ฮยอนซูและซูจินคู่แต่งงานใหม่ ที่กำลังสร้างครอบครัวทั้งคู่พักอาศัยยังอพาร์ตเม้นต์แห่งนึงใจกลางกรุง
ฮยอนซูเป็นนักแสดงที่กำลังมีอนาคตไกลในวงการ ขณะที่ซูจินเป็นหัวหน้าฝ่ายขายคนเก่ง
แต่ช่วงนี้ทำงานหนักมากไม่ได้เพราะกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก ชีวิตของคนทั้งคู่เป็นไปด้วยดี จนกระทั่งวันนึง...



กลางดึกคืนนึงอยู่ดีดีซูจินก็เห็นสามีของเธอลุกนั่งขึ้นมา และพูดกับเธอสั้นๆว่า.. “มีคนอยู่ข้างใน...” เท่านั้นก็นอนต่อในทันที.. 
ซูจินกังวลกับประโยคดังกล่าวเท่านั้นไม่พอ ในคืนต่อๆมา ฮยอนซูก็มีพฤติกรรมแปลกๆมากขึ้นทุกขณะ
ทั้งเกาหน้าเกาตัวอย่างรุนแรง ลุกไปกินของดิบๆในตู้เย็น แรงสุดถึงขั้นจะกระโดดหน้าต่างลงไปข้างล่างอีก.. 
ปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปไม่ได้แน่...ซูจินรีบพาสามีไปหาหมอในทันที



หมอบอกว่านี่เป็นอาการที่คนละเมอเป็นกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดรักษาหายได้ไม่ต้องกังวล 
แต่อาการของผู้เป็นสามีก็ยังไม่ดีขึ้น มิหนำซ้ำอาการต่างๆยิ่งดูหนักมากขึ้นไปเรื่อยๆ.. 
ซูจิน เครียดหนักจนไม่เป็นอันหลับอันนอน เธอต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่เธอจะเป็นบ้า....



Sleep (잠) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ เขย่าขวัญ สยองขวัญ ขวัญเอ๊ยขวัญมา ทุกขวัญกันเลยทีเดียว 
ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย Jason Yu หรือยูแจซอน นี่คือผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของเขา 
หลังจากก่อนหน้านี้เคยรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับของบงจุนโฮมาแล้วจากเรื่อง Okja (2017) และ Secretly Greatly (2013)



นำแสดงโดย จอง ยูมิ และ อี ซอนคยุน ในบทบาทของคู่สามีภรรยาในครอบครัวแสนสุข 
แต่กลับต้องมาเจอกับเรื่องราวแปลกประหลาดขณะนอนหลับ เมื่อการนอนละเมอของสามีนำพาซึ่งความหลอน
และทุกอย่างก็เริ่มเลวร้ายจนทำให้ครอบครัวสุขสันต์ถึงขั้นใกล้พังทลายกันเลยทีเดียว



หน้าหนังบอกว่าเป็นหนังสยอง.. เขย่า.. ระทึกขวัญ อย่างที่ผมเกริ่นไปแล้ว 
แต่พอผมดูไปผมคิดว่านี่คือ  black comedy หรือหนังตลกร้ายซะมากกว่า 
การตัดต่ออย่างฉับไวในหลายซีน ความหน้านิ่งของพระเอกนางเอก และแอคติ้งหลายอย่างทำให้ผมอดขำไม่ได้ (ไม่ได้ถึงขั้นหัวเราะฮ่าๆๆ อ่ะนะ) 
แน่นอนว่านี่คือความตั้งใจของผู้กำกับยูแจซอน ที่ต้องการทำหนังแนวนี้ให้แปลกใหม่และแหวกแนวจากที่มีในท้องตลาด 
แต่แน่นอนว่าความขวัญต่างๆที่มีก็ไม่ได้ตกหล่นแต่อย่างใด



ตัวหนังแบ่งเป็น 3 องก์ชัดเจน เริ่มจากปัญหาของสามี.. ปัญหาของภรรยา และสุดท้ายก็บทสรุป 
ซึ่งในช่วงท้ายหนังทำให้คนดูมานั่งถกเถียงกันต่อว่าสรุปแล้วสิ่งที่เราเห็นมาทั้งเรื่องนั้นมันมีเหตุมาจากสิ่งใดกันแน่.. 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาจากอาการป่วย.. มาจากจิตคิดไปเอง หรือมาจาก ผี!!!)  
ถือว่าเป็นตอนจบที่ทำออกมาได้ดีและน่าสนใจ เพราะไม่ว่าจะจบไปในทางไหน หนังมีคำอธิบายรองรับไว้ในทุกช่องทาง
พร้อมให้เรามาขบคิดกันต่อได้ทั้งนั้น.. ซึ่งถือว่าผู้กำกับเขียนบทออกมาได้ชาญฉลาดอย่างยิ่ง
(แม้ว่าจะมีช่องโหว่อยู่บ้างในปมบางประเด็นที่ไม่ได้มีการปูพื้นให้เห็น)



และแน่นอนครับ ดูหนังเรื่องนี้เห็นอี ซอนคยุน ก็อดใจหายไม่ได้ 
สำหรับแฟนหนังซีรี่ย์เกาหลีเราก็คงได้ชมผลงานของเขามามากมายนักต่อนัก สำหรับ Sleep นี่คืองานชิ้นท้ายๆในชีวิตของเขา 
(ท้ายสุดที่กำลังจะฉายปลายปีคือเรื่อง The Land of Happiness) 
ถึงแม้เจ้าตัวจะจากไป แต่งานของเขาจะอยู่ในความทรงจำของแฟนหนังไม่มีวันเสื่อมคลายแน่นอนครับ...

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===