ง เต็ม 10 ก็ 8 ขึ้นไป
แต่ไม่รู้เรื่องจะมีซีนให้แกแสดงฝีมือได้มากกว่านี้หรือเปล่า
ภัทรภณ เจอกับรุ่นใหญ่ ในบทที่ค่อนข้างใหญ่ คือ หัวหน้าทีม แต่ก็ทำได้ดี ท่ามกลางรุ่นใหญ่ เขาไม่จม
ความมั่นใจในฐานะผู้นำ ลีลาลูกเล่น เป็นตัวหล่อลื่นในองค์กร ปากไว ประจบเก่ง สายตาเจ้าเล่ห์หน่อยๆ
ถ้าเป็นต้มยำ นี่คือ ใบมะกรูด ส่วนประกอบเล็กๆ ที่ขาดไม่ได้ และเขาเล่นออกมาในโทนที่ไม่มากหรือน้อยไป กำลังดี
มิ้น เหมาะกับบทสาวชนชั้นกลาง ต่อสู้ ดิ้นรน ไม่ได้เกิดมาพร้อม
เป็นวัยเข้าสู่โปรเซสสร้างสคิลในการทำงาน บุคลิกจึงยังดูสเปะสปะ ไม่ลงตัวแล้วแบบพี่ดวงเดือน
เป็นวัยที่ยังประสพความสำเร็จไม่มาก ขาดความมั่นใจ เวลาเผชิญหน้ากับนายหญิง
เป็น ความ contrast ที่น่าติดตาม คือ คนแบบพี่ดวงเดือน นายหญิงภูมิฐาน จัดเจนทางสังคม
และคนอย่างอลิศ ที่มุ่งมั่นพยายาม ต่างก็เป็นสีสันให้ออฟฟิศ คนละแบบ เหมือนดอกกุหลาบแดง กับ ดอกมะลิขาว
ที่ต้องมีไว้ในสวน
มิ้น เหมือนคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักแสดง ที่ถูกวางลงในเรื่อง
ด้วยความธรรมดา ทำให้ขาดเสน่ห์ทางการแสดงอยู่บ้าง
ข้อดี คือ สมจริง ข้อเสียคือ ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร
ลองดูเกรซ เล่นหลังคาใบบัว หรือ เวียร์ เล่นเป็นตัวเองเวลาเข้าสวน
ที่พอเอาความธรรมดาใส่ลงไป
ความแพรวพราวเทคนิคการแสดงออกก็ไม่ใช่แบบคนธรรมดาอยู่ดี
ต้องขออภัย หากทำให้ใครไม่สบายใจ แนะนำ มิ้นส์ลองเล่นเป็นนักแสดงสมทบดู
จะมีออร่ากระจาย ส่วนบทในเรื่องนี้ ถือว่าเหมาะ เหมือนนั่งดูเรื่องจริงของเด็กสาวคนหนึ่งในยุคนี้
นนกุล บุคลิก การจัดระบบร่างกาย น้ำเสียง เอื้อต่อการเป็นนักแสดง
แววตาฉลาด คือ ละสายตาจากเขาได้ยาก แม้จะไม่ใช่เป็นคนหล่อเลิศ แต่ขึ้นกล้อง
และ acting มีรายละเอียด ที่สัมผัสได้ง่ายผ่านจอ ทำให้แย่งซีนนางเอกโดยไม่ตั้งใจ
ชื่นชม ผู้เขียนบท แกะรายละเอียดชีวิตออฟฟิศได้หมดเปลือก แล้วเอามาเรียบเรียงได้ลงตัว
มีความเป็นอาร์ต "การหาเงินได้ สร้างความมั่นใจและความรับผิดชอบ อาจจะทำให้คนคนหนึ่งดูมีอำนาจในครอบครัว"
คือ ทั้งการเก็บรายละเอียด ทั้งปรัชญา น่าทึ่ง อำนาจทางการเงินมีหลายแง่ที่จะมอง มันแก้ปัญหาหลายอย่างได้จริง
มันจำเป็นสำหรับโลกยุคใหม่อย่างมาก แต่ปัญหา คือ คนสมัยใหม่มองมันสำคัญเกินกว่าชีวิต และในที่สุด ก็มีลมหายใจแบบขาดชีวิตชีวา
ละครเรื่องนี้ ยื่นปรัชญาที่น่าสนใจไปให้ผู้ชม และถ่ายทอดโดยนักแสดงหรือ หมากแต่ละตัว ที่มีความเข้าใจในบทบาท
การกำกับ การวางกล้องบางที โดดๆ ไปบ้าง เน้นไปที่ความเร้าใจ ถ้าเป็นกาแฟ คือ รสเข้ม แต่ไม่พรีเมี่ยม
งานไม่ได้ปราณีตพิถีพิถันสูง ถ้าเทียบกับ ให้รักพิพากษา (เล่าออฟฟิศที่เต็มไปด้วยปัญญาความรู้),
VIP รักซ่อนชู้ (เล่าออฟฟิศที่มิชชั่นคือดูแลไฮโซ) แต่เรื่องนี้ เล่าเรื่องของมนุษย์เงินเดือนในเมืองหลวง
ซึ่งถ้าจะให้ปราณีต น่าจะต้องให้บรรยากาศสำนักงานแบบ expert ทางการเงิน บวกการวางภาพใน key events บางครั้ง
ยังไม่น่าทึ่ง แต่ดูเข้าใจ ได้อรรถรส คุณภาพเหมือนกาแฟ Amazon คือ จ่าย 60-70 บาท รสไม่ว๊าว แต่ไม่ผิดหวัง
ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ.. หญิง รฐา ว่าที่นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม 2024
เรื่องนี้ นักแสดงสมทบ เล่นออกมาได้ดึงดูดมาก
คุมโทนคาเรกเตอร์ได้ดี ไม่ให้เรารู้ว่า คนนี้ดี หรือ เลว เฉดกำลังดี
ดูเหมือนคนจริงที่มีการศึกษา มีมโนสำนึก แต่ขณะเดียวกัน ก็อยู่ในเกมส์ชีวิต
-พีท ทองเจือ รับบท ปิติ
-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบท นนทกร
-รฐา โพธิ์งาม รับบท ดวงเดือน
-ภัทรภณ โตอุ่น รับบท ธีรเดช
สี่คนนี้ คือ เค้าตีโจทก์แตก แล้วเวลา Battle กัน
เข้าซีนกัน ดูเป็น Golden Moment มากๆ
เช่น หญิง-พี่แท่ง หญิง-มิ้นส์ หญิง-พี่พีท
ส่วนนักแสดงประกอบอื่นๆ ก็ถ่ายทอดความหลากหลายของคนในออฟฟิศได้ดี
ด้วยฝีมือการแสดงและการกำกับ ที่ดูแล้วลื่นไหล
พี่ดวงเดือน ดู complex เดาทางยากหน่อย คือ ดุ ใจดี รักตัวเองมากอยู่ แบบลูกน้องแอบเซ้นส์
หลายคนก็อาจจะเคยทนกับเจ้านายแนวนี้แบบไม่จบไม่สิ้น
ในภาพรวม เรื่องนี้ หญิงรฐา เล่นออกมาแบบ
ใช้สมอง ตีความมาแล้ว ดูเป็นการแสดงที่ฉลาด
และช่องสาม ควรสร้างนักแสดงแบบนี้ เพราะเขาจะไม่ทำให้ละครขาดทุน
เข้าสู่วงการด้วยฝีมือ การคัดนักแสดงไม่ควรอยู่ในอิทธิพลของผู้จัดการดารา
นักแสดงสมทบ ต้องเก่ง นักแสดงนำ ต้องดูดคนดูได้ เพราะมีซีนมากที่สุด
พีท เป็นบอสที่เร้าใจดี มีเหลี่ยมคม คุมเกมส์ บ้าหน่อยๆ แฟชั่นได้ ทำให้บทนี้ดูไม่จืดเลย
แท่ง สายตาขี้ขลาดขี้กลัว แต่เปี่ยมด้วยการคิดถึงคนอื่น มาตรฐานฝีมือพี่แท่ง เต็ม 10 ก็ 8 ขึ้นไป
แต่ไม่รู้เรื่องจะมีซีนให้แกแสดงฝีมือได้มากกว่านี้หรือเปล่า
ภัทรภณ เจอกับรุ่นใหญ่ ในบทที่ค่อนข้างใหญ่ คือ หัวหน้าทีม แต่ก็ทำได้ดี ท่ามกลางรุ่นใหญ่ เขาไม่จม
ความมั่นใจในฐานะผู้นำ ลีลาลูกเล่น เป็นตัวหล่อลื่นในองค์กร ปากไว ประจบเก่ง สายตาเจ้าเล่ห์หน่อยๆ
ถ้าเป็นต้มยำ นี่คือ ใบมะกรูด ส่วนประกอบเล็กๆ ที่ขาดไม่ได้ และเขาเล่นออกมาในโทนที่ไม่มากหรือน้อยไป กำลังดี
มิ้น เหมาะกับบทสาวชนชั้นกลาง ต่อสู้ ดิ้นรน ไม่ได้เกิดมาพร้อม
เป็นวัยเข้าสู่โปรเซสสร้างสคิลในการทำงาน บุคลิกจึงยังดูสเปะสปะ ไม่ลงตัวแล้วแบบพี่ดวงเดือน
เป็นวัยที่ยังประสพความสำเร็จไม่มาก ขาดความมั่นใจ เวลาเผชิญหน้ากับนายหญิง
เป็น ความ contrast ที่น่าติดตาม คือ คนแบบพี่ดวงเดือน นายหญิงภูมิฐาน จัดเจนทางสังคม
และคนอย่างอลิศ ที่มุ่งมั่นพยายาม ต่างก็เป็นสีสันให้ออฟฟิศ คนละแบบ เหมือนดอกกุหลาบแดง กับ ดอกมะลิขาว
ที่ต้องมีไว้ในสวน
มิ้น เหมือนคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักแสดง ที่ถูกวางลงในเรื่อง
ด้วยความธรรมดา ทำให้ขาดเสน่ห์ทางการแสดงอยู่บ้าง
ข้อดี คือ สมจริง ข้อเสียคือ ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร
ลองดูเกรซ เล่นหลังคาใบบัว หรือ เวียร์ เล่นเป็นตัวเองเวลาเข้าสวน
ที่พอเอาความธรรมดาใส่ลงไป
ความแพรวพราวเทคนิคการแสดงออกก็ไม่ใช่แบบคนธรรมดาอยู่ดี
ต้องขออภัย หากทำให้ใครไม่สบายใจ แนะนำ มิ้นส์ลองเล่นเป็นนักแสดงสมทบดู
จะมีออร่ากระจาย ส่วนบทในเรื่องนี้ ถือว่าเหมาะ เหมือนนั่งดูเรื่องจริงของเด็กสาวคนหนึ่งในยุคนี้
นนกุล บุคลิก การจัดระบบร่างกาย น้ำเสียง เอื้อต่อการเป็นนักแสดง
แววตาฉลาด คือ ละสายตาจากเขาได้ยาก แม้จะไม่ใช่เป็นคนหล่อเลิศ แต่ขึ้นกล้อง
และ acting มีรายละเอียด ที่สัมผัสได้ง่ายผ่านจอ ทำให้แย่งซีนนางเอกโดยไม่ตั้งใจ
ชื่นชม ผู้เขียนบท แกะรายละเอียดชีวิตออฟฟิศได้หมดเปลือก แล้วเอามาเรียบเรียงได้ลงตัว
มีความเป็นอาร์ต "การหาเงินได้ สร้างความมั่นใจและความรับผิดชอบ อาจจะทำให้คนคนหนึ่งดูมีอำนาจในครอบครัว"
คือ ทั้งการเก็บรายละเอียด ทั้งปรัชญา น่าทึ่ง อำนาจทางการเงินมีหลายแง่ที่จะมอง มันแก้ปัญหาหลายอย่างได้จริง
มันจำเป็นสำหรับโลกยุคใหม่อย่างมาก แต่ปัญหา คือ คนสมัยใหม่มองมันสำคัญเกินกว่าชีวิต และในที่สุด ก็มีลมหายใจแบบขาดชีวิตชีวา
ละครเรื่องนี้ ยื่นปรัชญาที่น่าสนใจไปให้ผู้ชม และถ่ายทอดโดยนักแสดงหรือ หมากแต่ละตัว ที่มีความเข้าใจในบทบาท
การกำกับ การวางกล้องบางที โดดๆ ไปบ้าง เน้นไปที่ความเร้าใจ ถ้าเป็นกาแฟ คือ รสเข้ม แต่ไม่พรีเมี่ยม
งานไม่ได้ปราณีตพิถีพิถันสูง ถ้าเทียบกับ ให้รักพิพากษา (เล่าออฟฟิศที่เต็มไปด้วยปัญญาความรู้),
VIP รักซ่อนชู้ (เล่าออฟฟิศที่มิชชั่นคือดูแลไฮโซ) แต่เรื่องนี้ เล่าเรื่องของมนุษย์เงินเดือนในเมืองหลวง
ซึ่งถ้าจะให้ปราณีต น่าจะต้องให้บรรยากาศสำนักงานแบบ expert ทางการเงิน บวกการวางภาพใน key events บางครั้ง
ยังไม่น่าทึ่ง แต่ดูเข้าใจ ได้อรรถรส คุณภาพเหมือนกาแฟ Amazon คือ จ่าย 60-70 บาท รสไม่ว๊าว แต่ไม่ผิดหวัง