จู่ๆ ก็กลิ่นตัวเหม็นมาก

อันนี้เขียนกท.แบบซ่อสัตย์กับตัวเองว่า
ไม่เคยเลยที่จะมีกลิ่นตัวแรงขนาดนี้
แรงแบบสัมผัสได้เอง
Detect ได้เอง ไม่ได้ฟังจากใคร

คือปกติ เราอาบน้ำมา อยู่ในห้องแอร์
ก็ต้องไม่มีกลิ่นแล้วอะ
ไม่กี่วันมานี้
แต่นี่คือ จู่ๆ ร่างกายก็เปลี่ยนไป
เป็นคนมีกลิ่นตัว ออกมาเรื่อยๆ
ช่วงแรกๆ ก็คิดว่าอาจเพราะฮอร์โมนช่วงใกล้เป็นประจำเดือน
แต่นี่ผ่านการเป็นประจำเดือนมานานแล้วหลายวัน
ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเลยค่ะ

แล้วเราคือได้กลิ่นเลย
เพราะเกิดขึ้นกับตัวเอง
แล้วได้กลิ่นก่อนใคร
เราเลยไปอาบน้ำ
ชีวิตหลังทำงานเสร็จคืออาบน้ำ พัก อาบน้ำ พัก วนไปจนหลับ ตื่น แสบน้ำ พัก
เกือบคิดว่านี่เรา OCD หรือเปล่า

ลองทาครีมแล้ว ก็ไม่หาย
ลองอาบน้ำใหม่ าักพักก็เหม็นอีก
ลองทาลูกกลิ้ง ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม

ทำไงดีคะ แนะนำที
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับการเกิดกลิ่นตัวนั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น อาจเกิดได้จากการขับเหงื่อและไขมันออกจากผิวหนัง จนเกิดความชื้น
ของเซลล์ผิวหนังบางส่วนยุ่ยลอกและตาย เมื่อมีแบคทีเรียและเชื้อรามากินเซลล์ที่ตายนั้น ก็จะขับกรดออกมาทำให้เกิดกลิ่นเหม็น หรือ
อาจเกิดจากการมีระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายสูง โดยเฉพาะในเพศชายค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นที่รักแร้ เท้า หรืออวัยวะเพศก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ ในส่วน
ของอาหารบางชนิดก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นด้วย เช่น ไขมันจากสัตว์ เนื้อสัตว์ สะตอ กระเทียม หอม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือ
แม้แต่ยาบางชนิดก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ รวมถึงอาจเกิดได้จากโรคประจำตัวอื่นๆ ได้แก่ ท้องผูก ตับอักเสบ ไต เบาหวาน พยาธิในระบบ
ทางเดินอาหารก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งค่ะ

ในเบื้องต้น จากอาการที่คุณเล่ามา เพื่อช่วยให้กลิ่นตัวลดลง แนะนำให้คุณรักษาความสะอาดร่างกายของหมั่นทำความสะอาดบริเวณรักแร้
อย่างสม่ำเสมอ ซับให้แห้ง แล้วค่อยใช้สารกำจัดกลิ่นตาม รวมถึงแนะนำให้ตัดขนรักแร้ให้สั้นลง ซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้สะอาดไม่มีกลิ่นอับ
ก็จะช่วยลดกลิ่นตัวได้ค่ะ นอกจากนี้แนะนำว่าควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง อาหารหมักดอง รวมถึง
เครื่องเทศต่างๆที่ส่งผลทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ค่ะ และแนะนำว่าควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย เช่น การรับประทานโปรตีนจำพวกธัญพืช
ต่างๆ เน้นการทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น รวมถึงดื่มน้ำให้มากๆ ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ก็อาจจะช่วยลดกลิ่นตัวได้ค่ะ  

แต่หากทำตามคำแนะนำแล้ว อาการไม่ดีขึ้น รวมถึงกลิ่นตัวยังไม่ลดลง แนะนำให้คุณไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัด
และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่