รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้จริงๆ รู้แบบนี้ถ้าไม่ทำแบบนั้นไปเลยก็คงไม่ต้องเสียงาน (บทเรียนจากความผิดพลาดร้ายแรงครั้งแรก)
ก็ตามนั้นแหล่ะครับ ผมก็รับโทษตามนั้นไป จากการทำผิดร้ายแรงครั้งแรกและครั้งเดียวโดยมิได้เจตนา (จะไม่มีครั้งต่อไปอีกกับการทำผิดพลาดร้ายแรงโง่ๆแบบนี้) แม้ไม่เจตนาแต่ในเมื่อมันทำผิดร้ายแรงไปแล้วมันก็ผิดอยู่ดี
แต่นั่นแหล่ะครับ ในสังคมแห่งการไม่ม๊โอกาสที่สองนี้ มันทำให้ผมกดดันตัวเองตลอดว่า ห้ามทำพลาดนะ ถ้าพลาดขึ้นมานิดนึง เสียงานเลยนะ
หลายครั้งผมต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด เรียนรู้จากสิ่งที่ทำลงไป ยิ่งทำ ยิ่งเสียความมั่นใจ ยิ่งทำ ยิ่งรู้สึกต้องระวังไม่ให้ทำผิดทำพลาดอีก เพราะในครั้งนี้เป็นบทเรียนที่โคตรเจ็บปวดเลย ครั้งนี้มันผิดร้ายแรงนำไปสู่การเสียงาน ในยุคที่งานหาโคตรยาก กว่าจะได้งานทำก็ไม่ง่ายอีก แต่ตัวเองดันมาทำให้เสียงานเพราะการทำผิดพลาดโง่ๆ ได้ ถ้าผมคิดได้เร็วกว่านี้ ผมคงไม่ต้องเสียงานไปแบบนี้ รู้แบบนี้สั่งอาหารผ่าน delivery เอาดีกว่า จะได้ไม่ต้องออกจุดเฝ้ายาม
จะไปสมัครที่ไหนก็ยากอีกมีประวัติความผิดพลาดร้ายแรงครั้งแรกไปแล้ว เสียความมั่นใจไปหมดเลย หรือรู้แบบนี้ไม่น่าทำแบบนี้เลย มานึกได้ก็สายไปแล้ว ทุกครั้งไป หลายครั้งที่ตัดสินใจผิด มักจบลงที่ความผิดพลาดเล็กน้อย แต่มีครั้งนี้ที่ตัดสินใจแล้วมันคือความผิดพลาดร้ายแรง
ทำไมกันนะ ทุกครั้งที่มีบทเรียนจากความผิดพลาด ทำไมจะต้องจบที่ความเจ็บปวดทุกครั้ง หรือจบที่ผลลัพธ์ในตอนท้ายร้ายแรงมากๆ
โลกใบนี้ใจร้ายกับทุกคนจริงๆ และเหมือนจะใจร้ายกับผมมากเป็นพิเศษ ผมคงต้องใจดีกับตัวเองบ้างแล้วล่ะมั้ง แต่ถ้าการใจดีกับตัวเองทำให้ต้องเสียงานอีก สู้ใจร้ายกับตัวเองไปเลยจะดีกว่า จะได้เป็นคนมองโลกแง่ร้ายไปหมด
รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้จริงๆ รู้แบบนี้ถ้าไม่ทำแบบนั้นไปเลยก็คงไม่ต้องเสียงาน (บทเรียนจากความผิดพลาดร้ายแรงครั้งแรก)
ก็ตามนั้นแหล่ะครับ ผมก็รับโทษตามนั้นไป จากการทำผิดร้ายแรงครั้งแรกและครั้งเดียวโดยมิได้เจตนา (จะไม่มีครั้งต่อไปอีกกับการทำผิดพลาดร้ายแรงโง่ๆแบบนี้) แม้ไม่เจตนาแต่ในเมื่อมันทำผิดร้ายแรงไปแล้วมันก็ผิดอยู่ดี
แต่นั่นแหล่ะครับ ในสังคมแห่งการไม่ม๊โอกาสที่สองนี้ มันทำให้ผมกดดันตัวเองตลอดว่า ห้ามทำพลาดนะ ถ้าพลาดขึ้นมานิดนึง เสียงานเลยนะ
หลายครั้งผมต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด เรียนรู้จากสิ่งที่ทำลงไป ยิ่งทำ ยิ่งเสียความมั่นใจ ยิ่งทำ ยิ่งรู้สึกต้องระวังไม่ให้ทำผิดทำพลาดอีก เพราะในครั้งนี้เป็นบทเรียนที่โคตรเจ็บปวดเลย ครั้งนี้มันผิดร้ายแรงนำไปสู่การเสียงาน ในยุคที่งานหาโคตรยาก กว่าจะได้งานทำก็ไม่ง่ายอีก แต่ตัวเองดันมาทำให้เสียงานเพราะการทำผิดพลาดโง่ๆ ได้ ถ้าผมคิดได้เร็วกว่านี้ ผมคงไม่ต้องเสียงานไปแบบนี้ รู้แบบนี้สั่งอาหารผ่าน delivery เอาดีกว่า จะได้ไม่ต้องออกจุดเฝ้ายาม
จะไปสมัครที่ไหนก็ยากอีกมีประวัติความผิดพลาดร้ายแรงครั้งแรกไปแล้ว เสียความมั่นใจไปหมดเลย หรือรู้แบบนี้ไม่น่าทำแบบนี้เลย มานึกได้ก็สายไปแล้ว ทุกครั้งไป หลายครั้งที่ตัดสินใจผิด มักจบลงที่ความผิดพลาดเล็กน้อย แต่มีครั้งนี้ที่ตัดสินใจแล้วมันคือความผิดพลาดร้ายแรง
ทำไมกันนะ ทุกครั้งที่มีบทเรียนจากความผิดพลาด ทำไมจะต้องจบที่ความเจ็บปวดทุกครั้ง หรือจบที่ผลลัพธ์ในตอนท้ายร้ายแรงมากๆ
โลกใบนี้ใจร้ายกับทุกคนจริงๆ และเหมือนจะใจร้ายกับผมมากเป็นพิเศษ ผมคงต้องใจดีกับตัวเองบ้างแล้วล่ะมั้ง แต่ถ้าการใจดีกับตัวเองทำให้ต้องเสียงานอีก สู้ใจร้ายกับตัวเองไปเลยจะดีกว่า จะได้เป็นคนมองโลกแง่ร้ายไปหมด