จากที่เราเคยตั้งกระทู้ไปก่อนหน้านี้กรณีพนักงานร้านแว่นตาแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่แฟนเราแอบนอกใจ แอบคุยกับคนที่ทำงานด้วยกัน โดยมีเพื่อนร่วมงานรู้เห็นเป็นใจพร้อมสนับสนุนให้ทั้งคู่คบกัน ล่าสุดเราแจ้งทางต้นสังกัดไป เพราะแฟนเคยบอกบริษัทไม่มีนโยบายรักกันในที่ทำงาน เราเลยแจ้งเรื่องราวต่างๆไป ต้นสังกัดก็รับเรื่องอย่างดี แต่ผ่านไปไม่นานก็ตอบกลับมาว่าบริษัทไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัว ผ่านไปไม่กี่นาทีผู้หญิงคนนั้นทักมาพร้อมข้อความที่เราแจ้งไป แล้วขู่จะแจ้งความเราที่เอาเรื่องไปฟ้อง มันทำให้เรามั่นใจไปอีกว่าเค้ารู้เห็นเป็นใจแม้กระทั่งต้นสังกัด ล่าสุดตอนนี้ที่เราทราบมาคือเค้า2คนคุยกันเมื่อเดือนเมษา เพราะผู้หญิงเพิ่งเลิกกับแฟน แต่ตัวผู้ชายยังคบกับเราอยู่ จนเราเริ่มสังเกตว่าแฟนเราเปลี่ยนไป เค้นถามก็ไม่ยอมรับ บอกแค่ว่าเราไม่ค่อยมีเวลาให้จนเค้าอยู่คนเดียวจนชินแล้ว (ก่อนหน้านั้นที่เราเริ่มทำงานจนไม่มีเวลา เราทำให้เค้าทุกอย่าง ยอมขับรถข้ามจังหวัดเพื่อมาหาเค้า มาซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาดห้อง แล้วไปกินข้าวด้วยกัน เที่ยงคืน ตีหนึ่งชับรถกลับบ้าน) เค้าเริ่มตอบไลน์เราช้า โทรไปไม่ค่อยรับ แล้วมาได้บทสรุปทีหลังคือเค้าคุยกันเดือนเมษา ผู้หญิงบังคับให้เลิกกับเรา เพื่อจะได้ยอมให้ไปหาที่ห้อง (พูดง่ายๆคือยอมเสียตัว) แล้วผู้ชายก็แอบเก็บเสื้อผ้า รองเท้า ไปไว้ที่หอผู้หญิงคนนี้ แล้วเอาตู้เย็น ของใช้อีกหลายอย่างทิ้งบ้าง ให้คนอื่นไปบ้าง รวมถึงของของเราที่เราพยามเค้นถามว่าอยู่ที่ไหนให้เอามาคืนด้วย แล้วเราก็ไปเห็นผู้หญิงคนนี้ขึ้นสตอรี่รูปแฟนเรา เราจึงทักไปถามว่าคบกันเหรอ เค้าก็บอกว่าใช่  เค้าบอกคุยกับแฟนเราได้ประมาณเดือนกว่าแล้วถึงตกลงคบกันเป็นแฟน แต่พอเราเค้นถามผู้ชายเค้าบอกเราว่าแค่คุยเฉยๆ ยังไม่ได้คบ และก็ไม่ยอมบอกเราด้วยว่าเเอบขนเสื้อผ้าไปอยู่กับผู้หญิงคนนั่น (คงคิดว่าเราโง่ไม่รู้เรื่อง) แต่ที่พีคไปกว่านั้น คือ เราตรวจเจอว่าเรา ท้อง เราจึงตัดสินใจบอกมันทั้งคู่ แต่เหมือนผู้ชายจะหลงผู้หญิงคนนี้มาก หลงจนเปลี่ยนเป็นอีกคน (บ้านไม่กลับ ไม่โทรหาแม่ แม่โทรหาไม่เคยรับสาย จนเราต้องเข้าไปดูแลแม่เค้าเอง) เค้าถามแค่ว่าจะให้ทำยังไง ผู้หญิงก็ไม่ยอมปล่อย เราละเหนื่อยจริงๆนะทุกคน