เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางปี 2566 น้องสาวเรากับป้าอยู่บ้านกันสองคน เราทำงานต่างจังหวัด ส่วนพ่อกับแม่อยู่บ้านอีกหลัง ซึ่งห่างกันพอสมควร ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีห้า น้องสาวเราทักมาบอกว่า รู้สึกว่ามีคนกำลังแอบดูตอนน้องอาบน้ำ ช่วงนั้นน้องต้องตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปโรงเรียน เราเลยถามว่าใคร น้องบอกว่าคนข้างบ้าน น้องเห็นหน้าเขาด้วย ที่บ้านเราไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนห้องน้ำในตัวบ้านนั้น มีสองห้อง ห้องที่โดนแอบมองคือห้องอาบน้ำที่ใช้สังกะสีตีขึ้นมา สร้างติดกับกำแพงบ้านสูงเกือบเมตรห้าสิบ (ข้างบ้านถมที่ขึ้นสูงกว่าบ้านเรา ทำให้เขาสามารถมองและปีนเข้ามาได้) แต่การจะแอบเข้ามาดูถึงในห้องน้ำคือต้องปีนกำแพงเข้ามา เพราะตัวห้องน้ำทำห่างจากกำแพงพอสมควร จนเราต้องปรึกษาพี่สาว ว่าเราจะทำไงกันดี ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแอบดูมานานหรือยัง และถ้าเราบอกพ่อกับแม่เขาจะเชื่อเราหรือเปล่า เราเลยบอกให้น้องเก็บหลักฐาน โดยใช้โทรศัพท์ตั้งกล้องถ่าย ใช้เวลาทั้งสัปดาห์เพื่อถ่ายวิดีโอผู้ชายคนนั้น เขามาทุกวัน เวลาเดิม แต่เราให้น้องทำทีเหมือนจะอาบน้ำแต่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้านะคะ (น้องสาวเราอายุสิบห้าย่างสิบหกขวบ) จนได้หลักฐานมา และตัดสินใจแจ้งผู้ใหญ่ให้รับรู้ ตอนแรกป้าก็ไม่เชื่อค่ะ จึงได้แอบดูเขาในเวลาที่น้องเราอาบน้ำ ภายในครอบครัวได้ตกลงกันว่า ขอปรึกษาคุณลุงซึ่งเป็นตำรวจบ้านข้างๆก่อน ว่าเราทำอะไรได้บ้าง แต่พอไปปรึกษาข่าวกลับหลุดออกมาว่าบ้านเราใส่ร้ายลูกเขยเขา คนที่เป็นแม่ยาย ซึ่งเป็นญาติห่างๆของเรานั้น หาว่าครอบครัวเราใส่ร้ายลูกเขยเขา ไม่เชื่อที่เราบอก เขามาโวยวายที่บ้านเรา ด่าทอสารพัด จนได้ไปไกล่เกลี่ยที่บ้านผู้ใหญ่บ้านและลงบันทึกประจำวันกัน ฝ่ายลูกเขยนั้นไม่ยอมรับ แม่เราเลยบอกว่า ให้โอกาสพูดอีกครั้ง ว่าทำหรือไม่ และได้ถ่ายคลิปวิดีโอน้องเราด้วยหรือเปล่า ถ้ายังไม่ยอมรับทางเรามีหลักฐานทั้งหมด และจะแจ้งความดำเนินคดีด้วย เช้าวันต่อมา แม่ยายเขาได้ส่งลูกสาวและลูกเขยไปต่างจังหวัดทันที และไม่ยอมขอโทษที่ด่าทอป้าเราและน้องสาวตอนที่แม่ไม่อยู่บ้าน เราเลยให้น้องแอบอัดเสียงเขาไว้ ตอนที่เขาด่าเรา ทางเราไม่ได้ตอบโต้ ทั้งไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ และลูกสาวเขาอีกคนหนึ่งได้โพสต์ลงแอปฟ้า ว่าน้องสาวเราแอบถ่ายคลิปคนบ้านเขา เม้นท์ว่าเราสนุกใหญ่เลย ทั้งที่คนบ้านเขาปีนรั้วบ้านเรา ข้อความยาวนิดหนึ่งนะคะ เดี๋ยวเรามาต่อนะ
ทะเลาะกับคนข้างบ้าน