อุบัติเหตุที่นิ่งเฉยที่สุด

เราอยู่ในหมู่บ้านชนบท แผนผังซอยหมู่บ้านก็จะเป็นเหมือนบล็อกที่เชื่อมถึงกัน ช่วงเย็นของวันเรากำลังขับมอเตอร์ไซค์จะไปตลาด พอขับเกือบจะถึงซอยสี่แยกประมาณร้อยเมตร ถนนเลนตรงข้ามมีรถกะบะสวนมาเราก็มองที่รถกะบะ แต่พอเหลือบมาอีกทีก็มีลุงคนหนึ่งขับมอไซค์ปาดมาข้างหน้าแล้ว ในใจตอนนั้นคิดว่าเบรคไม่ทันแน่ๆ(เพราะเราติดนิสัยกำเบรคมือล้อหน้า) จะเบี่ยงหลบก็กลัวรถสวนมาเลยตั้งใจผ่อนเบรคเบาๆแล้วเบี่ยงล้อออกจากตัวคนให้มากที่สุด ก็...ประสานงากันอยู่ดี เราโดดออกจากรถก่อนจะล้มทันเลยได้แค่แผลถลอกที่มือ จากนั้นก็ลุกขึ้นไปดูลุงที่มีท่าทีเหมือนคนเมา เราเอ่ยถามแกก่อนว่าแกเจ็บมากมั้ย แล้วก็ขอโทษแกไป เราพูดกับแกว่าเบรคไม่ทัน จากนั้นก็ช่วยยกรถขึ้นให้แกทั้งอย่างนั้น เราไม่ได้ปะทะคารมกันมากแค่เพียงฝ่ายเราขอโทษแล้วก็แยกจากกันตรงนั้น จากอุบัติเหตุที่เคยประสบมานะ ครั้งนี้เรามีสติมากที่สุดและพยายามทำให้บาดเจ็บน้อยที่สุดแล้วล่ะ 

ใจจริงเราไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยนะ แต่ก็ไม่ได้โทษลุงเขา ตามทฤษฎีเราคิดว่าลุงจะเลี้ยวเข้าซอย แกจี้ท้ายรถกะบะเลยทำให้มองไม่เห็นเราที่ขับมาเร็ว จังหวะก่อนจะประสานงาในระยะร้อยเมตรเราเห็นและพยายามเบรคแล้ว แต่สุดท้ายก็จบที่ชนกันอยู่ดี

หากเป็นคนอื่นคงหลบไปอย่างฉิวเฉียดแหละ ซึ่งเราทำตามเขาไม่ได้หรอก เพราะเรารู้ตัวเองดีว่าหากหักเบี่ยงทันทีเราจะคุมรถไม่ได้ ส่วนเรื่องเบรคก็เหมือนกัน หากเรากำเบรคมือเต็มแรงเราก็อาจจะเสียหลักล้มเอง 

อ้อ! มอไซด์ที่เราขับไม่มีเบรคเท้านะ ระบบอัตโนมือน่ะ

แต่ก็นะ หลังจากนั้นเราก็ไปตลาดต่อทั้งที่มือถลอก ใจแข็งทำเป็นเก่ง พอถึงบ้านเท่านั้นแหละแสบมาก(เราไม่ได้บอกใครเรื่องรถชน) ทำแผลเองเจ็บเองแล้วก็มาชมตัวเองว่าวันนี้โชคดียิ้ม

ยิ้มแล้วเหลือแต่โชคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่